Friday, April 19Modern Manufacturing
×

พิษสงครามการค้ากระจาย Google ทิ้ง Huawei และ Toyota โวยส่อกีดกัน

ผลพวงจากการประกาศนโยบายป้องกันภัยคุกคามของประเทศจากประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาอย่าง Donald Trump ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการตอบโต้ทางนโยบายทางการค้าที่มีมายาวนาน ในตอนนี้ส่งผลกระทบต่อความเกี่ยวข้องอื่น ๆ แล้ว โดย Google ประกาศยกเลิกการสนับสนุน Feature ต่าง ๆ ให้กับ Huawei นอกจากนี้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota กลับอยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยงสำหรับนโยบายกีดกันการนำเข้ายานยนต์จากนโยบายความปลอดภัยแห่งชาติที่ประกาศขึ้น

พิษสงครามการค้ากระจาย Google ทิ้ง Huawei และ Toyota โวยส่อกีดกัน

พิษสงครามการค้ากระจาย Google ทิ้ง Huawei และ Toyota โวยส่อกีดกัน

Google VS Huawei บริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีอย่าง Google ตัดสินใจยกเลิกการสนับสนุนต่าง ๆ สำหรับสินค้าที่มาจาก Huawei ซึ่งเป็นผลจากการประกาศขึ้นบัญชีดำ Huawei โดย Donald Trump เจ้าเก่า ส่งผลกระทบไม่ว่าจะเป็นด้าน Hardware, Software และการบริการทางเทคนิคต่าง ๆ แต่ยังคงเปิดให้ใช้ในส่วนที่เป็น Open Source ซึ่งทำให้การอัปเดตและการเข้าถึงบริการต่าง ๆ จาก Google สำหรับ Huawei ต้องชะงักลง อาทิ การอัปเดต OS รุ่นใหม่ รุ่นย่อย การใช้งาน Google Play หรือแม้กระทั่งการใช้งานแอปพลิเคชัน Youtube โดยผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้ส่งผลเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ผู้ใช้งาน Huawei ทั่วโลกจะต้องประสบกับปัญหาที่เกิดขึ้นแบบเดียวกัน ปัญหาที่เกิดขึ้นในคราวนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นการตัดลมหายใจของ Huawei ในแบบถอนรากถอนโคนเลยก็เป็นได้

สำหรับ Toyota ผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ของโลกเองก็โดนหางเลขจากนโยบายความมั่นคงแห่งชาติที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้ายานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์เช่นกัน โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Trump ได้มีการเจรจาเกี่ยวกับการนำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์จากทั้งนานาชาติ อาทิ สหภาพยุโรปและญี่ปุ่น ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลต่างให้ข้อมูลตรงกันว่า

“นี่เป็นกำแพงการค้าที่ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย”

ปัจจุบัน Toyota มีแผนลงทุนในการปฏิบัติงานในสหรัฐฯ กว่า 13,000 ล้านดอลลาร์ต่อเนื่องในอีกหลายปี มีโรงงานผลิตกว่า 10 แห่ง ตัวแทนจำหน่ายกว่า 1,500 ราย และมีการจ้างงานใน Supply Chain ไม่ว่าจะเป็นทืางตรงหรือทางอ้อมเป็ฯประชาชนชาวสหรัฐฯ กว่า 450,000 คน ซึ่งหากมีกำแพงภาษีอันไร้ความยุติธรรมขึ้นมาผลกระทบจะไม่เกิดขึ้นกับ Toyota เท่านั้นแต่จะกระทบต่อสหรัฐอเมริกาเองด้วย โดยในระหว่างการเจรจานั้นการประกาศใช้นโยบายจะถูกเลื่อนออกไปก่อนเป็นเวลาราว 6 เดือน

นอกจากนี้การขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมินัมจาก Canada และ Mexico ได้ถูกเพิ่มมูลค่าขึ้น ซึ่งผลที่เกิดขึ้นทั้งหมดทั้งมวลส่งผลกระทบต่อสถานการณ์อุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาในปัจจุบันที่พยายามจะเปลี่ยนโฉมตัวเองเข้าอย่างจัง และแน่นอนว่ามันไม่ได้มีแต่เรื่องดี ๆ โดยท่านประธานาธิบดีผู้ลือนามอย่าง Donald Trump ได้ให้เหตุผลในเรื่องราวความสับสนอลหม่านทั้งหมดไว้ว่า

“การนำเข้าที่มากเกินไปทำให้ศักยภาพผู้ผลิตของอเมริกาในด้านการลงทุนสำหรับการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ นั้นอ่อนแอลง” 
Donald Trump

ภายใต้นโยบายป้องกันภัยคุกคามของประเทศไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจหรือความมั่นคง สิ่งเหล่านี้ได้ผลิดอกออกผลแล้วไม่ว่าจะเป็นการขานรับนโยบายของภาคเอกชน หรือเสียงร่ำไห้ที่ระงมขมขื่นจากคู่ค้าที่ทำธุรกิจกันมาอย่างยาวนาน แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้อาจไม่ได้ดูสวยงามสักเท่าไหร่นัก แต่ในขณะเดียวกันถ้ามองให้ดีจะเห็นว่า SEA กลายมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกและทางออกของปัญหาเหล่านี้อยู่กลาย ๆ ยกเว้นเสียแต่ว่า สหรัฐจะเริ่มมองว่า SEA ก็เป็นภัยกับตัวเองเหมือนที่มอง Toyota จากญี่ปุ่น…

ที่มา:

Cnn.com

Abc.net.au

Thos
"Judge a man by his questions rather than his answers"
Voltaire
READ MORE
×