ภาพรวมการลงทุน 5 เดือนแรกของประเทศไทยในปี 2568 พบว่ามีต่างชาติลงทุนในไทยมูลค่ากว่า 90,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 24% โดยมีญี่ปุ่นเป็นผู้ลงทุนมากที่สุด ในขณะที่พื้นที่ EEC มีการลงทุนคิดเป็น 30% ของมูลค่าการลงทุนทั้งหมดที่เกิดขึ้น
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 เปิดเผยว่า 5 เดือนแรก มกราคม – พฤษภาคม ปี 2568 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทยผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 105 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 321 ราย มูลค่าเงินลงทุนรวม 88,943 ล้านบาท โดยชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 3 อันดับแรกของ 5 เดือนแรก ปี 2568 ได้แก่
1. ญี่ปุ่น 85 ราย คิดเป็น 20% ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทย ลงทุน 41,062 ล้านบาท ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจการจัดหาจัดซื้อวัตถุดิบ ชิ้นส่วน และส่วนประกอบสำหรับอุตสาหกรรม, ธุรกิจบริการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อจำหน่าย และให้บริการ, ธุรกิจบริการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์พลาสติกวิศวกรรม และธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า เช่น ชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ , PCB, ชิ้นส่วนยานพาหนะ, เครื่องจักรสำหรับงานอุตสาหกรรม
2. สหรัฐอเมริกา 62 ราย คิดเป็น 15% ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทย ลงทุน 2,763 ล้านบาท ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจบริการทางวิศวกรรม โดยเป็นการให้คำปรึกษาแนะนำ และออกแบบเกี่ยวกับงานด้านวิศวกรรม, ธุรกิจค้าปลีกสินค้า เช่น เครื่องจักร เครื่องมือ และส่วนประกอบที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตแผ่นวงจร ซอฟต์แวร์สำเร็จรูป, ธุรกิจบริการตรวจสอบ วิเคราะห์ วิจัย และประเมินคุณภาพของอัญมณีและเครื่องประดับ และธุรกิจบริการรับจ้างผลิต เช่น สิ่งปรุงแต่งอาหาร โลหะผสมสำหรับผลิตเครื่องประดับ Captive Screw for PCB
3. จีน 53 ราย คิดเป็น 12% ของจำนวนธุรกิจต่างชาติ ลงทุน 7,539 ล้านบาท ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจจัดหาจัดซื้อวัตถุดิบ ชิ้นส่วนและส่วนประกอบสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ชิ้นส่วนโลหะ เป็นต้น เพื่อค้าส่งในประเทศ, ธุรกิจบริการซ่อมแซมและบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้า, ธุรกิจบริการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อจำหน่าย และ ให้บริการ และธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า เช่น ชิ้นส่วนยานพาหนะ ชิ้นส่วนโลหะหล่อขึ้นรูป แม่พิมพ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และ บรรจุภัณฑ์จากกระดาษที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
สำหรับการลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติ ในช่วงมกราคม – พฤษภาคม 2568 มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 129 ราย คิดเป็น 30% ของจำนวนนักลงทุนต่างชาติ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 จำนวน 30 ราย หรือ 30% โดยมีมูลค่าการลงทุนในพื้นที่ EEC 47,744 ล้านบาท คิดเป็น 54% ของเงินลงทุนทั้งหมด
โดยธุรกิจที่ลงทุนใน EEC ได้แก่
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า เช่น เครื่องจักร เครื่องมือ และส่วนประกอบที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ และชิ้นส่วนของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ชิ้นส่วนสำหรับซ่อมแซมเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิตยางรถยนต์
- ธุรกิจบริการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์พลาสติกวิศวกรรม
- ธุรกิจบริการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อให้บริการดิจิทัล
- ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า เช่น ชิ้นส่วนโลหะหล่อขึ้นรูป ผลิตภัณฑ์และชิ้นส่วนกลุ่มภาพและเสียง หุ่นยนต์ที่ใช้สำหรับผลิตและตรวจสอบคุณภาพการผลิต และผลิตภัณฑ์พลาสติกสำหรับอุตสาหกรรม
สิ่งที่น่าจับตาในแนวโน้มการลงทุนจากต่างชาติที่เกิดขึ้น 5 เดือนแรก คือ การลงทุนในกลุ่มการผลิต PCB ที่นักลงทุนจากต่างชาติให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยธุรกิจกลุ่ม Data Center และบริการ Cloud ที่เติบโตอย่างเกี่ยวเนื่องกันก็มีการลงทุนที่น่าจับตาด้วยเช่นกัน นอกเหนือจากกลุ่มนี้แล้ว กลุ่มอุตสาหกรรมมูลค่าสูงอื่น ๆ ก็มีแนวโน้มที่น่าสนใจด้วยเช่นกัน อาทิ การผลิตแผงโซลาร์เซลล์ การผลิตไนโตรเซลลูโลสสำหรับอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์ทางทันตกรรม
ที่มาข่าว:
สำนักข่าวไทย











