SIEMENS WinCC
TSMC

TSMC เร่งสร้างโรงงานผลิตชิปเทคโนโลยี 1.4 นาโนเมตรก่อนกำหนดการ

Date Post
29.08.2025
Post Views

ผูผ้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ยักษ์ใหญ่แห่งวงการกำลังเขียนประวัติศาสตร์ใหม่อีกครั้ง โดยบริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing Company หรือที่รู้จักกันในนาม TSMC ได้เริ่มดำเนินการสร้างโรงงานผลิตชิปเทคโนโลยี 1.4 นาโนเมตร ที่เรียกได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดและมีความท้าทายในระดับสูงที่เทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ผ่านมาเทียบไม่ติด

ซึ่งเร็วกว่ากำหนดการเดิม ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้บริษัทแห่งนี้ขยายการนำหน้าในตลาดผลิตชิปชั้นนำระดับโลกได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มาพร้อมกับเงินลงทุนมหาศาลที่อาจสูงถึง 49,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้เป็นหนึ่งในโครงการลงทุนด้านการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ 

การเริ่มต้นก่อสร้างที่เร็วกว่าแผนเดิมนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจของ TSMC ในความสามารถทางเทคโนโลยีและการตอบสนองความต้องการของตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

โครงการ Fab 25 – ศูนย์กลางการผลิตชิปรุ่นใหม่

บริเวณที่เลือกสำหรับการสร้างโรงงานแห่งใหม่นี้คือพื้นที่ในนิคมวิทยาศาตร์ Central Taiwan Science Park ซึ่งจะมีชื่อเรียกว่า ‘Fab 25’ และประกอบไปด้วยโรงงานผลิตทั้งหมด 4 แห่ง 

การวางแผนการผลิตมีความชัดเจนและเป็นระบบ โดยโรงงานแรกมีเป้าหมายให้เสร็จสิ้นการผลิตทดลองเสี่ยงภัยภายในสิ้นปี 2027 และเริ่มการผลิตจริงในช่วงครึ่งหลังของปี 2028

สิ่งที่น่าสนใจคือขีดความสามารถในการผลิตเมื่อดำเนินการเต็มรูปแบบแล้ว โรงงานเหล่านี้จะสามารถผลิตได้ประมาณ 50,000 เวเฟอร์ต่อเดือน ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มกำลังการผลิตที่มีนัยสำคัญต่อตลาดโลก 

รายได้ที่คาดหวังจากโรงงานใหม่นี้อาจเกิน 1.64 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แสดงให้เห็นถึงมูลค่าทางเศรษฐกิจอันมหาศาล

ในขณะเดียวกัน TSMC ได้แจ้งให้ซัพพลายเออร์เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับเทคโนโลยี 1.4 นาโนเมตรแล้ว และมีแผนติดตั้งสายการผลิตทดลองที่โรงงาน Baoshan ในซินจู้ในปีนี้ 

การเตรียมการที่รวดเร็วและครอบคลุมนี้แสดงให้เห็นถึงความจริงจังของบริษัทในการขับเคลื่อนโครงการให้บรรลุเป้าหมาย(ไม่ได้มาเล่น ๆ แน่ ๆ )

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของ A14

เทคโนโลยี A14 หรือ 1.4 นาโนเมตรนี้ไม่ได้เป็นเพียงการปรับปรุงเล็กน้อยจากรุ่นก่อน แต่เป็นการพัฒนาที่มีนัยสำคัญอย่างแท้จริง โดยสามารถให้ประสิทธิภาพที่เร็วขึ้นถึง 15% หรือลดการใช้พลังงานลงได้ถึง 30% เมื่อเทียบกับเทคโนโลยี N2 ที่มีอยู่ในปัจจุบัน 

นอกจากนี้ยังมีจำนวนทรานซิสเตอร์ต่อพื้นที่สูงขึ้นกว่า 20% ซึ่งหมายความว่าจะสามารถใส่ทรานซิสเตอร์ได้มากขึ้นในขณะที่มีพื้นที่เท่าเดิม 

สถาปัตยกรรมของ A14 ใช้ทรานซิสเตอร์ Gate-All-Around รุ่นที่สองและเทคโนโลยี NanoFlex Pro ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับแต่งประสิทธิภาพและประสิทธิภาพของพื้นที่ได้ตามความต้องการของแอปพลิเคชัน

การพัฒนานี้เป็นการตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นของระบบปัญญาประดิษฐ์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงแต่ใช้พลังงานน้อยลง

ประธานและซีอีโอของ TSMC ดร.ซี.ซี.เวย์( C. C. Wei ) กล่าวว่า “เทคโนโลยีการผลิตชิปที่ทันสมัยของ TSMC อย่าง A14 เป็นส่วนหนึ่งของชุดโซลูชันที่ครอบคลุมซึ่งเชื่อมต่อโลกกายภาพและดิจิทัลเพื่อปลดปล่อยนวัตกรรมของลูกค้าสำหรับการก้าวไปสู่อนาคตของปัญญาประดิษฐ์”

คู่แข่งล้าหลังในการแข่งขัน

สถานการณ์ของคู่แข่งหลักสองรายทำให้ตำแหน่งของ TSMC ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น Samsung ได้เลื่อนกำหนดการผลิตจริง 1.4 นาโนเมตรจากปี 2027 เป็นปี 2029 แทน 

โดยหันไปมุ่งเน้นการปรับปรุงอัตราผลผลิตของกระบวนการ 2 นาโนเมตรแทน การเลื่อนแผนงานนี้เกิดจากปัญหาการหาลูกค้าที่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง และปัญหาอัตราผลผลิตที่ยังไม่เข้าที่

ในขณะที่ Intel กำลังพิจารณาทบทวนแผนการพัฒนากระบวนการ 14A (เทียบเท่า 1.4 นาโนเมตร) หากไม่สามารถหาลูกค้าภายนอกรายใหญ่ได้ 

แม้ว่า Intel จะมีความก้าวหน้าด้วยเทคโนโลยี High-NA EUV แต่ก็ยังเผชิญกับความล่าช้าและความไม่แน่นอนในแผนงาน

ความล้าหลังของคู่แข่งทั้งสองรายนี้ทำให้ TSMC มีโอกาสขยายการนำหน้าในตลาดได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงที่ความต้องการชิปขั้นสูงสำหรับปัญญาประดิษฐ์กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

ผลกระทบต่อตลาดและลูกค้าสำคัญ

ลูกค้ารายใหญ่อย่าง Apple, AMD, Qualcomm และ MediaTek ได้จองกำลังการผลิตเทคโนโลยี 2 นาโนเมตรของ TSMC แล้ว และคาดว่าจะเป็นลูกค้าสำคัญสำหรับเทคโนโลยี 1.4 นาโนเมตรในอนาคตเช่นกัน 

ราคาเวเฟอร์สำหรับเทคโนโลยี 2 นาโนเมตรปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 30,000 ดอลลาร์ต่อเวเฟอร์ ขณะที่เทคโนโลยี 1.4 นาโนเมตรคาดว่าจะมีราคาสูงถึง 45,000 ดอลลาร์ต่อเวเฟอร์

แม้ราคาจะสูง แต่ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าและการประหยัดพลังงานที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่นี้ทำให้คุ้มค่าสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะอุปกรณ์ปัญญาประดิษฐ์และคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง

ผลการดำเนินงานทางการเงินของ TSMC ในไตรมาสที่ 2 ปี 2025 แสดงรายได้ 30.1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 44% เมื่อเทียบปีต่อปี โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการด้านปัญญาประดิษฐ์ และการเติบโตทางการเงินที่แข็งแกร่งนี้ให้ทรัพยากรเพียงพอสำหรับการลงทุนต่อเนื่องในการพัฒนาเทคโนโลยี

อนาคตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์

การเริ่มต้นก่อสร้างโรงงาน 1.4 นาโนเมตรของ TSMC ที่ล้ำหน้าแผนเดิมนี้ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยี 

แต่ยังเป็นการวางรากฐานสำหรับการแข่งขันในอนาคต บริษัทยังมีแผนการพัฒนาเทคโนโลยี 1 นาโนเมตรในโรงงาน Shalun Park ที่ไต้หวันด้วย ซึ่งจะสามารถรองรับโรงงานผลิตได้ถึง 10 แห่ง

การลงทุนครั้งนี้ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ TSMC ในการรักษาตำแหน่งเป็นผู้ผลิตชิปชั้นนำของโลก ในขณะที่ความต้องการชิปขั้นสูงสำหรับแอปพลิเคชันปัญญาประดิษฐ์ , คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง และอุปกรณ์มือถือรุ่นใหม่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ด้วยการก่อสร้างที่เริ่มต้นในเดือนตุลาคม 2025 และเป้าหมายเริ่มผลิตในปี 2028 TSMC กำลังสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันที่จะยากสำหรับคู่แข่งในการตามทัน 

การเคลื่อนไหวครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการลงทุนในเทคโนโลยี แต่เป็นการลงทุนในอนาคตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์โลกอีกด้วย

Source:
technetbooks, pepelac, smbom, asiabusinessoutlook, 36kr, intelligenthq, semiwiki, datacenterdynamics, driverscloud, nextbigfuture, linkedin, financialmodelingprep

Logo-Company
Logo-Company
Logo-Company
logo-company
Thossathip Soonsarthorn
"Judge a man by his questions rather than his answers" Voltaire