VEGA Instrument
FTA EU

‘กรมเจรจาฯ’ ขานรับนโยบายรัฐมนตรีศุภจี เร่งเจรจา FTA ไทย-EU รอบที่ 7 คืบหน้า

Date Post
07.10.2025
Post Views

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ขานรับนโยบาย รมว.พาณิชย์ เร่งเจรจา FTA ไทย-EU รอบที่ 7 คืบหน้าดี สรุปได้เพิ่มเติมทั้งการเคลื่อนย้ายเงินทุน และการจัดทำกฎระเบียบสำหรับบริการสาขาการเงิน ส่วนการเปิดตลาดการค้าคืบหน้าเป็นลำดับ อีกหลายประเด็นใกล้ได้ข้อสรุปแล้ว ชี้! สองฝ่ายจะหารือระหว่างรอบอย่างเข้มข้นให้มีความคืบหน้ามากที่สุด ปูทางไปสู่การเจรจาในรอบต่อๆ ไป

นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ตนในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายไทยได้นำทีมไทยแลนด์เข้าร่วมการเจรจา FTA ไทย-EU รอบที่ 7 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 กันยายน – 3 ตุลาคม 2568 ณ กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นางศุภจี สุธรรมพันธุ์) ให้เร่งรัดการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-สหภาพยุโรป (EU) โดยในภาพรวมการเจรจาครั้งนี้ มีความคืบหน้าที่ดีอย่างต่อเนื่อง สามารถสรุปเพิ่มเติมได้ในเรื่องการเคลื่อนย้ายเงินทุน ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนข้ามพรมแดน และการจัดทำกฎระเบียบสำหรับบริการสาขาการเงิน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความโปร่งใสและเสถียรภาพในภาคการเงิน สำหรับการเจรจาเปิดตลาดการค้าระหว่างกันมีความคืบหน้าเป็นลำดับ ทั้งการเจรจาเปิดตลาดการค้าสินค้า การค้าบริการ การลงทุน และการจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายประเด็นที่ใกล้ได้ข้อสรุปเช่นเดียวกัน โดยเหลือรายละเอียดในเชิงเทคนิค อาทิ มาตรการเยียวยาทางการค้า รัฐวิสาหกิจ ภาคผนวกสาขายานยนต์ และการแข่งขันทางการค้า

นางสาวโชติมา กล่าวว่า สำหรับแผนการทำงานต่อไป ตนเห็นว่าการเจรจาได้ดำเนินมาถึงจุดที่ทั้งสองฝ่ายต้องหาทางออกร่วมกันในประเด็นสำคัญต่างๆ อาทิ ระดับการเปิดตลาดสินค้า บริการ และการลงทุน การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ มาตรฐานสินค้าเกษตร การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา และการค้าดิจิทัล เพื่อให้สามารถสรุปผลการเจรจาได้ โดยทั้งสองฝ่ายยังตกลงที่จะประสานงานและหารือร่วมกันระหว่างรอบการเจรจา (intersession) อย่างเข้มข้น เพื่อให้การเจรจามีความคืบหน้ามากที่สุดและปูทางไปสู่การเจรจาในรอบต่อๆ ไป

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2568 หัวหน้าคณะเจรจาทั้งสองฝ่ายได้ร่วมงานสัมมนาภายใต้หัวข้อ Navigating Global Trade Uncertainty: Unlocking Mutual Benefits in Thailand-EU FTA Negotiations จัดโดยสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงบรัสเซลส์ เพื่อแจ้งพัฒนาการการเจรจา FTA ไทย-EU และรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชนต่อการเจรจา โดยภาคเอกชนยุโรปที่เข้าร่วมงานมาจากอุตสาหกรรมการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม ยานยนต์ ภาคบริการ และเทคโนโลยี ซึ่งหัวหน้าคณะเจรจาทั้งสองฝ่ายได้ย้ำความสำคัญของการเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดในช่วงสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการค้า ผ่านการจัดทำ FTA และร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นกับภาคเอกชนในประเด็นการประกอบธุรกิจและการอำนวยความสะดวกทางการค้า รวมถึงการเปิดตลาดสินค้า บริการและลงทุน และการจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ ใน FTA ไทย-EU

ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย. 2568) EU เป็นคู่ค้าอันดับ 4 ของไทย รองจากจีน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น โดยการค้าระหว่างไทยกับ EU มีมูลค่า 29,622.02 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2567 ร้อยละ 1.77 โดยไทยส่งออกไป EU มูลค่า 17,275.88 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.50 และไทยนำเข้าจาก EU มูลค่า 12,346.14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 5.30 สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เครื่องบิน เครื่องร่อน อุปกรณ์การบินและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ และเครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ 

Logo-Company
Logo-Company
Logo-Company
logo-company
Thossathip Soonsarthorn
"Judge a man by his questions rather than his answers" Voltaire
Super Source-E-market place สำหรับสินค้าอุตสาหกรรม