เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2568 โรงแรมเดอะเบอร์เคลีย์ประตูน้ำกรุงเทพฯ – กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ร่วมกับ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดงานสัมมนาใหญ่ภายใต้แนวคิด “Transform mining, Define the future: เหมืองยุคใหม่ด้วย Mining 4.0 Index” ภายในงานมีการเปิดตัวเครื่องมือประเมินระดับความพร้อมดิจิทัลสำหรับอุตสาหกรรมเหมืองแร่เป็นครั้งแรกของประเทศ พร้อมเผยโฉม 6 บริษัทต้นแบบที่พร้อมเปลี่ยนผ่านสู่มาตรฐานสากล

นายอานันท์ฟักสังข์รองอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) กล่าวว่า อุตสาหกรรมเหมืองแร่เปรียบเสมือนรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจไทยที่เป็นต้นน้ำให้แก่อุตสาหกรรมต่อเนื่องมากมาย อาทิ ปูนซีเมนต์ วัสดุก่อสร้าง เหล็ก เซรามิก ปิโตรเคมี พลังงาน และโครงสร้างพื้นฐาน หากภาคเหมืองแร่สามารถขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ย่อมส่งผลต่อห่วงโซ่มูลค่าทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของประเทศโดยตรง เพื่อให้ก้าวทันกระแสโลก เทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกอุตสาหกรรม
รวมถึงอุตสาหกรรมเหมืองแร่ โดยเฉพาะในสายการผลิตระบบอัตโนมัติ เครื่องจักรที่เชื่อมต่อข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล Big Data แพลตฟอร์มดิจิทัล และ AI เหล่านี้ คือมาตรฐานสำคัญของ Mining 4.0 ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่ประเทศไทยต้องก้าวให้ทัน เพื่อสร้างความปลอดภัย เพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และลดผลกระทบต่อชุมชนอย่างยั่งยืน

ดร.พนิตาพงษ์ไพบูลย์รองผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติสวทช. กล่าวว่า บทบาทหลักของ สวทช. คือการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาเชื่อมโยงกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม โดยในปีนี้มีผู้ประกอบการเหมืองแร่กว่า 50 ราย เข้าร่วมประเมินความพร้อมผ่านแพลตฟอร์ม Thailand i4.0 Index ของ สวทช. ซึ่งการประเมินดังกล่าวเปรียบเสมือน “กระจกสะท้อนองค์กร” ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการเห็นภาพรวมของตนเองในด้านต่าง ๆ ได้แก่ ด้านโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลความพร้อมในการจัดเก็บและเชื่อมโยงข้อมูล เทคโนโลยีดิจิทัลและระบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการทำงาน การจัดการสิ่งแวดล้อมการใช้เทคโนโลยีเพื่อลดผลกระทบต่อชุมชน และการพัฒนาบุคลากรเพื่อยกระดับทักษะแรงงานให้รองรับยุคดิจิทัล จาก Thailand i4.0 Index สวทช. ได้ร่วมกับ กพร. พัฒนาเป็น Mining 4.0 Index ที่เหมาะสมกับอุตสาหกรรมแร่ (เหมืองแร่ โรงโม่ โรงแต่งแร่) เป็นครั้งแรกของไทย

จากการดำเนินงานภายใต้ MOU ความร่วมมือระหว่าง กพร. และ สวทช. ได้มีการคัดเลือก 6 ผู้ประกอบการที่มีความโดดเด่นและมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีเชิงลึก เพื่อเข้ารับคำปรึกษาและวางแผนงานเทคโนโลยี (Technology Roadmap) อย่างเข้มข้น ได้แก่ บริษัท สิรินิธิ จำกัด, บริษัท ครีเอทีฟ มิเนอรัล จำกัด, บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน), บริษัท ช.นิยม จำกัด, บริษัท เหมืองแร่ลิวง จำกัด และบริษัท พิพัฒน์กร จำกัดซึ่งทั้ง 6 บริษัทได้ผ่านกระบวนการวิเคราะห์และจัดลำดับความสำคัญ ในการใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาการประกอบการของตนเอง รวมทั้งการลงพื้นที่เพื่อให้คำปรึกษาแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญ จนสามารถพัฒนาแผนงานที่เหมาะสมกับสภาพการผลิตจริงของตนเองได้อย่างเป็นรูปธรรม
“ความสำเร็จของ Mining 4.0 Index ในครั้งนี้ จะเป็นเกณฑ์มาตรฐานให้ภาครัฐนำไปต่อยอดกำหนดมาตรการสนับสนุนและสิทธิประโยชน์ทางการลงทุน เพื่อขับเคลื่อนเหมืองแร่ไทยสู่ยุค 4.0 อย่างมั่นคงและรับผิดชอบต่อสังคม” นายอานันท์ กล่าวทิ้งท้าย










