ตลาดหุ้นไต้หวันในปี 2025 ถูกประเมินว่ามีแนวโน้มทำผลงานเหนือกว่าตลาดหลักในเอเชียอย่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ จากแรงหนุนของหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์และบริษัทในห่วงโซ่อุปทานปัญญาประดิษฐ์ โดยเฉพาะผู้ผลิตชิปขั้นสูง ผู้ผลิตอุปกรณ์โรงงานผลิตชิป รวมถึงผู้ผลิตบอร์ดและโมดูลสำหรับเซิร์ฟเวอร์ AI ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลยุคใหม่ ความคึกคักดังกล่าวสะท้อนการไหลของเงินลงทุนที่ตอบรับเมกะเทรนด์ AI อย่างชัดเจน
รายงานนักวิเคราะห์คาดว่าในปี 2026 ยอดส่งมอบเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด จากราว 4 ล้านเครื่องในปี 2025 เป็นประมาณ 15 ล้านเครื่อง โดยราว 30% จะเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่ออกแบบมารองรับงาน AI ทั้งด้านการฝึกสอนโมเดลและการใช้งานจริง
การขยายตัวนี้เชื่อมโยงโดยตรงกับแผนลงทุนขนาดใหญ่ของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของสหรัฐ ได้แก่ Alphabet, Microsoft, Amazon และ Meta ซึ่งถูกคาดว่าจะทุ่มงบรวมกันราว 4.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2026 เพื่อเร่งขยายดาต้าเซ็นเตอร์และโครงสร้างพื้นฐาน AI ในหลายภูมิภาคทั่วโลก
นักวิเคราะห์มองว่า จุดแข็งของตลาดหุ้นไต้หวันอยู่ที่สัดส่วนหุ้นเซมิคอนดักเตอร์และผู้ผลิตชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับดาต้าเซ็นเตอร์ AI ซึ่งมีความเข้มข้นสูงกว่าญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ทำให้ตลาดตอบสนองต่อข่าวการลงทุนของบิ๊กเทคได้รวดเร็วและรุนแรงกว่า อย่างไรก็ตาม ความร้อนแรงดังกล่าวมาพร้อมความเสี่ยงจากวัฏจักรอุตสาหกรรมชิปและความเป็นไปได้ของการปรับฐาน หากการลงทุนจริงของบริษัทเทคโนโลยีต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้
✦ มุมมองในภาคอุตสาหกรรมของทาง MM Thailand
การพุ่งขึ้นของหุ้นไต้หวันสะท้อนบทบาทประเทศฐานการผลิตหลักของโลกในยุค AI โดยเฉพาะด้านชิปและเซิร์ฟเวอร์ หากเมกะเทรนด์ AI ยังเดินหน้าต่อเนื่อง ไต้หวันจะได้อานิสงส์เชิงโครงสร้างในระยะกลางถึงยาว แต่ผู้ประกอบการและนักลงทุนยังต้องจับตาความผันผวนของวัฏจักรชิป ต้นทุนพลังงาน และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจกระทบห่วงโซ่อุปทานได้
ที่มา : TAIPEI TIMES
