Wednesday, April 24Modern Manufacturing
×

AI ยุคใหม่ปลดล็อคศักยภาพมนุษย์ด้วยระบบอัตโนมัติได้อย่างไร?

AI และระบบอัตโนมัตินั้นมีบทบาทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสำหรับสังคมมนุษย์ในยุคปัจจุบัน แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะสามารถเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้นแต่ก็ยังไม่ได้อยู่ในระดับที่เข้าถึงได้ทุกคน นั่นเป็นเพราะข้อจำกัดด้านทรัพยากรและในบางครั้งก็เกิดมาากความเข้าใจผิด ๆ เพื่อแก้ไขความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นและเสนอแนวทางที่น่าสนใจ Forbes จึงได้เผยแพร่บทความที่เสนอแนะการบูรณาการเทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อยกระดับปริสทธิภาพของมนุษย์ขึ้นมา

AI ยุคใหม่ปลดล็อคศักยภาพมนุษย์ด้วยระบบอัตโนมัติได้อย่างไร?

บทบาทหน้าที่ของระบบอัตโนมัติไม่ว่าจะเป็นการเกษตร โรงงาน หรือสำนักงงาน คือ การเพิ่มความเร็วให้กับกระบวนการ ซึ่งความเร็วนั้นมาพร้อมกับศักยภาพอื่น ๆ เช่น ความสามารถในการตรวจสอบ การบันทึกข้อมูล ความโปร่งใส หรือการควบคุมความสม่ำเสมอของผลลัพธ์เป็นต้น ซึ่งกระบวนการที่ใช้ระบบอัตโนมัติเพื่อทำงานนั้นมักเป็นกระบวนการที่ทำซ้ำ ๆ เปิดโอกาสให้มนุษย์ไปทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์หรือยกระดับการทำงานที่มีคุณค่ามากกว่า

AI ยุคใหม่ปลดล็อคศักยภาพมนุษย์ด้วยระบบอัตโนมัติได้อย่างไร?

ระบบอัตโนมัตินั้นอาจเรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของ Digital Transformation ที่จับต้องได้ เมื่อองค์กรมีความเข้าใจและมีประสบการณ์ที่มากเพียงพอก้าวต่อไป คือ การบูรณาการ AI หรือปัญญาประดิษฐ์เพื่อให้ระบบอัตโนมัติเข้าถึภาระหน้าที่ที่ยังคงเป็น Manual บางประการได้ ทำให้เกิดโซลูชันการพัฒนาสิ่งที่เรียกว่า Digital Employee หรือลูกจ้างดิจิทัลขึ้นมา

การเข้ามาของ AI และระบบอัตโนมัติสามารถนำมนษย์ไปสู่บทบาทใหม่ที่ฉลาดและเฉียบคมยิ่งกว่าเดิม ซึ่งโดยปกติเป็นที่รู้กันดีว่าเราใช้สมองเพียง 10% ของศักยภาพที่แท้จริง ซึ่งสมองของเราได้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการวางแผน หาเหตุผลต่าง ๆ การชั่งน้ำหนักการตัดสินใจและการบูรณาการต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปได้ แต่เชื่อไหมครับว่าการทำงานไปวัน ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นทำร้ายศักยภาพของสมองเราไปไม่น้อย

มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์บ่งชี้ว่าสมองของเราต้องทุกข์ทรมานเวลามนุษย์นั้นต้องทำงานสลับไปสลับมาอย่างต่อเนื่อง ไม่แตกต่างจากการสลับแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟนไปมา เช่นเมื่อแรงงานต้องทำการตรวจกระบวนการ Manual ที่ต้องทำจากรายการตรวจสอบการทำงาน พวกเขาจะสัมผัสถึงพลังงานสำหรับการวางแผนความคิดได้เพียงน้อยนิด ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนั้นทำให้แรงงานพบว่าตัวเองเป็นแค่กลไกธรรมดาไม่ได้มีส่วนร่วในการก้าวไปข้างหน้า การก้าวนำปัญหา หรือแม้แต่การเข้าถึงโอกาสต่าง ๆ

AI ยุคใหม่จะช่วยให้ระบบอัตโนมัติสามารถจัดการความเหนื่อยล้าจากหน้าที่การทำงานเหล่านี้ ทำให้แรงงานสามารถทำงานได้โดยสมองปลอดโปร่ง ส่งผลให้เกิดการทำงานและการตัดสินใจที่ดีและเฉียบคมยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดการใช้สมองได้อย่างเต็มศักยภาพสิ่งสำคัญ คือ การเปิดโอกาสให้ได้ใช้สมองตรึกตรองและพิจารณาอยู่บ่อย ๆ แทนที่จะต้องมากังวลกับ Productive พวกเขาจะให้ความสำคัญกับนวัตกรรม การยกรดับกระบวนการและทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดียิ่งกว่าเดิมขึ้นมา ซึ่งการจะทำให้เกิดการพัฒนาเหล่านี้ขึ้นได้ต้องสนับสนุนให้แรงงานผ่านขั้นตอนที่เหมาะสมเช่นขั้นตอนที่ยกตัวอย่างต่อไปนี้

1. ต้องเข้าใจความต่างของระบบอัตโนมัติที่มีพื้นฐานจาก ภาระหน้าที่, บทบาท, และฟังก์ชัน

ระบบอัตโนมัติแบบพื้นฐานจากภาระหน้าที่ (Task-based) มักใช้กับภาระหน้าที่ง่าย ๆ สำหรับแรงงานเพียงคนเดียวแต่นั่นไม่ได้หมายควาว่าจะไม่เกี่ยวกับกระบวนการ สำหรับระบบอัตโนมัติที่มีพื้นฐานจากบทบาท (Role-based) นั้นเป็นอะไรที่คล้ายกับการคิดริเริ่มด้วยตัวแรงงานเองตามคำขอร้องหรือคำสั่งเพื่อดำเนินการกระบวนการและเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ขึ้นแรงงานต้องตัดสินใจและดำเนินการเอง อาจยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น เจ้าหน้าที่สำหรับซ่อมบำรุงเครื่องจักรเป็นต้น และสุดท่ายคือระบบอัตโนมัติที่มีพื้นฐานจากฟังก์ชัน (Function-based) รับหน้าที่ภาระที่ซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับแรงงานหรือภาคส่วนที่หลากหลายในธุรกิจ ซึ่งในส่วนนี้เทคโนโลยีระบบอัตโนมัติที่ล้ำสมัยต้องการข้อมูลทั้งเป็นโครงสร้างและยังไม่เป็นโครงสร้างเพื่อตัดสินใจและดำเนินการในฐานะตัวแทนของผู้คน การแบ่งจำแนกพื้นฐานเหล่านี้สามารถเปลี่ยนแปลงและสร้างคุณค่าให้องค์กรได้

2. จับโอกาสที่เกิดจากระบบอัตโนมัติที่ดีที่สุดให้ได้

เพื่อให้เข้าใจว่าต้องใช้ระบบอัตโนมัติในส่วนใดและผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นนั้นเป็นอย่างไร สิ่งแรกที่ต้องทำคือร่างแผนที่ภาระกิจที่ต้องทำในแผนตารางประเมินให้ได้เสียก่อน ซึ่งการใช้แนวคิดของ Eisenhower Matrix ที่ใช้บริหารจัดการเวลาโดยปรับให้แกนนอนเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นกับธุรกิจและแกนตั้งเป็นความจำเป็นในการให้มนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งกิจกรรมที่อยู่ในช่องที่ผลกระทบกับธุรกิจสูงและต้องการให้มนุษย์มาเกี่ยวข้องน้อยนั้นเป็นจุดที่ระบบอัตโนมัติจะสร้างผลตอบแทนให้ได้ดีที่สุด

3. ประเมินและเลือกโซลูชันระบบอัตโนมัติรวมถึงวิธีการใช้งานที่ดีที่สุด

จากขั้นตอนก่อนหน้าที่สามารถวัดค่าความสำคัญได้แล้ว ขั้นต่อไป คือ การประเมินเทคโนโลยีหรือผู้จัดจำหน่าย สิ่งสำคัญที่ต้องระลึกไว้เสมอ คือ เทคโนโลยีและวิธีการใช้งานที่เกิดขึ้นนั้นจะต้องส่งมอบคุณค่าให้กับผู้ใช้งาน ลูกค้าและธุรกิจในระดับที่ต้องการได้ภายใต้กรอบเวลาที่ต้องการ ถ้าให้พูดง่าย ๆ ก็ต้องบอกว่าตัวเลือกไหนทำให้การ Transform เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วเหมาะสมที่สุด

ที่มา:
Forbes

เนื้อหาที่น่าสนใจ:
AI รุ่นใหม่สามารถคำนวณความเครียดและความเค้นวัตถุจากภาพได้

Thos
"Judge a man by his questions rather than his answers"
Voltaire
READ MORE
×