VEGA Instrument
cloud erp ai iiot smart factory 2025

Cloud ERP พร้อม AI และ IIoT: ระบบบริหารโรงงานที่โต 40% ในครึ่งแรกปี 2025

Date Post
20.10.2025
Post Views

ตลาด Cloud ERP เติบโตแรงในปี 2025

ตลาด Cloud ERP ทั่วโลกกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่า 87.73 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2024 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 172.74 พันล้านเหรียญภายในปี 2029 ด้วยอัตราการเติบโตทบต้นต่อปี (CAGR) ที่ 14.5% การเติบโตนี้ไม่ใช่แค่ตัวเลขธรรมดา แต่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวิธีบริหารโรงงานยุคใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นจริง

Cloud ERP คือระบบวางแผนทรัพยากรองค์กรที่ทำงานบนคลาวด์ แทนการติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ไว้ในบริษัท ระบบนี้เชื่อมโยงทุกแผนกตั้งแต่การจัดซื้อ การผลิต คลังสินค้า การขาย ไปจนถึงบัญชีและการเงินเข้าด้วยกัน ข้อมูลทุกอย่างอัปเดตแบบเรียลไทม์และเข้าถึงได้จากทุกที่ที่มีอินเทอร์เน็ต

สำหรับตลาดประเทศไทย ระบบ ERP กำลังได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจการผลิตซึ่งมีสัดส่วนการใช้งานสูงถึง 47% ของผู้ใช้ ERP ทั้งหมด ตลาด ERP ในไทยมีมูลค่า 70.32 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2022 และคาดว่าจะเติบโตเป็น 161.48 ล้านเหรียญภายในปี 2032 ด้วยอัตราการเติบโต 8.7% ต่อปี

ทำไม ERP โรงงานต้องย้ายขึ้นคลาวด์

โรงงานไทยหลายแห่งยังใช้ระบบ ERP แบบเดิมที่ติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์ในออฟฟิศ หรือแม้แต่ Excel และโปรแกรมแยกกันหลายตัว ปัญหาคือข้อมูลไม่เชื่อมกัน ผู้บริหารไม่เห็นภาพรวมแบบเรียลไทม์ และการอัปเกรดระบบมีค่าใช้จ่ายสูง

ระบบ Cloud ERP สำหรับโรงงานแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ทันที การลงทุนครั้งแรกต่ำกว่าเพราะไม่ต้องซื้อเซิร์ฟเวอร์ ไม่ต้องจ้าง IT มาดูแลระบบตลอดเวลา โรงงานที่เปลี่ยนมาใช้ Cloud ERP รายงานว่าสามารถประหยัดต้นทุนได้ถึง 20% นอกจากนี้ระบบยังขยายขนาะตามการเติบโตของธุรกิจได้อย่างยืดหยุ่น

สำหรับโรงงานขนาดกลางที่มีพนักงาน 50-200 คน ระยะเวลาในการติดตั้งระบบ ERP โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 6-9 เดือน ในขณะที่โรงงานขนาดเล็กอาจใช้เวลาเพียง 3-4 เดือนก็สามารถเริ่มใช้งานได้ ซึ่งรวดเร็วกว่าระบบ ERP แบบเดิมที่อาจใช้เวลานานกว่าปี

AI และ IIoT เข้ามาเปลี่ยนเกมอย่างไร

สิ่งที่ทำให้ Cloud ERP ในปี 2025 แตกต่างจากก่อนหน้านี้คือการผสานเทคโนโลยี AI และ Industrial IoT เข้าด้วยกัน จากการสำรวจของ Rootstock พบว่า 82% ของโรงงานผลิตวางแผนเพิ่มงบประมาณสำหรับ AI ในปี 2025 และมีโรงงานกว่า 77% ที่ใช้งาน AI แล้ว เพิ่มขึ้นจาก 70% ในปี 2023

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือระบบ Predictive Maintenance ที่เซ็นเซอร์ IIoT ติดตั้งบนเครื่องจักร ส่งข้อมูลการสั่นสะเทือน อุณหภูมิ และการใช้ไฟฟ้าเข้าสู่ Cloud ERP แล้ว AI วิเคราะห์และแจ้งเตือนก่อนเครื่องจักรเสีย ตามรายงานของ McKinsey & Company ระบบ Predictive Maintenance สามารถลดเวลาหยุดเครื่องได้ถึง 50% และลดต้นทุนการบำรุงรักษาได้ 10-40% การศึกษาของ Deloitte พบว่าระบบนี้สามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุนเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า

ฟีเจอร์ AI-powered Demand Forecasting กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โรงงานที่นำ AI มาใช้ในการคาดการณ์ความต้องการพบว่าความแม่นยำเพิ่มขึ้นถึง 50% ระบบสามารถวิเคราะห์ข้อมูลการขายในอดีต แนวโน้มตลาด และปัจจัยทางเศรษฐกิจ ทำให้โรงงานวางแผนการผลิตและจัดซื้อวัตถุดิบได้แม่นยำขึ้น บริษัท BMW ลดสินค้าคงคลังส่วนเกินได้ 10% และปรับปรุงอัตราหมุนเวียนสินค้าคงคลังได้ 25%

นอกจากนี้ AI ยังช่วยลดต้นทุนสินค้าคงคลังได้ถึง 40% และเพิ่มความพร้อมของสต็อกสินค้าได้ 30% การประยุกต์ใช้ AI ในโรงงานครอบคลุมตั้งแต่การผลิต (31%) การจัดการสินค้าคงคลัง (28%) ไปจนถึงการบริการลูกค้า (28%)

ระบบ ERP ภาษาไทยสำคัญแค่ไหน

สำหรับโรงงานในไทย ระบบ ERP ภาษาไทยไม่ใช่แค่เรื่องของความสะดวก แต่เป็นปัจจัยสำคัญในการนำระบบไปใช้จริงให้สำเร็จ พนักงานในสายการผลิต เจ้าหน้าที่คลังสินค้า และแม้แต่ผู้จัดการแผนกส่วนใหญ่ทำงานได้คล่องแคล่วกว่าเมื่อใช้ภาษาไทย

ระบบที่รองรับภาษาไทยครบถ้วนทั้งหน้าจอ รายงาน และเอกสารต่างๆ ทำให้อัตราการยอมรับของพนักงานสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผู้ให้บริการหลายรายในไทยได้พัฒนา Thai Localization Pack ที่ไม่เพียงแค่แปลภาษา แต่ยังปรับให้เข้ากับข้อกำหนดของกรมสรรพากรไทย เอกสารภาษีอย่างใบกำกับภาษี หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และรายงานภาษีต่างๆ

ผู้ให้บริการ Cloud ERP รายใหญ่อย่าง SAP, Oracle NetSuite และ Microsoft Dynamics 365 ล้วนมีเวอร์ชันภาษาไทยแล้ว นอกจากนี้ยังมีผู้ให้บริการในไทยที่พัฒนาระบบเฉพาะสำหรับ SME อย่าง PlanetOne ERP, Nexcloud ERP และ SME ERP ที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์ธุรกิจไทยโดยเฉพาะ

Cloud ERP ราคาเท่าไหร่ SME เข้าถึงได้ไหม

คำถามที่โรงงาน SME ถามบ่อยที่สุดคือเรื่องราคา โดยภาพรวมแล้วมีรูปแบบการคิดค่าใช้จ่ายแบบ Subscription รายปี ทำให้ไม่ต้องลงทุนก้อนใหญ่ตั้งแต่แรก

สำหรับตลาดไทย ระบบ ERP สำหรับ SME มีหลากหลายตัวเลือก ตัวอย่างเช่น PlanetOne ERP มีแพ็กเกจ SME ที่โมดูลต่างๆ มีราคาตั้งแต่ 67,300-109,440 บาทต่อโมดูล พร้อมค่าติดตั้งและค่าบำรุงรักษาที่ 18% ของมูลค่าโครงการต่อปี ระบบอื่นๆ อย่าง Odoo ERP บนคลาวด์หรือ SME ERP มีรูปแบบ Subscription รายปีที่คิดตามจำนวนผู้ใช้งานจริง

ข้อดีของรูปแบบ Subscription คือค่า Maintenance และ Update รวมอยู่ในราคาแล้ว สามารถเพิ่มหรือลด User ได้ตามความต้องการจริง และที่สำคัญคือไม่ต้องลงทุนในเซิร์ฟเวอร์และโครงสร้าง IT ที่มีราคาแพง

โรงงานขนาดเล็กที่ใช้ Cloud ERP สามารถคืนทุนได้เฉลี่ย 100% ภายใน 27 เดือน การศึกษาของ Aberdeen Group พบว่าธุรกิจที่ติดตั้งระบบ ERP มีประสิทธิภาพการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 24% นอกจากนี้โรงงานที่ใช้งาน Manufacturing ERP รายงานว่าสามารถลดต้นทุนการดำเนินงานได้ถึง 23%

แนวโน้มในอนาคตใกล้

ตลาด Cloud ERP สำหรับโรงงานในเอเชียแปซิฟิกรวมถึงไทยคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องด้วยอัตรา CAGR สูงถึง 27.90% เนื่องจากโครงการดิจิทัลทรานสฟอร์เมชันของรัฐบาลและการลงทุนด้านเทคโนโลยีของ SME ที่เพิ่มขึ้น แนวโน้มที่น่าจับตาคือการเชื่อมต่อกับระบบภายนอกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น E-Commerce Platform ระบบ Logistics หรือแพลตฟอร์ม B2B

การผสานรวม AI เข้ากับ Cloud ERP จะเข้มข้นขึ้น SAP รายงานว่าฟีเจอร์ AI ปรากฏในข้อตกลงการขาย ERP ครึ่งหนึ่งของไตรมาสที่ 4 ปี 2024 ฐานข้อมูลแบบ multicloud ที่มี AI ในตัวของ Oracle เติบโต 115% ในไตรมาสที่ 4 ปี 2025 ระบบ ERP จะพัฒนาไปสู่การตัดสินใจแบบเรียลไทม์มากขึ้น ตั้งแต่การปรับแผนการผลิตอัตโนมัติไปจนถึงการวิเคราะห์ห่วงโซ่อุปทาน

สำหรับโรงงานที่กำลังพิจารณาเปลี่ยนมาใช้ Cloud ERP นี่คือจังหวะที่ดี เทคโนโลยีพร้อมใช้งานแล้ว ราคาเข้าถึงได้มากขึ้น และที่สำคัญคือ 53% ของธุรกิจถือว่า ERP เป็นการลงทุนที่มีความสำคัญลำดับแรก โดยอุตสาหกรรมการผลิตและการกระจายสินค้านำการใช้งาน โรงงานที่ยังไม่มีระบบบริหารที่ดีอาจพบว่าช่องว่างทางการแข่งขันเริ่มห่างขึ้นทุกวัน


Logo-Company
Logo-Company
Logo-Company
logo-company
Pisit Poocharoen
Former field engineer seeking to break free from traditional learning frameworks. อดีตวิศวกรภาคสนามที่ต้องการหลุดออกจากกรอบการเรียนรู้แบบเดิม ๆ