VEGA Instrument
IDA Project
Factory Cybersecurity 2026

Factory Cybersecurity 2026: คำถาม ความเชื่อ และอนาคตของโรงงานยุคใหม่

Date Post
28.11.2025
Post Views

หากพูดเรื่องความปลอดภัยในโรงงาน ผู้ผลิตในประเทศไทยส่วนใหญ่คงนึกถึงงานในรูปแบบ จป. หรือการดูแลความพร้อมเครื่องจักร อุปกรณ์ต่าง ๆ ในเชิงกายภาพเสียมากกว่า ทั้งที่จริงแล้วเรื่องของความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) นั้นเป็นประเด็นที่มีความอ่อนไหวไม่แพ้กัน และในบางแง่มุมเรียกได้ว่ามีช่องโหว่ที่สร้างความเสียหายให้กับธุรกิจได้มากกว่าประเด็นทางกายภาพเสียอีก MMThailand จึงขอเชิญชวนทุกท่านสำรวจทิศทางและแนวโน้มของความปลอดภัยทางไซเบอร์สำหรับโรงงานที่ต้องเตรียมรับมือในปี 2026 ที่กำลังจะมาถึงกันนี้ครับ

Cybersecurity ใกล้ตัวแค่ไหน? เมื่อโลกเปลี่ยนไปในวันที่ทุกคนมีสมาร์ทโฟน

เชื่อหรือไม่ว่าประเด็นของ Cybersecurity ในวันนี้ไมใช่เรื่องของระดับองค์กร หน่วยงาน หรือภาคธุรกิจเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ภัยคุกคามเหล่านี้เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาในชีวิตประจำวัน ท่ามกลางยุคสมัยที่สมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว

ข้อมูลจากงาน CDIC 2025 ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (pdpc) ได้นำมาบอกเล่านั้นเปิดเผยถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีมากกว่า 2 แสนคดีต่อปี มูลค่าความเสียหายมากกว่า 3 หมื่นล้านบาท โดยมีการหลอกซื้อสินค้าและบริการมากถึง 47.8% ในขณะที่การหลอกโอนเงิน, หลอกกู้เงิน, Call Center ข่มขู่ทางโทรศัพท์, หลอกลงทุนผ่านคอมพิวเตอร์ และหลอกเป็นบุคคลอื่นเพื่อยืมเงินเป็นสัดส่วนไล่เรียงมาตามลำดับ

หากมองในภาพของหน่วยงานหรือองค์กรที่มีการแจ้งเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลจะพบว่า กลุ่มการเงิน การลงทุน และประกันมีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลสูงสุด 553 เรื่อง ในขณะที่พลังงานและอุตสาหกรรมการผลิตอยู่ที่ลำดับ 5 มีการแจ้งเหตุเกิดขึ้นกว่า 60 เรื่องในปี 2568 นี้ ซึ่งสาเหตุลำดับที่ 1 ของการละเมิดนั้นเกิดจาก Human Error หรือการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล 475 เรื่อง และประเด็นที่ถูกร้องเรียนมากที่สุด 3 ลำดับ ได้แก่ การเปิดเผยข้อมูลโดยไม่ได้รับความยินยอม, การเปิดเผยข้อมูลเกินความจำเป็น และไม่จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสม

จะเห็นได้ว่าเรื่องของ Cybersecurity เป็นเรื่องที่ไม่ได้อยู่เฉพาะในองค์กรใหญ่อีกต่อไปแต่เป็นเรื่องของทุกคนที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในลักษณะที่เป็นคอมพิวเตอร์ติดตามตัวหรือสมาร์ทโฟนต่าง ๆ และส่วนที่เกิดปัญหามากที่สุดก็ยังคงเป็น ‘ความผิดพลาดของมนุษย์อยู่นั่นเอง’

‘22,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อนาที’ มูลค่าความเสียหายจาก Downtime ที่เกิดขึ้นได้ในโรงงาน

ข้อมูลจาก Check Point บริษัทชั้นนำด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เผยแพร่ไว้ในเอกสาร ‘The State of Cyber Security 2025’ เผยให้เห็นว่าภาคการผลิตนั้นมีการถูกโจมตีต่อสัปดาห์เพิ่มมากขึ้น 43% หรือ 1,312 เคสเมื่อเปรียบเทียบปี 2024 กับปี 2023 และการถูกโจมตีส่วนใหญ่เกิดขึ้นจาก Email ซึ่งมักแนบลิงค์หรือไฟล์ไม่พึงประสงค์ และภาคการผลิตเองยังเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ต้องตกเป็นเหยื่อของ Ransomware มากที่สุด คิดเป็น 22% จากการแบ่งกลุ่ม 10 อุตสาหกรรม

ในขณะเดียวกันเอกสาร ‘Cost of a Data Breach Report 2025’ จาก IBM ชี้ให้เห็นว่า AI มีส่วนร่วมในการโจมตีทางไซเบอร์เกิดขึ้นแล้ว โดย 1 ใน 6 การโจมตีที่เกิดขึ้นนั้นมีการใช้ AI ในกลุ่ม Gen AI ซึ่งลดเวลาที่ใช้ในการโจมตีลงได้ ยกตัวอย่างกรณีของ Phishing Email ที่เคยใช้เวลา 16 ชั่วโมงลดลงมาเหลือ 5 นาที และแสดงให้เห็นสัดส่วนว่า 16% ของการโจมตีนั้นมี AI มาเกี่ยวข้อง ทั้งการสร้าง Phishing (37%) และการปลอมแปลงตัวตนด้วย Deepfake (35%) โดยภาคอุตสาหกรรมมีมูลค่าความเสียหายจากการถูกละเมิด (Breach) สูงถึง 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2025

เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดขึ้น IBM ได้แสดงให้เห็นถึงค่าเฉลี่ยของข้อมูลที่ถูกละเมิดในภาคอุตสาหกรรมนั้นมีมูลค่าสูงถึง 830,000 ดอลลาร์หรัฐฯ เมื่อเกิดการ Breach แต่ละครั้ง เป็นผลมาจากการที่ผู้ผลิตนั้นมีความอ่อนไหวอย่างมากกับ Downtime ที่เกิดขึ้น โดยมีการยกตัวอย่างในกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ที่จะเกิดการสูญเสียเงินกว่า 22,000 ดอลลาาร์สหรัฐฯ ต่อนาที (ประมาณ 7 แสนบาท) หากสายการผลิตเกิดหยุดชะงัก

สาเหตุการละเมิดข้อมูลในองค์กรจาก IBM

AI, AGI และ Quantum เทรนด์สำคัญที่โรงงานต้องพร้อมรับมือสำหรับ Cybersecurity 2026

ความท้าทายสำคัญของอุตสาหกรรมไทย หรือโรงงานส่วนใหญ่ในประเทศไทย คือ การที่โรงงานจำนวนไม่น้อยนั้นกลับไม่มีผู้รับผิดชอบหรือผู้เชี่ยวชาญด้าน IT คอยดูแล วิศวกรผู้เชี่ยวชาญที่ดูแลเครื่องจักรหรือหุ่นยนต์นั้นจะมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในเรื่องของการควบคุม ซ่อมบำรุง อาจสามารถทำงานแบบ System Integrator หรือทำงานระดับการตั้งค่าได้บางส่วน แต่เรื่องของ IT และ Protocol ต่างๆ ที่เป็นกระดูกสันหลังในการสื่อสารข้อมูลนั้นเรียกได้ว่ามีอยู่น้อยมากเมื่อเทียบกับสัดส่วนโรงงานและแรงงาน

ในขณะที่โรงงานไทยจำนวนไม่น้อยยังขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญด้าน IT (ยังไม่ต้องนับผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ซึ่งหาได้ยากยิ่งกว่า) เทคโนโลยีและการโจมตีต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามภาพของเทคโนโลยี IT สวนทางกับเทคโนโลยี OT ที่ค่อนข้างใช้เวลาในการพัฒนาค่อนข้างยาวนาน และการอัปเดตแพทช์ต่าง ๆสำหรับเครื่องจักรก็ล้วนต้องมีระยะเวลาการทดสอบจากแบรนด์อีกไม่น้อย ทำให้โรงงานที่ยังไม่มีนโยบายด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ชัดเจนเกิดเป็นช่องโหว่ขนาดใหญ่ที่ถูกจู่โจมได้ไม่ยากภายใต้กรอบเทคโนโลยีในปัจจุบัน

แต่การโจมตีที่กล่าวถึงนั้นเป็นการโจมตีที่มีส่วนผสมของ AI อยู่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ในปี 2026 ที่จะถึงนี้แนวโน้มของ AGI (Artificial General Intelligence) ซึ่งฉลาดกว่า AI อย่างมากจะขยายตัวขึ้น ทำให้การโจมตีระบบเกิดความรวดเร็วและตอบสนองต่อการป้องกันได้อย่างซับซ้อนมากยิ่งขึ้น นโยบายสำหรับรับมือเองก็ต้องมีการปรับปรุงให้สอดคล้องกับกาารเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

สำหรับเทคโนโลยี Quantum Computing นั้น CDIC 2025 เองก็ได้หยิบมาเป็นหนึ่งในประเด็นร้อนแรงงของงาน ที่แม้ว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะยังไม่สามารถเกิดขึ้นและนำมาใช้ได้อย่างเต็มศักยภาพนัก แต่เทคโนโลยีที่มีความสามารถในการประมวลผลได้ว่องไวและแม่นยำนี้จะออกสู่ตลาดในอีกไม่ช้า การวางแนวทางรับมือและการศึกษาทำความเข้าใจล่วงหน้าจึงจำเป็นอย่างมาก เพราะผลกระทบที่เกิดขึ้นมีแนวโน้มว่าจะรุนแรงกว่า AGI เสียอีก

ดังนั้นการมีส่วนร่วมที่มากขึ้นของ AI ไปจนถึงความรวดเร็วและทรงพลังของ AGI และ Quantum ที่เหนือชั้นยิ่งกว่า จะทำให้ช่วงเวลาในการตอบสนองต่อภัยคุกคามที่จะเกิดขึ้นทั้ง IT และ OT ในโรงงงานนั้นลดน้อยลง ความเสียหายจะทวีความรุนแรงและขยายผลได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของโรงงานอัจฉริยะและโรงงานอัตโนมัติที่อาจส่งผลถึงการเสียชีวิตได้ เช่น การปิดระบบความปลอดภัยสำหรับการทำงานของหุ่นยนต์ หรือการเข้าควบคุมเครื่องจักรให้ทำงาน Overload เป็นต้น

“วันนี้สิ่งที่เขาคุยกัน คือ NHI (Non-Human ID) ไม่ใช่มนุษย์ Hacker เขาเข้าไปเจาะกันตรงที่ Automation กลายเป็นยิ่งมีการใช้ Automation มากยิ่งเสี่ยงมากเพราะไม่มีคนอยู่ตรงนั้น เหมือนกรณีที่ยุโรปขายตั๋วเครื่องบินไม่ได้เพราะวางระบบไว้บน Cloud แล้ว Cloud ถูกโจมตี” 

– อ.ปริญญา หอมเอนก ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์

‘AI ไม่ใช่ยาวิเศษ’ เมื่อปัญญาประดิษฐ์ยอดฮิตมีราคาที่ต้องจ่าย!

ปฏิเสธไม่ได้ว่า AI ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานในปัจจุบันแล้วเช่นกัน โดยเฉพาะในประเด็นของ Generative AI ที่ช่วยลดกำแพงในการทำงานลงได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของภาษา, การหาข้อมูลต่างๆ และความพยายามสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ

การปกป้องข้อมูลในยุค AI

แต่สิ่งหนึ่งที่อยากให้ผู้ใช้งานทุกคนรู้ไว้ นั่นคือ ‘AI ไม่ใช่ยาวิเศษ และมีราคาที่ต้องจ่ายเสมอ’ และไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบใดราคาที่ต้องจ่ายเสมอนั่นคือ ‘ข้อมูล’ หากเรามองมาที่ AI ที่อยู่ในสายการผลิต ซึ่งมีทั้ง Physical AI และ AI ที่เป็นซอฟต์แวร์สนับสนุนต่าง ๆ มักจะพบว่าส่วนใหญ่แล้วผู้ให้บริการจะต้องมีนโยบายที่ชัดเจนในเรื่องการฝึกฝนข้อมูล AI เป็นประเด็นของความปลอดภัยต่าง ๆ ที่ค่อนข้างรัดกุม ทำให้ไม่ต้องกังวลมากนักกับการใช้งานและการใช้ข้อมูล โดยเฉพาะแบรนด์ใหญ่จากยุโรปที่มักมีข้อกำหนดเหล่านี้ชัดเจน กรณีเหล่านี้ AI จะมีข้อจำกัดในการใช้งานค่อนข้างมากเพราะมีนโยบายด้านความปลอดภัยต่าง ๆ คอยควบคุมไว้อยู่ การทำงานจึงมีลักษณะที่ค่อนข้างจำเพาะเจาะจง และสามมารถทำงานในสภาพแวดล้อมแบบปิดของโรงงานได้

ในขณะที่ Generative AI ส่วนใหญ่ที่ใช้งานจะต้องเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลภายนอก และมักจะมีข้อกำหนดหรือรายละเอียดค่อนข้างแตกต่างกับ AI ในพื้นที่การผลิตค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นการแชร์ข้อมูลออกไปยังภายนอก หรือการนำข้อมูลที่ถูกใช้ไปประมวลผลต่อยอดโดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นต้น ดังนั้นการใช้ Generative AI ในพื้นที่การผลิตจึงอาจเกิดขึ้นสำหรับบพื้นที่ปิดด้วยการพัฒนาโมเดลของตัวเองเพื่อใช้ในพื้นที่แบบปิด แต่หากเป็นการใช้งานจากแบรนด์ชื่อดังทั้งหลายที่ต้องต่ออินเทอร์เน็ตแล้ว โอกาสในการที่จะเกิดการรั่วไหลของข้อมูลก็มีไม่น้อยเช่นกัน

“AI Transformation ไม่ใช่แค่เปลี่ยนแปลง Process แต่เปลี่ยน Intelligence เป็น Autonomous”

– อ.ปริญญา หอมเอนก ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์

Quantum มาแน่! แต่วันนี้ต้องกำหนด Password ให้ดีก่อน

หากพิจารณาลำดับความเร่งด่วนแล้ว ภัยคุกคามที่เกิดจากพลังการประมวลผลของ Quantum นั้นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งที่จะต้องเตรียมความพร้อมและเข้าใจถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นเสียก่อน โดยพลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (NCSA) ได้เปรียบเทียบเอาไว้ให้เห็นว่า ถ้า AI นั้นเป็นการใช้งานในรูปแบบของการคาดการณ์ (Prediction) มองหาแนวโน้มที่เป็นไปได้อย่างมาก แต่ในกรณีของ Quantum Computing นั้นถูกมองว่าทำให้เกิดการตัดสินใจอันแม่นยำ (Precise Decision) เช่น การพัฒนายาตัวหนึ่งเพื่อรักษาคนหนึ่งคนให้หายจากโรคที่เป็นได้อย่างแน่นอน

ดังนั้น Quantum ที่ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องจะเกิดขึ้นและถูกนำมาใช้ประโยชน์อีกมากมาย และก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงในการถูกนำมาใช้งานในทางที่ผิดด้วยเช่นกัน

สิ่งที่พลอากาศตรี อมร เน้นย้ำเป็นพิเศษและมองว่าเร่งด่วนยิ่งกว่า คือ การกำหนดรหัสผ่าน (Password) ซึ่งเป็นเรื่องของความปลอดภัยขั้นพื้นฐานที่ทำได้ทันทีและไม่มีค่าใช้จ่ายเสริมใดๆ “หลายองค์กรยังไม่มีการเข้ารหัสเลยตั้งแต่แรก ยังไม่ต้องกังวลไปไกลถึงความปลอดภัยระดับ Quantum Computing ทุกวันนี้ใครเข้าถึงฐานข้อมูลเราก็อ่านได้หมดเลยทันที เพราะไม่ได้รับการดูแลตั้งแต่ต้น บางครั้งรหัสยังเป็นข้อความธรรมดา ๆ ก็ยังมีให้เห็น ซึ่งไม่ปลอดภัยและไม่เป็นไปตามมาตรฐาน”

การเข้ารหัสข้อมูล

ประเด็นดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการตระหนักรู้ของคนในองค์กรที่การจัดเก็บฐานข้อมูลเกี่ยวกับการผลิต หรือเอกสารข้อมูลลูกค้าต่าง ๆ เกือบทั้งหมดจะถูกจัดเก็บในรูปแบบของเอกสารดิจิทัล เป็นไฟล์ Excel หรือ Word ไปจนถึง PDF ต่าง ๆ ที่ไม่มีการเข้ารหัสเอาไว้ ทำให้บุคคลที่ไม่ได้รับสิทธิ์การเข้าถึง (Unauthorized) สามารถเปิดอ่านข้อมูลหรือแก้ไขได้ ส่งผลให้เกิดความเสียหายหรือเกิดความลับทางการค้ารั่วไหล รวมถึงข้อมูลอ่อนไหวต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อการยืนยันตัวตน

ความปลอดภัยทางไซเบอร์ คือ การลงทุนต่อเนื่อง ไม่ใช่การลงทุนครั้งเดียวจบ

คุณภูผา เอกะวิภาต หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (AIS) ได้เล่าถึง Pain Point ที่เกิดขึ้นในการรับมือกับภัยทางไซเบอร์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ผู้บริหารส่วนมากเกิดคำถามอยู่เสมอมาว่าทำไมต้องมีการตั้งงบลงทุนเพิ่มเติมบ่อยครั้ง “งาน Security คือ งาน Investment ที่มีการอัปเดตตลอดเวลา พอมีการตั้งเครื่อง VM ก็จะมีรายงานว่ายังไม่ได้ทำนู่นนี่ พอมีการตั้งงบแล้วระบบรายงานว่าต้องเปิดตรงนั้น ปิดตรงนี้ กลายเป็นต้นทุนโครงการก็เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ ผู้บริหารก็จะต้องตั้งคำถามเรื่องงบที่เพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ ตรงนี้ ซึ่งเหตุผลหนึ่งมันก็เป็นเพราะ Hacker เก่งขึ้นเรื่อย ๆ”

หากพิจารณาเทียบกับงานด้านความปลอดภัยในโรงงานแล้วจะพบว่าทั้งสองประเด็นต้องมีการทวนสอบ เพื่อสร้างความมั่นใจและป้องกันอยู่ตลอดเวลา แต่ด้วยปัจจัยที่แตกต่างกันเพราะสภาพแวดล้อมโรงงานแม้จะมีกิจกรรมตลอดแต่ก็จะมีการควบคุมปัจจัยจากภายนอกซึ่งมีลักษณะเป็นกายภาพเอาไว้ได้มาก แต่ในมุมของเทคโนโลยีดิจิทัล ข้อมูลต่าง ๆ กลับถูกเชื่อมต่อกันตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานสำนักงานที่มีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายภายนอกและโรงงาน ทำให้ต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามที่เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จากทั้งเทคโนโลยีและกลุ่มผู้ไม่หวังดีเอง ทำให้ต้นทุนด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์นั้นค่อนข้างสูง และจำเป็นจำต้องมีการอัปเดตที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง

เร่งสร้าง Resilience: ทางออกสำหรับโรงงานรับมือ Cyber Threat 2026

ด้วยการเติบโตของเทคโนโลยีกลุ่มปัญญาประดิษฐ์ การรับมือกับภัยคุกคามและยกระดับ Cybersecurity ของโรงงานในปีหน้าจำเป็นจะต้องออกแบบให้ธุรกิจเกิด Resilience ที่สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความตระหนักรู้ให้กับคนในองค์กร ‘ทุกคน’ การลงทุนเทคโนโลยีที่เหมาะสม และการวางนโยบายที่มีความรอบคอบชัดเจน โดย IBM ได้ระบุเอาไว้ว่าการมี Resilience นั้นจะทำให้สามารถตรวจจับปัญหาได้เร็ว สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ได้ก่อนเกิดผลกระทบอันร้ายแรง และยังเพิ่มความรวดเร็วในการฟื้นตัวโดยมีการรบกวนที่น้อย กลายเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และเทคโนโลยีที่ต้องแข่งขันกันทั้งฝ่ายรับและฝ่ายรุกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

Real-Time Monitoring เพื่อความปลอดภัยในโรงงาน

สำหรับกรณีการใช้งาน AI ภายในองค์กรที่มีข้อมูลอ่อนไหวดังเช่นโรงงานอุตสาหกรรม อ.ปริญญา หอมเอนก ได้กล่าวถึงแนวทางการใช้งานที่ต้องเกิดขึ้นไว้ 2 ประการ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนต่อธุรกิจ ได้แก่

  1. องค์กรนั้น ๆ มีกติการในการใช้ AI ในการทำงานแล้วหรือไม่ สิ่งไหนใช้ได้ สิ่งไหนห้ามใช้
  2. มีแนวทางด้าน AI Security ไว้รองรับแล้วหรือเปล่า

ฉากทัศน์ของ Cybersecurity 2026 ที่เกิดขึ้นในวันนี้ คือ การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและซับซ้อนยิ่งขึ้นในระดับสากล แต่ภายใต้สถานการณ์จริงของโรงงานไทยการสร้างการตระหนักรู้และการวางนโยบายหลักที่ชัดเจนได้กลายเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำก่อนที่จะต่อยอดไปในเทคโนโลยี หรือดำเนินการลงทุนใดๆ ก็ตาม ซึ่งนอกเหนือจากการมี IT ประจำโรงงานแล้ว การมีที่ปรึกษาด้าน IT/OT Security กลายเป็นความจำเป็นที่ไม่ควรรอช้าอีกต่อไปถ้าหากยังไม่สามารถมีผู้เชี่ยวชาญด้าน Cybersecurity ประจำโรงงานได้ในเวลานี้

“ประตูบานแรกของการปกป้องข้อมูล คือ ความโปร่งใส”

– อ.ปริญญา หอมเอนก ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์

อ้างอิง:
CDIC 2025
IBM
Check Point

Logo-Company
Logo-Company
Logo-Company
logo-company
Thossathip Soonsarthorn
"Judge a man by his questions rather than his answers" Voltaire
Super Source-E-market place สำหรับสินค้าอุตสาหกรรม