google gemini for home smart home ai

Google ปฏิวัติสมาร์ทโฮมด้วย Gemini for Home การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในรอบทศวรรษ

Date Post
03.09.2025
Post Views

Google เพิ่งสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดสมาร์ทโฮมโลกด้วยการเปิดตัว Gemini for Home ในงาน Made by Google ช่วงปลายเดือนสิงหาคม ซึ่งถือเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่ที่สุดของระบบบ้านอัจฉริยะในรอบหลายปี 

หลังจากที่ Google Assistant ครองตลาดมาเกือบทศวรรษ บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีนี้ก็พร้อมที่จะพลิกโฉมประสบการณ์สมาร์ทโฮมอีกครั้งด้วยพลัง AI ล้ำยุค

ยุคใหม่ของผู้ช่วยเสียงในบ้าน

Gemini for Home จะเข้ามาแทนที่ Google Assistant บนลำโพงอัจฉริยะ Nest และจอแสดงผลอัจฉริยะทุกรุ่น โดยนำเสนอความสามารถที่ก้าวหน้ากว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด 

ระบบใหม่นี้ใช้โมเดล AI ขั้นสูงเดียวกับที่ขับเคลื่อน Gemini บนสมาร์ทโฟน แต่ได้รับการปรับแต่งเฉพาะสำหรับงานในบ้าน

สิ่งที่ทำให้ Gemini for Home แตกต่างอย่างสิ้นเชิง คือความสามารถในการเข้าใจบริบทและประมวลผลคำสั่งที่ซับซ้อน ผู้ใช้สามารถสั่งการได้แบบธรรมชาติมากขึ้น เช่น ปิดไฟทุกห้องยกเว้นห้องนอน หรือ หรี่ไฟและตั้งอุณหภูมิไว้ที่ 22 องศาเซลเซียส ในคำสั่งเดียว ระบบจะเข้าใจและดำเนินการได้ทันทีโดยไม่ต้องสั่งแบบขั้นตอนเหมือนแต่ก่อน

ความสามารถใหม่ที่ล้ำสมัย

การควบคุมบ้านอัจฉริยะที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น

หนึ่งในจุดเด่นที่สำคัญของ Gemini for Home คือความสามารถในการประมวลผลคำสั่งที่ซับซ้อนและมีหลายขั้นตอน ระบบสามารถจัดการกับอุปกรณ์หลายชิ้นพร้อมกัน เช่น Nest Hub, ลำโพงอัจฉริยะ, เครื่องปรับอุณหภูมิ และหลอดไฟอัจฉริยะ การเชื่อมต่อกับ Google Search ยังช่วยให้ระบบได้รับข้อมูลที่ทันสมัยและแม่นยำ

Gemini Live สำหรับการสนทนาแบบโต้ตอบ

ฟีเจอร์ Gemini Live ถือเป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจที่สุด เพราะช่วยให้ผู้ใช้สามารถสนทนากับระบบได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องพูด “Hey Google” ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพียงแค่เริ่มต้นด้วย “Hey Google, let’s chat” ก็สามารถเข้าสู่โหมดสนทนาได้ทันที

ประโยชน์ที่ได้จากฟีเจอร์นี้มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการขอคำแนะนำในการทำอาหารแบบรายละเอียด การแก้ไขปัญหาอุปกรณ์ในบ้าน หรือแม้แต่การขอให้สร้างเรื่องเล่าก่อนนอนให้เด็ก ระบบสามารถให้คำปรึกษาแบบเฉพาะเจาะจงและส่วนบุคคลได้อย่างน่าประทับใจ

การค้นหาและเล่นสื่อที่ฉลาดขึ้น

Gemini for Home มีความสามารถในการเข้าใจคำขอเกี่ยวกับสื่อต่าง ๆ ได้ดีกว่าเดิมมาก ผู้ใช้สามารถขอให้เล่นเพลงด้วยคำอธิบายที่คลุมเครือ เช่น “เล่นเพลงที่ได้รางวัลแห่งปีจากปี 1990” หรือ “เล่นเพลงจากหนังบล็อกบัสเตอร์เรื่องนั้นเกี่ยวกับการแข่งรถ” ระบบจะค้นหาและเล่นเพลงที่ต้องการจากแพลตฟอร์มสตรีมมิงต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ

การแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฮม

การเปิดตัว Gemini for Home มาในช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะ Amazon กำลังขยายตัวด้วย Alexa Plus ที่ใช้ AI generative ในหลายล้านบ้าน 

ในขณะที่ Google ล่าช้าในการนำ AI ขั้นสูงมาใช้กับอุปกรณ์สมาร์ทโฮม การอัปเกรดก่อนหน้านี้มีเพียงเสียงใหม่ การตอบสนองแบบสนทนา และฟีเจอร์ AI สำหรับกล้อง Nest เท่านั้น

ตลาดสมาร์ทโฮมปัจจุบันแบ่งออกเป็นสามค่ายหลัก ได้แก่ Amazon Alexa, Apple HomeKit และ Google Home แต่ละระบบมีจุดแข็งและจุดอ่อนที่แตกต่างกัน 

โดย Google มีข้อได้เปรียบด้านความเข้าใจบริบทและการตอบคำถามที่ซับซ้อน ขณะที่ Alexa มีจุดเด่นด้านจำนวนอุปกรณ์ที่รองรับและระบบอัตโนมัติ

แผนการเปิดตัวและราคา

Google วางแผนเริ่ม Early Access Program ในเดือนตุลาคม 2024 โดยจะมีทั้งแพ็กเกจฟรีและแพ็กเกจที่เสียค่าใช้จ่าย ถึงแม้บริษัทจะยังไม่เปิดเผยรายละเอียดราคาแต่คาดว่าอาจรวมเข้ากับ Nest Aware หรือ Google One ที่มีอยู่แล้ว

การเปิดตัวจะเริ่มจากสหรัฐอเมริกาก่อน เนื่องจากระบบจำเป็นต้องควบคุมอุปกรณ์สำคัญเช่น ประตู เครื่องใช้ไฟฟ้า และระบบความร้อน Google จึงจะใช้วิธีการเปิดตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปเพื่อรับรองความเชื่อถือได้

ผลกระทบต่ออนาคตสมาร์ทโฮม

Gemini for Home ไม่เพียงแค่เป็นการอัปเกรดผู้ช่วยเสียงธรรมดา แต่เป็นการปูทางสู่ยุคใหม่ของบ้านอัจฉริยะที่เข้าใจและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างแท้จริง ระบบสามารถเรียนรู้พฤติกรรมของสมาชิกในบ้านและให้คำแนะนำเฉพาะบุคคลได้

นอกจากนี้ การที่ Google นำ AI รุ่นใหม่มาใช้กับอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้วในบ้าน แทนที่จะบังคับให้ซื้ออุปกรณ์ใหม่ ถือเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด ผู้ใช้สามารถเสียบปลั๊กอุปกรณ์เก่าและเริ่มใช้งานฟีเจอร์ใหม่ได้ทันที

การเปิดตัว Gemini for Home นี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการแข่งขันรอบใหม่ในตลาดสมาร์ทโฮม โดยแต่ละบริษัทจะต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าระบบ AI ของตนเองสามารถทำให้ชีวิতในบ้านสะดวกสบายและมีประสิทธิภาพมากกว่าคู่แข่ง ซึ่งในที่สุดผู้ที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดก็คือผู้บริโภคที่จะได้รับเทคโนโลยีที่ดีกว่าและราคาที่เหมาะสมกว่า


Source : Cnet , Hindustantimes , The verge , Google blog , Engadget , Howtogeek

Logo-Company
Logo-Company
Logo-Company
logo-company
Pisit Poocharoen
Former field engineer seeking to break free from traditional learning frameworks. อดีตวิศวกรภาคสนามที่ต้องการหลุดออกจากกรอบการเรียนรู้แบบเดิม ๆ
Super Source-E-market place สำหรับสินค้าอุตสาหกรรม