IDA Project
SOLOMON AI

Green Manufacturing จากไต้หวันส่งต่อความยั่งยืนสู่โรงงานไทย: เปลี่ยนความซับซ้อนในการผลิตให้เป็นเรื่องง่ายด้วยโซลูชั่นอัจฉริยะจาก SOLOMON

Date Post
16.06.2025
Post Views

เมื่อระบบอัตโนมัติหรือการทำโรงงานอัจฉริยะกลายเป็นเรื่องยากและซับซ้อน รวมถึงต้องการทักษะในการทำงานที่มีความจำเพาะทางมากขึ้น ส่งผลให้โรงงานหรือธุรกิจต่าง ๆ ที่ต้องการทำ Transformation ต้องเผชิญหน้ากับกำแพงที่ไม่ได้มีแต่เพียงเรื่องทุนเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องของ ‘คน’ เข้ามาผสมอีกด้วย การปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับความท้าทายที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตลอดจนการรักษาความยั่งยืนในการทำธุรกิจจึงเกิดขึ้นได้อย่างยากลำบาก เทคโนโลยีอย่าง AI จึงเข้ามาเติมเต็มในส่วนดังกล่าวได้อย่างลงตัว แต่ AI จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของภาคการผลิตหรือธุรกิจอุตสาหกรรมได้อย่างไร? SOLOMON ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ในภาคอุตสาหกรรมจากไต้หวันจะมาเล่าเรื่องราวเหล่านี้ให้ฟังกันครับ

Table of Contents

English Version on Page 2

หากใครที่เป็นแฟนของ MMThailand อาจจะพอจำบทความที่เราเขียนถึง SOLOMON กันได้ แม้ว่าแบรนด์ SOLOMON อาจจะยังไม่ใช่แบรนด์ที่ผู้ประกอบการคุ้นเคยหรือรู้จักกันในไทยมากนัก แต่เชื่อหรือไม่ว่า SOLOMON นั้นเป็นแบรนด์ที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในไต้หวัน โดยภายในงาน Intelligent Asia 2024 ซึ่งจัดขึ้นที่ TaiNEX นั้น SOLOMON เป็นหนึ่งในการจัดพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีคนให้ความสนใจ ‘มากที่สุด’ ตลอดระยะเวลาการจัดงานทุกวัน วันนี้ MMThailand ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณ Joseph Tsao ผู้จัดการฝ่ายขายจาก Solomon Technology Corporation ในเรื่องของ AI กับการผลิตยุคใหม่ครับ

Joseph Tsao ผู้จัดการฝ่ายขาย SOLOMON

เอาชนะกำแพงการบูรณาการเทคโนโลยีอัจฉริยะด้วย ‘AI’ ในการผลิตได้อย่างไร?

“ความท้าทายที่สำคัญที่สุดที่ผู้ผลิตต้องเผชิญในปัจจุบัน คือ ความผันผวนและความซับซ้อนในรอบการผลิตที่เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันความคาดหวังของผู้บริโภคเองก็มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้นวัตกรรมของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ต้องเกิดขึ้นให้ไวกว่าเดิม ในขณะเดียวกันอายุของอุปกรณ์ก็ต้องยาวนานมากขึ้นและมีความอัจฉริยะมากยิ่งขึ้น” คุณ Joseph กล่าวถึงสถานการณ์ความท้าทายที่เกิดขึ้นในการหันมาบูรณาการเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้าสู่ภาคการผลิตในปัจจุบัน

การใช้งานเทคโนโลยีการผลิตยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักรอัจฉริยะ, IIoT หรือโซลูชั่นด้านดิจิทัลต่าง ๆ ได้กลายเป็นเงื่อนไขสำคัญอย่างยิ่งในการแข่งขันที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ด้วยแรงขับเคลื่อนจากความไม่แน่นอนของ  Supply Chain, ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์, การขาดแคลนทรัพยากรจากสภาวะการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศอย่างฉับพลัน ไปจนถึงเรื่องของสังคมผู้สูงอายุ ทำให้ธุรกิจการผลิตต้องค้นหาวิธีสร้างความคุ้มค่าในการทำธุรกิจให้เจอ

“หากผู้ผลิตต้องการรักษาความสามารถในการแข่งขันและสร้างความยั่งยืน สิ่งแรกที่ต้องเกิดขึ้น คือ การใช้ข้อมูลกระบวนการผลิตในอดีตให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทุกกระบวนการต้องมีความโปร่งใสและติดตามข้อมูลย้อนกลับได้ ก่อนที่จะไปสู่การต่อยอดด้วยระบบผู้เชี่ยวชาญซึ่งขับเคลื่อนด้วย AI ที่สามารถเรียนรู้และปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจเกิดความยืดหยุ่น (Resilient) และรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างยั่งยืน” ด้วยการเน้นย้ำไปที่การใช้ประโยชน์จากข้อมูลผ่านประสบการณ์ของคุณ Joseph ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าการใช้งาน AI จะเกิดขึ้นได้จำเป็นที่จะต้องมี ‘ข้อมูล’ ที่ครบมิติ ถูกต้อง และทันต่อความต้องการเสียก่อน

ตั้งต้นที่ ‘ข้อมูล’ ต่อยอดสู่ ‘AI’ เรื่องที่ดูง่าย ๆ แต่ทำให้โรงงานเสียหายไม่น้อย

ผู้ประกอบการและใครอีกหลาย ๆ คนอาจจะเคยเข้าใจผิดคิดว่า AI นั้นเป็นยาวิเศษ ที่สามารถจับใส่ลงไปในอะไรก็ให้ผลลัพธ์ที่ดีได้ทั้งนั้น จริง ๆ แล้วนี่ก็เป็นอีกหนึ่งมายาคติความเชื่อ ที่ไม่แตกต่างจากเรื่องของหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติที่พบเห็นกันได้ทั่วไปในปัจจุบัน ซึ่งเกิดจากการลงทุนโดยไม่มีการพิจารณาความพร้อม ความต้องการ ความเร่งด่วน และปัจจัยต่าง ๆ ภายในอย่างครบถ้วน กลายเป็นการเดินชอปปิ้งเทคโนโลยีโดยขาดความเข้าใจเงื่อนไขที่แท้จริง

จะเห็นได้ว่าการใช้เทคโนโลยีใด ๆ ก็ตามล้วนมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันไปในแต่ละธุรกิจ AI ก็ไม่ต่างกัน การใช้งาน AI ให้เกิดประสิทธิภาพได้ จำเป็นจะต้องมีข้อมูลของ Task หรือกิจกรรมที่ต้องการให้ AI เข้าไปเกี่ยวข้องอย่างเพียงพอและครบมิติ เพื่อให้ระบบสามารถเรียนรู้และตอบสนองต่อสถานการณ์ได้อย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นงานตรวจสอบคุณภาพ การติดตามข้อมูล หรือแม้แต่งานหยิบจับสิ่งของก็ตาม นั่นทำให้ผู้ใช้งาน AI จำเป็นต้องมีฐานข้อมูลจำนวนมากในการฝึกฝนเพื่อให้ระบบสามารถจำแนกสิ่งต่าง ๆ และตอบสนองได้อย่างเหมาะสม

SOLOMON Solmotion

ในทางกลับกัน หากมีข้อมูลไม่เพียงพอ AI อาจจะตอบสนองต่อสถานการณ์ผิดพลาดหรือล่าช้าได้ ดังนั้นก่อนการใช้งาน AI ส่วนใหญ่จึงจำเป็นต้องมี Ecosystem ที่พร้อมสนับสนุนข้อมูลเพื่อให้เกิดการตัดสินใจที่ถูกต้อง และอาจต้องมีเทคโนโลยีที่ใช้ในการตอบสนองต่อคำสั่งที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจนั้นด้วย เช่น ในโรงงานอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่ต้องการให้ AI คอยแจ้งเตือนหรือปรับค่าต่าง ๆ ในระบบท่อเพื่อควบคุมคุณภาพของสินค้า ไม่ว่าจะเป็นแรงดัน ความหนืด อัตราการไหล อุณหภูมิที่เกิดขึ้น ไปจนถึงค่าความเป็นกรด-ด่างต่าง ๆ ทำให้ต้องมีเซ็นเซอร์หลากหลายชนิด มีจำนวนเซ็นเซอร์ที่ต้องครอบคลุมพื้นที่การผลิต ระบบเครือข่ายที่มีความเสถียร รวมถึงต้องมีแพลตฟอร์มหรือฮาร์ดแวร์ในการรวบรวมจัดเก็บดูแลข้อมูลที่เกิดขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของเทคโนโลยีที่ต้องมี ยังไม่นับรวมถึงผู้เชี่ยวชาญที่ต้องใช้ในการกำกับดูแลทั้งส่วนของข้อมูล IT และข้อมูลเชิงเทคนิคในสายการผลิต

จะเห็นได้ว่ามูลค่าที่เกิดขึ้นในการตั้งต้นใช้งาน AI นั้นมีมหาศาล ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการออกแบบระบบ หรือเกิดปัจจัยทำให้ระบบผิดเพี้ยน ก็สามารถส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อตัวธุรกิจได้เช่นกัน ดังหลายกรณีที่จะเห็นได้ว่ามีการบูรณาการเทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยขาดความเข้าใจ ก็สามารถส่งผลให้สายการผลิตหยุดชะงักหรือเกิดความเสียหายได้ไม่ยาก แม้แต่จะเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกก็ตาม

SOLOMON ยก AI เข้าสู่สายการผลิตแบบไร้รอยต่อ สู่การแข่งขันที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น

SOLOMON ถือเป็นผู้บุกเบิกด้านโซลูชั่น AI สำหรับภาคอุตสาหกรรม ที่มีทั้งแพลตฟอร์มการสร้างโมเดลอัจฉริยะขั้นสูง ซึ่งถูกออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับภาระงานอันหลากหลายในภาคอุตสาหกรรม เช่น การหยิบจับด้วยหุ่นยนต์ (Pick-and-Place), ระบบนำทางการเคลื่อนไหว (Motion Guidance), การตรวจสอบคุณภาพชิ้นงาน และการวิเคราะห์ภาพด้วย AI ทั่วไป ด้วยการที่มีความเชี่ยวชาญด้าน AI เป็นจุดแข็ง ทำให้สามารถพัฒนาเครื่องมือที่มีความยืดหยุ่นและสามารถต่อยอดการใช้งานได้ง่าย เปลี่ยนความซับซ้อนให้กลายเป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็สามารถใช้งานได้จริง

SOLOMON META-aivi

“เรามีประสบการณ์ในการนำ Vision AI ไปใช้จริงทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาเป็นเวลานาน ผมจึงได้เห็นปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนว่า โรงงานยุคใหม่ส่วนใหญ่ยังต้องเผชิญกับระบบการทำงานที่กระจัดกระจาย และขาดบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้าน AI ทำให้ SOLOMON ได้พัฒนาโซลูชั่นขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ ด้วยการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยที่กลายเป็นหัวใจของเราเสมอมา เช่น Vision Transformer (ViT), ข้อมูลสังเคราะห์ (Synthetic Data) และการเสริมข้อมูล (Data Augmentation) ซึ่งจะเป็นการทำลายข้อจำกัดเดิมที่มีในตลาด แม้จะมีชุดข้อมูลตัวอย่างเพียงเล็กน้อย เราก็สามารถฝึกโมเดลให้มีประสิทธิภาพในงานตรวจจับหรืองานจำแนกที่มีความจำเพาะเจาะจงได้ ที่สำคัญ คือ แพลตฟอร์มของเราใช้งานง่าย ไม่ต้องมีทีม AI ภายใน โรงงานหรือธุรกิจ ก็สามารถจัดการทั้งกระบวนการฝึกและใช้งานโมเดลได้ผ่าน GUI เดียว รองรับทั้งการประมวลผลในพื้นที่หรือผ่านคลาวด์ การใช้โมเดลหลายชุดพร้อมกัน และสามารถเริ่มต้นโครงการได้รวดเร็ว” คุณ Joseph เล่าถึงคุณค่าหลักของโซลูชั่นที่เกิดจากการบ่มเพาะประสบการณ์ของ SOLOMON 

“ที่ Solomon เราช่วยให้ผู้ผลิตปลดข้อจำกัดที่เคยมีในด้านข้อมูลผ่าน Machine Learning เพื่อค้นหาสาเหตุของปัญหา ระบุแนวโน้ม และปรับแต่งการดำเนินงานให้เหมาะสมในทุกมิติ แน่นอนว่าเราสามารถวัดผลของประสิทธิภาพที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง OEE หรือการตรวจวัดด้านพลังงานต่าง ๆ แต่คุณค่าของ SOLOMON นั้นมองไปไกลกว่านั้น เรามองถึงการผสานรวมแรงงานเข้ากับเทคโนโลยีเพื่อใช้จุดเด่นของทั้งสองฝ่ายบูรณาการเข้าหากัน ด้วยความแม่นยำ รวดเร็ว และโปร่งใสของเทคโนโลยี ผสานกับความสามารถในการตัดสินใจ ความคิดสร้างสรรค์ และการแก้ปัญหาของแรงงาน ทำให้การแข่งขันสามารถเกิดขึ้นได้อย่างยั่งยืน โรงงานเติบโต ธุรกิจเติบโต และแรงงานเองก็เติบโตไปพร้อม ๆ กัน” เพราะเรื่องของความยั่งยืนหรือการผลิตสีเขียวนั้น อาจไม่ได้เกี่ยวข้องแค่เรื่องพลังงานเพียงอย่างเดียว คุณ Joseph ยังได้ชี้ให้เห็นถึงประเด็นของ ESG ที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันในยุคสมัยใหม่ที่มีประเด็นต้องพิจารณามากขึ้นอีกด้วย

จัดเต็ม! สัมผัส 3 นวัตกรรมการผลิตอัจฉริยะจาก SOLOMON ได้ที่ MANUFACTURING EXPO 2025

เพื่อให้ผู้ผลิตในประเทศไทยสามารถยกระดับศักยภาพการแข่งขันให้สอดคล้องกับความท้าทายที่เกิดขึ้นจริง SOLOMON ได้นำเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นมาบนพื้นฐานของ AI ด้านอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์อันยาวนานและชุดการตั้งค่า Preset พร้อมใช้ ที่ง่ายต่อการใช้จริงมานำเสนอให้กับผู้เข้าชมงาน MANUFACTURING EXPO 2025 โดยมีเทคโนโลยีไฮไลต์ ได้แก่

AccuPick 3D

ระบบกล้อง 3 มิติที่ทำงานด้วย AI สามารถบูรณาการร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อกับหุ่นยนต์แบรนด์ดังที่นิยมใช้งานกันในตลาด ทำให้เกิดความยืดหยุ่นในงานหยิบจับวัตถุของหุ่นยนต์, Bin Picking และการวางแผนการเคลื่อนที่ด้วยความแม่นยำที่ไม่แพ้ใคร เรียกได้ว่าเป็นเทคโนโลยีในอุดมคติสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมโลหการ

Solvision

แพลตฟอร์ม AI+AOI (ปัญญาประดิษฐ์ + การตรวจสอบด้วยแสงอัตโนมัติ) แบบครบวงจรเพื่อการตรวจสอบคุณภาพชิ้นงาน ผู้ใช้งานสามารถฝึก Solvision และปล่อยโมเดล AI มาใช้ในการตรวจสอบคุณภาพผ่านภาพโดยไม่ต้องเขียนโปรแกรมหรือรหัสใด ๆ เป็น Solvision สนับสนุนการประเมินแบบ Real-Time สามารถลาเบลสิ่งที่ต้องการได้อย่างสะดวก และปรับแต่งตั้งค่าได้ง่าย ทำให้การตรวจสอบความผิดพลาดนั้นมีประสิทธิภาพและแม่นยำยิ่งขึ้นในสายการผลิต

META-aivi

เครื่องมืออัจฉริยะที่มาพร้อมกับ AI เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตอัจฉริยะ ทั้งยังสนับสนุนการบูรณาการ  RESTful API เข้ากับระบบที่มีอยู่เดิมและสามารถติดตั้งบนหุ่นยนต์เคลื่อนที่ สายพาน หรือแพลตฟอร์มใด ๆ ก็ตามเพื่อทำให้เกิดการตรวจสอบคุณภาพ การตรวจจับวัตถุ หรือการประเมินชิ้นส่วนแบบ Real-Time โดยมีความหน่วงเพียงเล็กน้อย ซึ่งสามารถใช้งานในรูปแบบสวมใส่และใช้งานในบริบทของการแนะนำขั้นตอนต่าง ๆ แก้ปัญหาการขาดแคลนทักษะหรือป้องกันความผิดพลาดได้อีกด้วย

ของดีที่คุณจะหลงรัก! ทดลองใช้งานโซลูชั่นอัจฉริยะจาก SOLOMON ได้ที่ TAIWAN EXCELLENCE PAVILION ที่ MANUFACTURING EXPO 2025 

“ผู้ผลิตไทยในปัจจุบันนั้นอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านอันแสนสำคัญในการขยับขึ้นไปในห่วงโซ่มูลค่า ต้องเผชิญกับแรงกดดันจากปัญหาซัพพลายเชน การขาดแคลนแรงงาน และข้อกำหนดด้านความยั่งยืนที่เกิดขึ้นทั่วโลก การนำ AI มาปรับใช้งาน จะเป็นส่วนสำคัญที่จะลดการพึ่งพิงปัจจัยต่าง ๆ ที่มีความไม่แน่นอนสูง อาทิ การทำงานแบบแมนนวล หรือการคาดเดาเพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ ไปจนถึงความไม่สม่ำเสมอของแรงงาน ซึ่งสามารถกระจายรูปแบบการทำงานเดิมสู่เทคโนโลยียุคใหม่อย่างโซลูชั่น Edge AI เช่น META-aivi จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำงานอัตโนมัติ แม้ในพื้นที่ห่างไกลหรือการเชื่อมต่อที่ไม่เสถียร เทคโนโลยีเหล่านี้สามารถลงทุนเป็นโมดูลได้ รองรับการขยับขยายในอนาคต เมื่อนำมาใช้งานร่วมกับทรัพยากรเดิมที่มีอยู่ เช่น การ Reskill แรงงาน จะทำให้เกิดศักยภาพการแข่งขันในพื้นที่อันแข็งแกร่ง ไม่เพียงแต่จะทำให้อุตสาหกรรมไทยอยู่รอดเท่านั้น แต่ยังเป็นการขยับชั้นไปสู่การแข่งขันในระดับสากล” คุณ Joseph เน้นย้ำถึงโอกาสที่จะเกิดขึ้นในการเปลี่ยนผ่านของช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำหรับภาคอุตสาหกรรมไทยอย่างหนักแน่น

SOLOMON Solvision

พลาดไม่ได้! ผู้ผลิต SI และผู้ที่สนใจในนวัตกรรมอัจฉริยะ พบกับ SOLOMON พร้อมสัมผัส  AccuPick 3D, Solvision และ META-aivi ผ่านประสบการณ์จริงได้ที่ TAIWAN EXCELLENCE PAVILION บูธหมายเลข 8F11 ในพื้นที่ของ ASSEMBLY & AUTOMATION TECHNOLOGY ภายในงาน MANUFACTURING EXPO 2025 ได้ที่ BITEC บางนา ระหว่างวันที่ 18 – 21 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 – 18.00 น. โดยสามารถเข้าชมงานได้ฟรี! 

“พบโซลูชั่นด้านความยั่งยืนสำหรับการผลิตยุคใหม่ที่คุ้มค่า พบกันได้ที่ TAIWAN EXCELLENCE PAVILION ในงาน MANUFACTURING EXPO 2025 นี้เท่านั้น!”

  • หน้า:
  • 1
  • 2
Logo-Company
Logo-Company
Logo-Company
logo-company
Thossathip Soonsarthorn
"Judge a man by his questions rather than his answers" Voltaire
Super Source-E-market place สำหรับสินค้าอุตสาหกรรม