SIEMENS WinCC
IDA Project
Apple อยู่ท่ามกลางการต่อสู้ของ Elon musk และ Sam altman

Appleโดนลากมากลางสังเวียนของ อีลอน มัสก์ สู้กับแซม อัลต์แมน

Date Post
25.08.2025
Post Views

เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่สั่นสะเทือนวงการเทคโนโลยีได้เกิดขึ้น เมื่อ  Elon musk ศัตรูเก่าของ แซม อัลต์แมน ได้ตัดสินใจลาก Apple เข้ามาเป็นฝ่ายที่สามในการต่อสู้ที่ยืดเยื้อมาหลายปี การโต้เถียงที่เริ่มต้นจากปัญหาภายในของ OpenAI กลับพัฒนาไปสู่ข้อกล่าวหาร้ายแรงเรื่องการผูกขาดทางการค้า ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงวิถีทางของอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ไปตลอดกาล

สิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการต่อเถียงกันเรื่องเทคโนโลยี หากแต่เป็นเรื่องราวของความอาฆาตพยาบาท ความแค้นส่วนตัว และการต่อสู้เพื่อชิงอำนาจที่แท้จริงในอนาคตของปัญญาประดิษฐ์ เป็นเรื่องราวที่เริ่มต้นจากความฝันร่วมกันในการสร้าง OpenAI เพื่อมนุษยชาติ แต่กลับจบลงด้วยการดำเนินคดีซึ่งกันและกัน

จุดเริ่มต้นของข้อกล่าวหาใหม่

ข้อกล่าวหาล่าสุดของมัสก์เกิดขึ้นจากความไม่พอใจที่แอพ Grok ของบริษัทเอกซ์เอไอของเขาไม่สามารถขึ้นอันดับหนึ่งในแอปสโตร์ของAppleได้ ขณะที่แชทจีพีทีของOpenAIกลับครองตำแหน่งแชมป์อยู่ นับเป็นสถานการณ์ที่น่าอับอายสำหรับคนที่เคยอ้างว่าตนเป็นผู้ร่วมก่อตั้งOpenAI

มัสก์โพสต์บนแพลตฟอร์มเอกซ์ของตัวเองว่า “Appleปฏิบัติตัวในลักษณะที่ทำให้บริษัทปัญญาประดิษฐ์อื่นใดนอกจาก OpenAI ไม่สามารถขึ้นอันดับหนึ่งในแอปสโตร์ได้ ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎหมายแข่งขันทางการค้าอย่างชัดเจน X:AI จะดำเนินการทางกฎหมายทันที” แต่สิ่งที่น่าสนใจคือมัสก์ไม่ได้นำเสนอหลักฐานใดมาสนับสนุนข้อกล่าวหาดังกล่าว

สถานการณ์จริงในขณะนี้คือแชทจีพีทีอยู่อันดับหนึ่ง ส่วน Grok อยู่อันดับหก และหากจะมองไปที่แอพปัญญาประดิษฐ์อื่น เช่น เจมิไนของกูเกิลกลับอยู่ในอันดับที่57 ข้อเท็จจริงนี้ทำให้เห็นว่าปัญหาอาจไม่ได้อยู่ที่การเลือกปฏิบัติของApple แต่อาจเป็นเรื่องของความนิยมจากผู้ใช้จริง

การตอบโต้อย่างรุนแรงจากแซม อัลต์แมน

แซม อัลต์แมน ซีอีโอของ OpenAI ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อข้อกล่าวหา เขาโต้กลับทันทีด้วยความคมคายว่า “นี่เป็นข้อกล่าวหาที่น่าทึ่งมาก เมื่อพิจารณาจากสิ่งที่ฉันได้ยินมาเกี่ยวกับสิ่งที่เอลอนทำเพื่อจัดการเอกซ์ให้เป็นประโยชน์ต่อตัวเขาเองและบริษัทของเขา และทำร้ายคู่แข่งและคนที่เขาไม่ชอบ”

คำตอบนี้ไม่ใช่เพียงการปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่เป็นการเปิดศึกใหม่ด้วยการโจมตีย้อนกลับไปยังมัสก์เรื่องการใช้แพลตฟอร์มเอกซ์ในทางที่ผิด การโต้เถียงกลายเป็นการซัดทอดกันอย่างดุเดือด โดยมัสก์เรียกคำตอบของอัลต์แมนว่าเป็นโพสต์เหลวไหลและเรียกเขาว่า ‘ไอคนโกหก’

สิ่งที่น่าสนใจคือการที่อัลต์แมนท้าให้มัสก์ลงนามรับรองเป็นลายลักษณ์อักษรว่าเขาไม่เคยสั่งให้มีการเปลี่ยนแปลงอัลกอริทึมของเอกซ์เพื่อทำร้ายคู่แข่ง และสัญญาว่าจะขอโทษหากมัสก์ทำได้ ข้อท้านี้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของอัลต์แมนในข้อมูลที่เขามี(ว่ากล้าหรือเปล่า..)

ความเจ็บแค้นที่สะสมมานาน

เพื่อเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบัน เราต้องย้อนกลับไปดูความสัมพันธ์ที่เคยดีของทั้งสองคน ในปี 2015 มัสก์และอัลต์แมนได้ร่วมกันก่อตั้ง OpenAI พร้อมกับผู้ร่วมก่อตั้งคนอื่น โดยมีเป้าหมายสร้างปัญญาประดิษฐ์ระดับทั่วไปที่รับใช้มนุษยชาติทั้งหมดแต่ความร่วมมือนี้ไม่ได้ยืนยาว

ปัญหาเริ่มขึ้นเมื่อมัสก์ต้องการควบคุมบริษัทมากขึ้นและเสนอให้ผสาน OpenAI เข้ากับเทสลา ซึ่งถูกผู้ร่วมก่อตั้งคนอื่นปฏิเสธ สถานการณ์นี้นำไปสู่การที่มัสก์ออกจากบอร์ดในปี 2018 และตั้งแต่นั้นมา ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองก็เริ่มแย่ลงและเกิดความหมันเขี้ยวกันเป็นพัก ๆ

บทบาทของAppleในสงครามครั้งนี้

Apple กลายเป็นเป้าหมายใหม่ของมัสก์เนื่องจากการเป็นพันธมิตรกับ OpenAI ในเดือนมิถุนายน 2024 Appleได้ประกาศความร่วมมือกับ OpenAI เพื่อนำแชทจีพีทีเข้ามาในระบบ IOS  ความร่วมมือนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึง ChatGPT ได้โดยตรง

มัสก์มองว่าการเป็นพันธมิตรนี้เป็นการให้ประโยชน์Appleต่อOpenAIอย่างไม่เป็นธรรม เขาตั้งคำถามว่าเหตุใดAppleจึงไม่ใส่เอกซ์และ Grok ในส่วน “แอพที่ต้องมี” ทั้งที่เขาอ้างว่าเอกซ์เป็นแอพข่าวอันดับหนึ่งของโลกและ Grok อยู่อันดับห้าของแอพทั้งหมด

แต่หลักฐานกลับขัดแย้งกับข้อกล่าวหาของมัสก์ ผู้ใช้เอกซ์ได้ใส่บันทึกชุมชน ชี้ให้เห็นว่าแอพปัญญาประดิษฐ์อื่นๆ ได้ขึ้นอันดับหนึ่งในแอปสโตร์แล้ว รวมถึง Deepseek ของจีน

ในเดือนมกราคม 2025 และ Perplexity ที่ขึ้นอันดับหนึ่งในอินเดียเมื่อเดือนกรกฎาคม 2025 ทั้งสองกรณีเกิดขึ้นหลังจากที่ Apple ประกาศความร่วมมือกับ OpenAI แล้ว

การตอบสนองของApple

Apple ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างเป็นทางการต่อข้อกล่าวหาล่าสุดของมัสก์ แต่บริษัทเคยออกแถลงการณ์เกี่ยวกับกติการของแอปสโตร์ว่า “แอปสโตร์ถูกออกแบบมาให้เป็นธรรมและปราศจากอคติ” และ “เราแสดงแอพหลายพันแอพผ่านชาร์ต คำแนะนำจากอัลกอริทึม และรายการที่คัดสรรโดยผู้เชี่ยวชาญตามเกณฑ์ที่เป็นกลาง”

อย่างไรก็ตาม Appleกำลังเผชิญกับความกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแลในหลายประเทศ ในเดือนเมษายน ศาลของสหรัฐฯ พบว่าAppleละเมิดคำสั่งศาลเรื่องการเปิดแอปสโตร์ให้มีการแข่งขันมากขึ้น 

ตามคดีที่บริษัท Epic games ผู้สร้าง Fortnite ยื่นฟ้อง นอกจากนี้ สหภาพยุโรปยังปรับAppleเป็นเงินห้าร้อยล้านยูโรใน เดือนเดียวกันข้อหาละเมิดกฎการแข่งขันโดยการป้องกันไม่ให้นักพัฒนาแอพชี้ทางผู้ใช้ไปยังตัวเลือกที่ถูกกว่านอกแอปสโตร์

มิติใหม่ของการต่อสู้

สิ่งที่น่าสนใจในการต่อเถียงครั้งนี้คือการที่ตัวปัญญาประดิษฐ์เองก็เข้ามามีบทบาท เมื่อมีคนถาม Grok ของมัสก์เองเรื่องข้อพิพาทนี้  Grok กลับตอบว่าอัลต์แมนพูดถูก และชี้ให้เห็นว่ามัสก์มีประวัติการสั่งให้เปลี่ยนแปลงอัลกอริทึมของเอกซ์เพื่อส่งเสริมโพสต์ของตัวเองและเป็นประโยชน์ต่อบริษัทของเขา บัญชีเอกซ์ของแชทจีพีทีแม้กระทั่งตอบกลับว่า “บอทดี” เป็นการแสดงความเห็นอย่างมีอารมณ์ขัน

การที่ปัญญาประดิษฐ์ของมัสก์เองหันมาต่อต้านเจ้าของ แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของสถานการณ์ที่แม้แต่เทคโนโลยีที่เขาสร้างขึ้นก็ไม่สนับสนุนคำกล่าวอ้างของเขา

ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม

การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องส่วนตัวระหว่างมัสก์และอัลต์แมน แต่มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีโดยรวม การที่มัสก์ใช้กลยุทธ์การฟ้องร้องและการกล่าวหาเป็นเครื่องมือในการแข่งขันทางธุรกิจ อาจสร้างแบบอย่างที่ไม่ดีให้กับผู้ประกอบการรายอื่น

นอกจากนี้ ความขัดแย้งนี้ยังเผยให้เห็นถึงอำนาจของแพลตฟอร์มใหญ่ๆ เช่น Appleในการกำหนดทิศทางของตลาด การที่บริษัทเดียวสามารถควบคุมการเข้าถึงของผู้บริโภคต่อแอพพลิเคชันได้ ทำให้เกิดคำถามเรื่องการผูกขาดที่อาจเป็นจริง

ศึกแห่งอนาคต

จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เราเห็นได้ชัดว่าการต่อสู้ระหว่างมัสก์และอัลต์แมนไม่ได้เป็นเพียงเรื่องส่วนตัว แต่เป็นการต่อสู้เพื่อชิงอนาคตของปัญญาประดิษฐ์ ทั้งสองฝ่ายต่างมีวิสัยทัศน์ที่แตกต่างกันเกี่ยวกับวิธีการพัฒนาและการใช้งานปัญญาประดิษฐ์ มัสก์ต้องการความโปร่งใสและการกระจายอำนาจ ในขณะที่อัลต์แมนมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาที่รับผิดชอบและความปลอดภัย

การที่ Apple ถูกลากเข้ามาในศึกครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของแพลตฟอร์มกระจายแอพพลิเคชันในยุคปัจจุบัน ผู้ที่ควบคุมแพลตฟอร์มเหล่านี้ก็เท่ากับควบคุมการเข้าถึงของผู้บริโภค ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดผู้ชนะในสงครามปัญญาประดิษฐ์


Logo-Company
Logo-Company
Logo-Company
logo-company
Pisit Poocharoen
Former field engineer seeking to break free from traditional learning frameworks. อดีตวิศวกรภาคสนามที่ต้องการหลุดออกจากกรอบการเรียนรู้แบบเดิม ๆ
ลงทะเบียนร่วมงาน Automation Expo