SIEMENS WinCC
IDA Project
ฟองสบู่ AI

แซม อัลท์แมน ยอมรับว่า AI กำลังอยู่ในช่วงฟองสบู่

Date Post
19.08.2025
Post Views

ในการสนทนากับนักข่าวที่กรุงซานฟรานซิสโกเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แซม อัลท์แมน CEO ของ OpenAI ได้กล่าวอย่างตรงๆ ว่า “เราอยู่ในช่วงที่นักลงทุนตื่นเต้นเกินไปเกี่ยวกับเอไอหรือเปล่า ความเห็นของผมคือ ใช่”

เขายังเติมว่า “ AI เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลานานแล้วหรือเปล่า ความเห็นของผมก็คือ ใช่ เช่นกัน”

คำพูดของอัลท์แมนนี้เสมือนการยอมรับในสิ่งที่หลายคนในวงการเทคโนโลยีกำลังกระซิบกันอยู่ แต่ไม่กล้าออกมาพูดให้ชัดเจน นั่นคือการลงทุนในเอไอในปัจจุบันอาจจะมากเกินไปจนเกิดเป็นฟองสบู่ทางเศรษฐกิจ 

การเปรียบเทียบที่อัลท์แมนใช้นั้นชี้ไปยังเหตุการณ์ฟองสบู่ดอทคอมในช่วงปลายทศวรรษ 1990 เมื่อนักลงทุนหลั่งไหลเข้าสู่บริษัทเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตมากมาย จนในที่สุดตลาด Nasdaq ก็ร่วงลงเกือบ 80% ระหว่างเดือนมีนาคม 2000 ถึงตุลาคม 2002

การเปรียบเทียบนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หลายผู้เชี่ยวชาญได้เริ่มเตือนถึงความคล้ายคลึงระหว่างบรรยากาศการลงทุนในเอไอในปัจจุบันกับช่วงฟองสบู่ดอทคอมในอดีต 

ทอร์สเทน สลอก นักเศรษฐศาสตร์หัวหน้าของ Apollo Global Management ได้ออกรายงานเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาระบุว่า ฟองสบู่เอไอในปัจจุบันอาจใหญ่กว่าฟองสบู่อินเทอร์เน็ตในอดีต โดยบริษัท 10 อันดับแรกใน S&P 500 มีมูลค่าที่สูงเกินจริงมากกว่าในช่วงทศวรรษ 1990

อัลท์แมนได้อธิบายถึงปรากฏการณ์นี้ว่า เมื่อฟองสบู่เกิดขึ้น คนฉลาดจะตื่นเต้นเกินไปกับความจริงแม้เพียงเล็กน้อย เขากล่าวว่า “ถ้าคุณดูฟองสบู่ส่วนใหญ่ในประวัติศาสตร์ เช่น ฟองสบู่เทคโนโลยี มันมีสิ่งที่อยู่บนโลกจริงอยู่ เทคโนโลยีสำคัญจริงๆ อินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ แต่ผู้คนตื่นเต้นเกินไป”

สิ่งที่น่าสนใจคือ แม้ว่าอัลท์แมนจะยอมรับว่าอุตสาหกรรมเอไออยู่ในฟองสบู่ แต่เขายังคงมีความมั่นใจในบริษัทของตัวเองและอนาคตของเทคโนโลยี เขาได้เปิดเผยแผนการที่ทะเยอทะยานของ OpenAI 

ว่า “คุณควรคาดหวังให้ OpenAI ใช้เงินหลายล้านล้านดอลลาร์ในการสร้างศูนย์ข้อมูลในอนาคตอันใกล้” และเมื่อมีคนถามเกี่ยวกับความกังวลของนักเศรษฐศาสตร์ เขาตอบอย่างมั่นใจว่า “เราจะทำในแบบของเราเอง”

การยอมรับของอัลท์แมนเกี่ยวกับฟองสบู่เอไอมาพร้อมกับการเตือนที่ค่อนข้างรุนแรงเกี่ยวกับสตาร์ตอัพเอไอหลายแห่งที่ได้รับเงินลงทุนมหาศาล แม้จะมีแค่สามคนกับอีกหนึ่งไอเดีย เขาเรียกสถานการณ์นี้ว่า ‘ความบ้าคลั่ง’ และไม่ใช่พฤติกรรมที่มีเหตุผล 

อัลท์แมนเตือนว่า “จะมีคนที่ต้องสูญเสียเงินจำนวนมหาศาล เราไม่รู้ว่าจะเป็นใคร แต่หลายคนจะทำกำไรมหาศาลเช่นกัน”

ปรากฏการณ์ที่อัลท์แมนพูดถึงนั้นสะท้อนให้เห็นได้ชัดในตลาดการลงทุนปัจจุบัน บริษัทเอไอหลายแห่งได้รับการประเมินมูลค่าสูงลิบลิ่ว แม้ว่าพวกเขายังไม่สามารถสร้างกำไรได้ 

ตัวอย่างเช่น Safe Superintelligence ที่ก่อตั้งโดยอดีตผู้บริหารของ OpenAI และ Thinking ที่ก่อตั้งโดยอดีต CTO ของ OpenAI ได้รับเงินลงทุนมหาศาลแม้ว่าจะเพิ่งก่อตั้งไม่นาน

แม้แต่ OpenAI เองที่อัลท์แมนเป็นซีอีโอก็ยังไม่สามารถสร้างกำไรได้ แม้ว่าจะมีรายได้ประจำปีคาดว่าจะเกิน 20,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ บริษัทกำลังดำเนินการระดมทุนรอบใหม่ที่จะทำให้มูลค่าของบริษัทสูงถึง 500,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ทำให้หลายคนตั้งคำถามเกี่ยวกับความสมเหตุสมผลของการประเมินมูลค่าดังกล่าว

ข้อกังวลเกี่ยวกับฟองสบู่เอไอไม่ใช่เรื่องใหม่ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา DeepSeek สตาร์ตอัพจากจีนได้ประกาศว่าพวกเขาสามารถพัฒนาโมเดลเอไอที่แข่งขันได้ด้วยเงินลงทุนเพียง 6 ล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับหลายพันล้านดอลลาร์ที่บริษัทอเมริกันใช้ 

การประกาศนี้ทำให้ตลาดหุ้นเทคโนโลยีปรับตัวลงอย่างรุนแรงและเป็นสัญญาณเตือนเกี่ยวกับความยั่งยืนของการลงทุนในเอไอ

การยอมรับของอัลท์แมนยังมาพร้อมกับปัญหาที่ OpenAI เผชิญอยู่กับการเปิดตัว GPT-5 โมเดลใหม่ของบริษัทที่เกิดปัญหาหลายประการ ผู้ใช้หลายคนบ่นว่าโมเดลใหม่นี้มีบุคลิกที่เย็นชาและให้คำตอบที่สั้นเกินไป จนทำให้ OpenAI ต้องนำ GPT-4o กลับมาให้บริการอีกครั้ง อัลท์แมนเองก็ยอมรับว่า “เราทำพลาดในเรื่องการเปิดตัว”

การวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญหลายคนชี้ให้เห็นว่า ฟองสบู่เอไอในปัจจุบันอาจมีความรุนแรงมากกว่าฟองสบู่ดอทคอม 

เอริก กอร์ดอน ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยมิชิแกนเตือนว่า นักลงทุนจะได้รับความเสียหายมากกว่าในช่วงฟองสบู่ดอทคอมแตก เนื่องจากมูลค่าหุ้นในปัจจุบันสูงกว่ามาก

อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่ไม่เห็นด้วยกับการเปรียบเทียบนี้ เรย์ วัง จาก Futurum Group ให้ความเห็นว่า “จากมุมมองของการลงทุนในเอไอและเซมิคอนดักเตอร์โดยรวม ผมไม่เห็นว่านี่เป็นฟองสบู่ พื้นฐานตลอดห่วงโซ่อุปทานยังคงแข็งแกร่ง และแนวโน้มระยะยาวของเอไอสนับสนุนการลงทุนอย่างต่อเนื่อง”

ร็อบ โรว์ จาก Citi ยังให้ข้อมูลเปรียบเทียบที่น่าสนใจว่า “ในสมัยฟองสบู่ดอทคอม มีหลายสถานการณ์ที่บริษัทก่อหนี้มากเกินไป และมีบริษัทไม่กี่แห่งที่สร้างกำไรได้ แต่ตอนนี้เรากำลังพูดถึงบริษัทที่มีกำไรแข็งแกร่งและกระแสเงินสดที่ดี พวกเขาใช้เงินสดนั้นในการสนับสนุนการเติบโตส่วนใหญ่”

แม้จะมีความเห็นที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่แน่นอนคือตลาดเอไอกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ตามข้อมูลจาก Precedence Research ตลาดเอไอโลกมีมูลค่าประมาณ 757,580 ล้านดอลลาร์ในปี 2025 และคาดว่าจะเติบโตไปถึง 3,680,470 ล้านดอลลาร์ในปี 2034 ด้วยอัตราการเติบโตประจำปีเฉลี่ย 19.20%

สำหรับประเทศไทย การเติบโตของเอไอและความเสี่ยงจากฟองสบู่เทคโนโลยีก็เป็นเรื่องที่ควรติดตามอย่างใกล้ชิด ประสบการณ์จากฟองสบู่อสังหาริมทรุพย์ในช่วงปลายทศวรรษ 1980 และต้นทศวรรษ 1990 ที่นำไปสู่วิกฤตเศรษฐกิจในปี 1997 เป็นบทเรียนสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าการลงทุนที่เกินตัวสามารถส่งผลกระทบร้ายแรงต่อระบบเศรษฐกิจ

ปัจจุบันประเทศไทยกำลังผลักดันการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์เป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มประเทศอาเซียน โดยคาดว่าจะเติบโตเพียง 2.8% ต่อปีในช่วง 2025-2027

การเตือนของอัลท์แมนเกี่ยวกับฟองสบู่เอไอจึงเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับนักลงทุนและผู้กำหนดนโยบายในประเทศไทย การลงทุนในเทคโนโลยีเอไออาจมีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูง แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม 

การเรียนรู้จากประสบการณ์ในอดีตและการติดตามพัฒนาการของตลาดเอไอโลกอย่างระมัดระวังจะช่วยให้ประเทศไทยสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ได้อย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ การที่ OpenAI เองยังไม่สามารถสร้างกำไรได้แม้ว่าจะมีผู้ใช้งาน ChatGPT กว่า 700 ล้านคนต่อสัปดาห์ก็เป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นถึงความท้าทายในการสร้างรูปแบบธุรกิจที่ยั่งยืนในวงการเอไอ 

การที่อัลท์แมนยอมรับถึงการอยู่ในฟองสบู่ในขณะเดียวกันก็วางแผนการลงทุนหลายล้านล้านดอลลาร์นั้น สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนและความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมนี้

ในท้ายที่สุด คำเตือนของแซม อัลท์แมนเกี่ยวกับฟองสบู่เอไอไม่ใช่การปฏิเสธศักยภาพของเทคโนโลยี แต่เป็นการเตือนให้นักลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้องใช้ความระมัดระวังในการตัดสินใจ เช่นเดียวกับที่เขากล่าวไว้ว่า 


“ฟองสบู่มักจะเกิดจากความจริงเพียงเล็กน้อยที่ถูกขยายให้ใหญ่เกินจริง แต่หลังจากฟองสบู่แตก สิ่งที่เหลืออยู่มักจะเป็นเทคโนโลยีที่แท้จริงและมีคุณค่าต่อสังคม ดังนั้น สิ่งสำคัญคือการแยกแยะระหว่างการลงทุนที่มีเหตุผลกับการเก็งกำไรที่เสี่ยงเกินไป” — แซม อัลท์แมน 


Logo-Company
Logo-Company
Logo-Company
logo-company
Pisit Poocharoen
Former field engineer seeking to break free from traditional learning frameworks. อดีตวิศวกรภาคสนามที่ต้องการหลุดออกจากกรอบการเรียนรู้แบบเดิม ๆ