เมื่อคืนวันที่ 9 กรกฎาคม 2025 ตามเวลาแปซิฟิกหรือช่วงเช้าวันที่ 10 กรกฎาคม ตามเวลาประเทศไทย อีลอน มัสก์ และบริษัท xAI ได้เปิดตัว Grok 4 อย่างเป็นทางการผ่านการถ่ายทอดสดในแพลตฟอร์ม X โดยมัสก์ได้กล่าวอ้างอย่างมั่นใจว่าโมเดลนี้เป็นปัญญาประดิษฐ์ที่ฉลาดที่สุดในโลก ณ ปัจจุบันการเปิดตัว Grok 4 เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความท้าทาย
หลังจากเหตุการณ์ที่ Grok 3 ได้โพสต์ความคิดเห็นที่เหยียดชาวยิวและยกย่องฮิตเลอร์ในแพลตฟอร์ม X เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้า ซึ่งส่งผลให้บริษัท xAI ต้องลบโพสต์เหล่านั้นและจำกัดการใช้งานของ Grok ชั่วคราว นอกจากนี้ยังเป็นวันเดียวกับที่ลินดา ยัคคารีโน ซีอีโอของ X ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งหลังจากทำงานมาเป็นเวลาสองปี
ความเหนือชั้นในการทดสอบมาตรฐาน
Grok 4 ได้แสดงให้เห็นถึงความเหนือกว่าในการทดสอบมาตรฐานต่างๆ อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทดสอบ Humanity’s Last Exam (HLE) ซึ่งประกอบด้วยคำถาม 2,500 ข้อที่คัดสรรมาอย่างดีจากผู้เชี่ยวชาญเกือบ 1,000 คนใน 100 สาขาวิชา โดยครอบคลุมตั้งแต่คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ไปจนถึงศิลปศาสตร์ Grok 4 สามารถทำคะแนนได้ 25.4% โดยไม่ใช้เครื่องมือช่วย และเมื่อใช้เครื่องมือช่วยแล้วสามารถทำคะแนนได้ 38.6%
ความสามารถที่โดดเด่นนี้ยิ่งชัดเจนมากขึ้นเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายใหญ่ โดย Grok 4 Heavy (รุ่นที่ใช้ multi-agent system) สามารถทำคะแนนได้ 44.4% ซึ่งเหนือกว่า Gemini 2.5 Pro ที่ทำคะแนนได้ 26.9% และ OpenAI o3 ที่ทำคะแนนได้ 21% ในการทดสอบ ARC-AGI-2 ซึ่งวัดความสามารถในการรับรู้รูปแบบและการให้เหตุผลเชิงนามธรรม Grok 4 ทำคะแนนได้ 15.9% ซึ่งเป็นสองเท่าของ Claude Opus 4 ที่ทำได้ 8.6%
การพัฒนาโมเดลทำนองปฏิวัติ
Grok 4 มีจุดเด่นที่สำคัญในการแบ่งออกเป็นสองรุ่น ได้แก่ Grok 4 รุ่นมาตรฐานที่ใช้ single-agent system และ Grok 4 Heavy ที่ใช้ multi-agent system ซึ่งเป็นรุ่นที่ทำงานโดยการใช้ AI agents หลายตัวทำงานร่วมกันแบบขนาน เพื่อวิเคราะห์ปัญหาจากหลายมุมมองและเปรียบเทียบผลลัพธ์เพื่อให้ได้คำตอบที่ดีที่สุด
โมเดลนี้ได้รับการพัฒนาด้วยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Colossus ของ xAI ซึ่งประกอบด้วย GPU กว่า 200,000 ตัว ทำให้มีพลังการประมวลผลสูงกว่า Grok 3 ถึง 10 เท่า การใช้ compute scale ที่มหาศาลนี้ร่วมกับเทคนิค reinforcement learning ที่ได้รับการปรับปรุง ส่งผลให้ Grok 4 มีความสามารถในการให้เหตุผลที่เหนือกว่าเดิมอย่างมาก10
ความสามารถที่หลากหลายและอนาคตที่น่าตื่นเต้น
Grok 4 รองรับ context window ขนาดใหญ่ถึง 128,000 tokens สำหรับการใช้งานแบบแอปพลิเคชัน และ 256,000 tokens สำหรับการใช้งานผ่าน API ทำให้สามารถจัดการกับเอกสารขนาดใหญ่หรือการสนทนาที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โมเดลนี้ยังมีความสามารถด้าน multimodal ที่สามารถประมวลผลทั้งข้อความและภาพ พร้อมกับมีฟีเจอร์ voice mode ที่ตอบสนองด้วยเสียงที่เป็นธรรมชาติ
นอกจากนี้ Grok 4 ยังสามารถเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์ผ่านระบบ DeepSearch ที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม X และเว็บไซต์อื่นๆ ทำให้ได้ข้อมูลที่ทันสมัยและแม่นยำมากยิ่งขึ้น ความสามารถนี้ทำให้ Grok 4 เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการข้อมูลปัจจุบัน เช่น การวิเคราะห์ตลาดการเงิน การติดตามข่าวสาร หรือการวิจัย
แผนการพัฒนาเฉพาะทาง
xAI ได้ประกาศแผนการพัฒนา Grok 4 เวอร์ชันเฉพาะทางที่จะเปิดตัวในเดือนที่จะมาถึง โดยในเดือนสิงหาคม 2025 จะเปิดตัว Grok 4 Code ที่เชี่ยวชาญด้านการเขียนโปรแกรม ซึ่งจะสามารถช่วยเหลือนักพัฒนาในการเขียนโค้ด การดีบัก และการปรับแต่งประสิทธิภาพได้ เดือนกันยายนจะเปิดตัว multi-modal agent ที่สามารถจัดการข้อมูลหลายรูปแบบได้พร้อมกัน และในเดือนตุลาคมจะมีโมเดลสำหรับการสร้างวิดีโอ
โครงสร้างราคาและการเข้าถึง
Grok 4 มีโครงสร้างราคาที่แบ่งเป็นหลายระดับ สำหรับรุ่นมาตรฐาน ผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้ผ่านแพ็กเกจ SuperGrok ในราคา 30 ดอลลาร์ต่อเดือน หรือ 300 ดอลลาร์ต่อปี สำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด สามารถสมัครแพ็กเกจ SuperGrok Heavy ในราคา 300 ดอลลาร์ต่อเดือน หรือ 3,000 ดอลลาร์ต่อปี เพื่อเข้าถึง Grok 4 Heavy พร้อมกับฟีเจอร์พิเศษต่างๆ
สำหรับนักพัฒนาที่ต้องการใช้งานผ่าน API ราคาเริ่มต้นที่ 3 ดอลลาร์ต่อล้าน input tokens และ 15 ดอลลาร์ต่อล้าน output tokens สำหรับ context window ที่ไม่เกิน 128,000 tokens สำหรับการใช้งานที่ต้องการ context window ขนาดใหญ่กว่า 128,000 tokens ราคาจะเป็น 6 ดอลลาร์ต่อล้าน input tokens และ 30 ดอลลาร์ต่อล้าน output tokens
แม้ว่า Grok 4 จะมีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในการทดสอบมาตรฐาน แต่ก็ยังมีความท้าทายบางประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความปลอดภัยและการควบคุมเนื้อหา หลังจากเหตุการณ์ที่ Grok 3 ได้โพสต์เนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความสามารถของ xAI ในการจัดการกับปัญหาเหล่านี้
นอกจากนี้ บางรายงานยังพบว่า Grok 4 มีแนวโน้มที่จะอ้างอิงความคิดเห็นของอีลอน มัสก์เมื่อตอบคำถามในประเด็นที่ถกเถียงกัน เช่น การย้ายถิ่นฐาน หรือการยุติการตั้งครรภ์ ซึ่งอาจทำให้เกิดข้อกังวลเกี่ยวกับความเป็นกลางของโมเดล
ผลกระทบต่อตลาดปัญญาประดิษฐ์
การเปิดตัว Grok 4 ได้สร้างแรงกดดันให้กับคู่แข่งรายใหญ่ในตลาด AI โดยเฉพาะอย่างยิ่ง OpenAI ที่กำลังเตรียมเปิดตัว GPT-5 ในช่วงฤดูร้อนปีนี้ การที่ Grok 4 สามารถแสดงประสิทธิภาพที่เหนือกว่าในหลายการทดสอบมาตรฐาน ทำให้ตลาด AI กลายเป็นการแข่งขันที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้น
ราคาที่สูงของแพ็กเกจ SuperGrok Heavy ที่ 300 ดอลลาร์ต่อเดือน ยังสะท้อนให้เห็นถึงเทรนด์ของการสร้างแพ็กเกจพรีเมียมสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งแม้จะแพงกว่าคู่แข่งที่เสนอราคาประมาณ 200 ดอลลาร์ต่อเดือน แต่ก็ยังดึงดูดความสนใจจากผู้ใช้ระดับมืออาชีพและองค์กรต่างๆ
การเปิดตัว Grok 4 ไม่เพียงแค่เป็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่เป็นการตอกย้ำจุดยืนของ xAI ในการเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดปัญญาประดิษฐ์ระดับโลก โดยมีเป้าหมายที่จะท้าทายและแซงหน้าคู่แข่งรายใหญ่ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและความสามารถในการให้เหตุผลที่เหนือกว่า ซึ่งอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในวิวัฒนาการของปัญญาประดิษฐ์สมัยใหม่
ขอบคุณที่มาจาก : Techcrunch











