VEGA Instrument
VEGA Instrument
OpenAI คว้าเหรียญทอง IMO

เมื่อ OpenAI คว้าเหรียญทองคณิตศาสตร์โลก 

Date Post
22.07.2025
Post Views

“ถ้าเครื่องจักรคิดได้เหมือนเรา แล้วเราควรเปลี่ยนวิธีคิดและทำงานอย่างไร” คำถามนี้อาจฟังดูไกลตัว แต่คืนวันที่ 19 กรกฎาคม 2025 กลับชัดเจนขึ้น เมื่อ OpenAI ประกาศว่าโมเดลทดลองเชิงเหตุผล (Reasoning LLM) ของพวกเขา ทำคะแนน 35 เต็ม 42 ในการแข่งขัน International Mathematical Olympiad ภายใต้เงื่อนไขเดียวกับเด็กเหรียญทอง เซสชันละ 4.5 ชั่วโมง ไม่มีอินเทอร์เน็ตหรือเครื่องมือช่วย ยืนยันว่า AI ไม่ใช่แค่จัดการตัวเลข แต่สามารถสร้าง ‘บทพิสูจน์’ เชิงลึกได้ในระดับสูงเทียบเท่ามนุษย์

ทำไม IMO ถึงทดสอบเหตุผลได้ดีที่สุด

ตั้งแต่จุดเริ่มต้นในปี 1959 IMO มุ่งท้าทายนักเรียนให้คิดเชิงตรรกะขั้นสูง จนกลายเป็นมาตรฐานทองของวงการคณิตศาสตร์ ความยากอยู่ที่ไม่ใช่แค่หาคำตอบ แต่ต้องเขียนบทพิสูจน์ให้ครบถ้วนชัดเจนภายในเวลาจำกัด โมเดล OpenAI จึงต้องแบ่งโจทย์ใหญ่เป็นขั้นตอนย่อย ตรวจสอบตรรกะทีละก้าว พร้อมดึงรางวัลย่อยจากการแก้ปัญหาแบบ Reinforcement Learning พ่วงด้วยการให้โมเดลย้อนเช็กความถูกต้อง (Self-Verification) และใช้ทรัพยากรคอมพิวต์เพิ่มขึ้นในช่วง inference (Test-Time Compute Scaling) จึงเกิดกระบวนการคิดที่คล้ายมนุษย์ ไม่ได้เดาคำต่อไปแบบสถิติธรรมดา

โมเดล AIคะแนน IMO 2025เหรียญ
OpenAI Reasoning LLM (ทดลอง)35/42ทอง
DeepMind AlphaProof + AlphaGeometry28/42เงิน
Gemini 2.5 Pro13/42 หรือต่ำกว่าไม่ผ่าน
Grok-413/42 หรือต่ำกว่าไม่ผ่าน

แล้วมันสะท้อนอะไรในวงการธุรกิจและสังคม

ข่าวนี้จุดประกายให้คิดว่าองค์กรต้องปรับกลยุทธ์อย่างไรเมื่อ AI เริ่ม “คิด” ได้ลึกขึ้น Sam Altman มองว่าเป็นหมุดหมายสำคัญสู่ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป แต่ยังไม่พร้อมปล่อยสู่สาธารณะทันที Terence Tao 

เตือนให้ตรวจสอบผลอย่างอิสระก่อนยืนยันเต็มรูปแบบ ขณะที่ Gary Marcus เรียกร้องความโปร่งใสในกระบวนการฝึกฝนและต้นทุนคอมพิวต์ต่อโจทย์หนึ่งข้อ

แพลตฟอร์ม MathArena จึงเปิดบอร์ดใหม่ให้โมเดลอื่นๆ แข่งขันตามมาตรฐานนี้ นักลงทุนและองค์กรกำลังจับตาว่า งานไหนในธุรกิจจะยกให้ AI รับช่วงได้บ้าง

จากบทพิสูจน์สู่มูลค่าเชิงธุรกิจ

การพิสูจน์ระดับ IMO เป็นเพียงตัวอย่างแรกของ Reasoning AI ที่ไม่ใช่แค่สร้างข้อความหรือรูปภาพ แต่ตัดสินใจด้วยเหตุผล งานวิจัยสินค้า การออกแบบยา การวิเคราะห์พอร์ตโฟลิโอ และการประเมินความเสี่ยงล้วนได้ประโยชน์จาก โมเดลที่ใช้เวลาและคอมพิวต์เพื่อคำตอบแม่นยำกว่าเดิม 

รายงานจาก LumenAlta ระบุว่าองค์กรไม่ต้องใช้ Big Data มากเท่ากับ Generative AI แต่ต้องเตรียมโครงสร้างข้อมูลเชิงตรรกะให้พร้อม ลดเวลาพัฒนาและเพิ่มความโปร่งใสในการตัดสินใจ

บทเรียนสำคัญสำหรับองค์กรไทย

  1. ต้องปรับ Mindset ให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เมื่อ AI พัฒนาจากการสร้างเนื้อหาไปสู่การใช้เหตุผล การแข่งขันจะไม่ใช่แค่ความรวดเร็วแต่เป็นคุณภาพการตัดสินใจ
  2. จัดระเบียบข้อมูลเชิงตรรกะ ตั้งแต่เอกสาร สัญญา ไปจนถึงกระบวนการภายใน เพื่อให้โมเดล reasoning ใช้งานได้ทันทีไม่ใช่ป้อนข้อความแบบสุ่ม
  3. พัฒนาทักษะคนในทีมสู่บทบาทใหม่ ทั้งการตรวจสอบผลลัพธ์ วิเคราะห์ตรรกะ และออกแบบโจทย์เชิงกลยุทธ์ เพื่อผสานพลังมนุษย์และ AI อย่างมีความรับผิดชอบ

ทางเลือกของอนาคต ลงมือก่อนหรือรอวันถูกทิ้ง

หากมองว่าการปรับตัวช้าไม่เสียอะไร อาจคิดผิด เพราะคู่แข่งที่เริ่มต้นก่อนจะใช้ Reasoning AI เพิ่มศักยภาพธุรกิจได้เร็วกว่า แต่ผู้ที่กล้าออกแบบโครงสร้างข้อมูลและสร้างทีมผสมผสานมนุษย์ AI อย่างชาญฉลาด จะได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ทั้งต้นทุนและความน่าเชื่อถือในตลาดทุน

เรื่องนี้ไม่ใช่แค่บทพิสูจน์บนกระดาษ แต่เป็นการเขย่ากรอบความคิดองค์กรไทยให้กล้าก้าว นำหน้าคู่แข่ง และสร้างแนวทางใหม่ในโลกที่ AI สามารถคิดวิเคราะห์ได้เหมือนหรือเก่งกว่ามนุษย์ในบางด้าน พร้อมหรือยังกับการออกแบบอนาคตโดยมี Reasoning AI เป็นพาร์ทเนอร์เชิงยุทธศาสตร์?


Logo-Company
Logo-Company
Logo-Company
logo-company
Pisit Poocharoen
Former field engineer seeking to break free from traditional learning frameworks. อดีตวิศวกรภาคสนามที่ต้องการหลุดออกจากกรอบการเรียนรู้แบบเดิม ๆ
ลงทะเบียนร่วมงาน Automation Expo