Betabec
ภาพผู้หญิงข้างหลัง หน้า Google AI Overview

วิกฤตคนทำเว็บ Google AI Overview ทำทราฟฟิกลดฮวบ เพจวิวหาย รายได้สะเทือน

Date Post
23.07.2025
Post Views

ลองนึกภาพคุณมีร้านอาหารเล็ก ๆ อยู่ริมถนนสายใหญ่ คนขับรถผ่านเห็นป้ายหน้าร้านน่ากิน ตัดสินใจเลี้ยวรถเข้า กินเสร็จ สั่งของหวาน กลับมาอุดหนุนอีกบ่อย ๆ 

แต่วันดีคืนดี มีคนนำเมนูร้านคุณไปแปะไว้หน้าร้านฟาสต์ฟู้ดข้าง ๆ คราวนี้ลูกค้าเห็นเมนูแล้ว รู้สึกว่าแค่นี้ก็พอ ไม่จำเป็นต้องเข้าไปกินร้านคุณเลย 

นั่นแหละครับ คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับเว็บไซต์จำนวนมากในยุคที่ Google ดึง AI มาช่วย “สรุปคำตอบ” ให้เสร็จตั้งแต่หน้าแรกของผลการค้นหา และผลกระทบก็เริ่มชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ

Pew Research ยืนยันแล้ว AI Overview พาผู้ใช้ ‘หยุดคลิก’

งานวิจัยชิ้นล่าสุดจาก Pew Research Center เผยข้อมูลที่ไม่สู้ดีนักสำหรับเจ้าของเว็บไซต์และนักทำคอนเทนต์ออนไลน์ โดยในการศึกษาพฤติกรรมผู้ใช้กว่า 900 คนในสหรัฐฯ 

ตลอดเดือนมีนาคม 2025 พบว่าเมื่อผู้ใช้งานเจอผลการค้นหาของ Google ที่มี AI Overview ปรากฏอยู่ พวกเขามีแนวโน้มจะเลิกค้นหาต่อ หยุดคลิก หรือแม้แต่ปิดเบราว์เซอร์ไปเลย

ตัวเลขหนึ่งที่สะเทือนใจมากคือ ผู้ใช้คลิกลิงก์ทั่วไป บนหน้าค้นหานั้นเพียง 8% เมื่อมี AI Summary ปรากฏ เทียบกับ 15% บนหน้าผลลัพธ์แบบดั้งเดิม ซึ่งเรียกได้ว่า ทราฟฟิกเว็บไซต์ตกลงเกือบ ครึ่งหนึ่ง ทั้งที่เนื้อหาของเว็บไซต์ก็ยังอยู่ที่เดิมเหมือนวันวาน

ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ ลิงก์ที่ถูกอ้างอิงอยู่ในเนื้อหา AI Summary เอง มีคนคลิกเพียง “1%” เท่านั้น พูดง่าย ๆ คือ ถึงจะมีเครดิต…แต่ไม่มีคนตามไปอ่าน 

‘คลิกไม่มา แอดไม่เดิน’ เมื่อเม็ดเงินโฆษณาถูกรีดออกจากเว็บ

เว็บข่าว เว็บรีวิว เว็บสายข้อมูล ทุกสิ่งที่เคยมีคู่ชีวิตคือ ทราฟฟิกจาก Google ตอนนี้กำลังพบกับความท้าทายที่แทบไม่ทันได้ตั้งตัว หลายสื่อเริ่มส่งสัญญาณเตือนอย่างจริงจัง ไม่ต้องพูดถึงเว็บไซต์เล็ก ๆ 

แม้แต่เว็บไซต์ระดับหัวแถวของโลกอย่าง Daily Mail ยังออกมายอมรับว่า ปริมาณผู้เข้าชมจาก Google ลดลง มากกว่า 50% ในบางหมวดข้อมูล ทั้งที่ยังติดอันดับหนึ่งของผลการค้นหาอยู่ก็ตาม

ในขณะที่ Google ยังคงโชว์ตัวเลขสวย ๆ ว่า Impairment impressions หรือจำนวนการมองเห็นหน้าเว็บจากผลค้นหานั้นเพิ่มขึ้นกว่า 49% ในช่วงเวลาปีต่อปี แต่ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์ด้าน SEO อย่าง 

BrightEdge กลับพบว่าผลที่เกิดขึ้นตรงข้ามกับสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า ‘คลิก’ หรือ ‘CTR’  คืออัตราการคลิกผ่านที่ลดลงถึง 30%

มันชัดเจนแล้วว่า ‘คนเห็น’ ไม่ได้แปลว่า ‘คนคลิก’ และแน่นอน…ไม่ได้แปลว่า ‘รายได้จะเข้ามาตามเดิม’

ความหวังดีของ Google ที่ง่ายต่อผู้ใช้แต่ลำบากเจ้าของเว็บ

ในมุมของ Google พวกเขามองว่า AI Overview เป็นตัวช่วยชั้นดีที่ทำให้ผู้ใช้ เข้าถึงแก่นของข้อมูลเร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับคำถามที่ซับซ้อนหรือหลายแง่มุม และยังยืนยันว่า 

ผู้ใช้มากกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลกเคยใช้ฟีเจอร์ AI Overview นับตั้งแต่เริ่มเปิดให้ใช้งานอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคม 2024

คำถามคือ การทำให้คนเข้าใจได้ทันที จะกลายเป็นดาบสองคมที่ปลายอีกด้าน ไปตัดเส้นทางรายได้และการรับรู้ของเว็บไซต์ต้นทางโดยตรงหรือไม่?

ทางเลือกใหม่ของเว็บไซต์เพราะไม่ใช่ทุกคนจะยอมเจ็บเฉย ๆ 

เมื่อการอยู่บน Google ไม่ได้การันตีคนคลิกอีกต่อไป ผู้เล่นในวงการเว็บจึงเริ่มมองหาโมเดลใหม่ ๆ เช่นที่ Cloudflare เสนอแนวคิดให้เว็บไซต์ “เก็บค่าผ่านทาง” กับบรรดา AI Bot ที่มาแอบอ่านเนื้อหาไปเทรนโมเดลของตัวเอง หรือบางสื่อก็หันไปพึ่งพาระบบสมาชิก (subscription) หรือสร้างคอมมูนิตี้ในโซเชียลมีเดียอย่างจริงจังยิ่งขึ้น

บางเว็บไซต์ก็ถึงขั้น ‘บล็อก AI’ ไม่ให้มาแอบเรียนรู้จากเนื้อหาของตน ส่วนบางคนเริ่มตั้งคำถามว่า เราควรยอมให้เจ้าของระบบค้นหา ‘ผูกขาดการแสดงผลทั้งหมด’ หรือไม่ ?

โลกที่คนไม่คลิกแต่หาคำตอบได้เลย จะเหลือพื้นที่แค่ไหนให้ ‘ผู้สร้างเนื้อหา’ ?

สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ฟีเจอร์ที่ทำให้เราได้คำตอบเร็ว ไม่ต้องคลิกหลายเว็บ ไม่ต้องเสียเวลา…คือความสะดวกสบายชั้นยอด แต่นี่อาจเป็นภาวะที่เรียกว่า 

“สะดวกของผู้ค้น…คือหายนะของผู้สร้าง” เพราะปริมาณคนเข้าชมคือหัวใจของการอยู่รอด และทุกคลิกคือชีวิตของคนทำงานเว็บ

และคำถามสุดท้ายก็คือ ถ้าไม่มีใครคลิกเข้าเว็บเพื่อไปอ่านต่อแล้ว ใครกันล่ะ…จะเป็นคนสร้างเนื้อหาชั้นดีให้ AI ไปดึงมาสรุปอยู่ดี? โลกของการค้นหาที่เราเคยรู้จัก…กำลังเปลี่ยนไปอย่างเงียบ ๆ แต่น่าจับตาอย่างยิ่ง


Logo-Company
Logo-Company
Logo-Company
logo-company
Pisit Poocharoen
Former field engineer seeking to break free from traditional learning frameworks. อดีตวิศวกรภาคสนามที่ต้องการหลุดออกจากกรอบการเรียนรู้แบบเดิม ๆ