เมื่อสภาพแวดล้อมตลาดยานยนต์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การแข่งขันเน้นไปที่ราคา ส่งผลให้การเปิดตัวยานยนต์ใหม่ ๆ ไม่อาจเน้นกำไรได้แบบในอดีตที่เคยเป็นมา ซึ่งยานยนต์จีนกลับยังสามารถลดราคาลงได้อีก ด้านตลาด Supercar ชะลอตัว ส่วนหนึ่งเป็นผลจากรอรับนโยบายสวรรพสามิตรใหม่ปี 2569 ที่ PHEV ขนาดเครื่องยนต์เกิน 3.0 ลิตรเสียภาษีต่ำลง 30% ทำให้ราคารถที่เกี่ยวข้องลดลง 15%
ตลาดรถยนต์เมืองไทยอยู่ในสภาวะลุ้นยอดขายปี 2568 ว่าจะแตะ 6 แสนคันหรือไม่ โดยในปี 2567 ปิดอยู่ที่ 5.7 แสนคัน โดยครึ่งปีแรกยอดขายอยู่ที่ 302,694 คัน ลดลง 1.7% หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ตลาดรถยนต์นั่ง 117,482 คัน ลดลง 1.5% แบ่งเป็น รถยนต์ไฟฟ้า HEV 67,202 คัน ขณะที่ EV 56,529 คัน เพิ่มขึ้น 54.5% ขณะที่ตลาดปิกอัพ 1 ตัน ขายได้ 94,715 คัน ลดลง 12.7%
สำหรับตลาด Supercar และตลาดรถหรูระดับ 12-20 ล้านบาท ที่ผ่านมามียอดขายเฉลี่ย 500 คันต่อปี และรถเกิน 20 ล้านบาทขึ้นไปอยู่ที่ 200 คันต่อปี เดิมกลุ่ม Supercar ที่เครื่องยนต์เกิน 3.0 ลิตร ทั้ง PHEV และเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) จะเสียภาษีเท่ากันที่ 40% แต่โครงสร้างภาษีใหม่ PHEV เสียภาษีลดลงเหลือ 30% ส่วนกลุ่ม ICE จะเพิ่มเป็น 50% ยกตัวอย่างกรณีของ Lamborghini ปีหน้าราคาลดลงทุกรุ่นเฉลี่ย 15% เช่น Lamborghini Urus SE จากราคา 24.95 ล้านบาท เหลือ 21.5 ล้านบาท
ที่มาข่าว:
ฐานเศรษฐกิจ










