Cornell Nanoscale Science and Technology Facility (CNF) ได้เริ่มโครงการใช้เทคโนโลยี Virtual Reality (VR) มาสร้างทักษะบุคลากรรุ่นใหม่สำหรับอุตสาหกรรมไมโครชิปเป็นครั้งแรกโดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มเยาวชน เพื่อเตรียมกำลังคนเข้าสู่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
ปัจจุบัน สหรัฐอเมริกากำลังเผชิญกับความท้าทายด้านบุคลากร โดยมีการคาดการณ์ว่าจะขาดแคลนแรงงานฝีมือในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์มากถึง 67,000 คนภายในปี 2030 การสร้างแนวทางการเรียนรู้ใหม่ที่เข้าถึงได้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
VR Module: ห้องแล็บเสมือนจริงขับเคลื่อนการเรียนรู้ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
CNF ได้พัฒนาโมดูล VR ฟรีสำหรับการเรียนรู้ของเยาวชน ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงได้ผ่าน แว่น VR, คอมพิวเตอร์พกพา หรือแท็บเล็ต โดยเนื้อหาจะพาผู้เรียนเข้าสู่ห้องคปลอดเชื้อของ CNF ขนาดกว่า 17,000 ตารางฟุต ซึ่งเป็นพื้นที่การผลิตไมโครชิปที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง ผู้เรียนสามารถสำรวจสภาพแวดล้อม พบปะกับผู้เชี่ยวชาญของ CNF และเรียนรู้กระบวนการเบื้องหลังการสร้างไมโครชิปที่เป็นหัวใจของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ยุคใหม่ เช่น AI สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์สื่อสาร
โมดูลนี้ยังสอนวิธีการสวมใส่สำหรับห้องปลอดเชื้อ และอธิบายความสำคัญของการรักษาสภาพแวดล้อมที่ปราศจากการปนเปื้อน เนื่องจากแหล่งกำเนิดมลภาวะที่ใหญ่ที่สุดในห้องปลอดเชื้อนั้นมาจาก ‘มนุษย์’ เอง ซึ่งสามารถปล่อยเซลล์ผิวหนังนับล้านเซลล์ต่อวัน โดยไมโครดีไวซ์มีขนาดเล็กกว่าเซลล์ผิวหนังหลายเท่า ดังนั้น การควบคุมการปนเปื้อนจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด
การขยายผลสู่การเรียนรู้ทั้งระบบ
โมดูลนี้ถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้น CNF มีแผนที่จะพัฒนา 30–40 โมดูล VR เพิ่มเติม เพื่อครอบคลุมกระบวนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ทั้งหมด ซึ่งจะเปิดให้ใช้งานในระดับประเทศภายในปี 2027 ผ่านสถาบันพันธมิตร เช่น มหาวิทยาลัย วิทยาลัยชุมชน และโรงเรียนมัธยม โดยใช้รูปแบบการสมัครสมาชิก เพื่อดูแลค่าใช้จ่ายด้านซอฟต์แวร์และการพัฒนาคอนเทนต์
โครงการนี้พัฒนาโดยความร่วมมือกับ Cornell’s Center for Teaching Innovation (CTI) และ Creative Technology Lab ซึ่งเป็นทีมออกแบบการสอนและนักพัฒนา VR โดยเน้นการใช้เทคโนโลยีเพื่อขยายโอกาสการเรียนรู้
นวัตกรรมใหม่เริ่มต้นได้ด้วยความร่วมมือ
โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจาก CHIPS and Science Act ปี 2022 และ National Science Foundation (NSF) รวมถึงการสนับสนุนจากภาคเอกชน เช่น Micron Technology Inc. ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตไมโครชิปขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ
Cornell ยังทำงานร่วมกับ eCornell (แพลตฟอร์มการศึกษาออนไลน์ของมหาวิทยาลัย) เพื่อพัฒนาหลักสูตรที่สามารถนำไปใช้ในโรงเรียนอาชีวะ วิทยาลัยชุมชน และมหาวิทยาลัยที่ยังไม่มีโปรแกรมการฝึกอบรมด้านเซมิคอนดักเตอร์
นอกจากนี้ CNF ยังร่วมมือกับ TST BOCES (Tompkins-Seneca-Tioga Board of Cooperative Educational Services) เพื่อสนับสนุนการแนะแนวอาชีพและสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเรียนมัธยมปลายที่ต้องการเข้าสู่วงการ
การเติบโตเพื่อรับมือกับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในระยะยาว
CNF ตั้งเป้าที่จะทำให้ เทคโนโลยีระดับนาโนและการผลิตไมโครชิปเข้าถึงได้ง่ายขึ้น สร้างความตระหนักและความสนใจในหมู่เยาวชน รวมถึงเสริมสร้างขีดความสามารถการแข่งขันของสหรัฐอเมริกา บนเวทีโลก
ทุกปี CNF เปิดให้บริการแก่นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอื่น ๆ สตาร์ทอัพ และบริษัทต่าง ๆ รวมกว่า 500 ราย โดยมีการสนับสนุนจาก NSF และรัฐนิวยอร์ก เพื่อทำให้โครงสร้างพื้นฐานด้านนาโนเทคโนโลยีเป็นทรัพยากรที่ทุกภาคส่วนเข้าถึงได้
การพัฒนาแรงงานฝีมือด้านเซมิคอนดักเตอร์ไม่ใช่เรื่องของอนาคตที่ห่างไกล แต่เป็นสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการในวันนี้ ความริเริ่มของ CNF ในการใช้ VR เพื่อการเรียนการสอนด้านไมโครชิป ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยปิดช่องว่างบุคลากรที่กำลังจะเกิดขึ้น พร้อมทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนได้เห็นเส้นทางอาชีพใหม่ ๆ ในโลกเทคโนโลยีขั้นสูง
ด้วยความร่วมมือจากภาครัฐ มหาวิทยาลัย และภาคเอกชน CNF กำลังสร้างต้นแบบของ ‘ระบบนิเวศการศึกษาเซมิคอนดักเตอร์’ ที่จะวางรากฐานความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมสำคัญของศตวรรษที่ 21
ที่มาข่าว:
Cornell
