จากข่าวของ Industry of Things โดย Bitkom ที่สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทในเยอรมนีกำลังพิจารณาการใช้งานบริการ Cloud ที่ใช้งานจากต่างประเทศเช่นสหรัฐอเมริกาในฐานะความเสี่ยงของธุรกิจซึ่งอาจเป็นผลจากการก้าวขึ้นสู่อำนาจของโดนัลด์ ทรัมป์
บริษัทจากเยอรมนีนั้นเริ่มมีความกังวลเพิ่มขึ้เนในการที่ต้องพึ่งพิงบริการ Cloud จากต่างประเทศ โดยมีการสอบถามบริษัทกว่า 600 แห่งที่มีแรงงานแห่งละ 20 คน ปัจจุบันสถานการณ์ของสหรัฐอเมริกานั้นก่อให้เกิดคำถามต่อความมั่นใจในบริการของผู้ให้บริการชั้นนำอย่าง Microsoft, Amazon AWS และ Google
จากผลสำรวจชี้ให้เห็นว่าบริษัทที่ 2 ที่ตั้งอยูในเยอรมนีซึ่งมีการใช้การประมวลผลบน Cloud ภายใต้การบังคับใช้กฎหมายของโดนัลด์ ทรัมป์ทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนว่ายุทธศาสตร์ด้านดิจิทัลเหล่านี้กำลังถูกทดสอบ โดยทั่วไปแล้วการใช้กระประมวลผล Cloud นั้นต้องใช้ทั้งหน่วยความจำเพื่อเก็บข้อมูล, โปรแกรม หรือพลังในการประมวลผลที่ทำงานผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งไมตำเป็รค้องถือครองหรือดูแลการทำงานฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์เอง ซึ่งผู้ให้บริการเหล่านี้จะให้บริการในรูปแบบศูนย์ข้อมูลขนดใหญ่ทดแทนความจำเป็นรูปแบบเดิมที่อาจจะต้องดูแลเองทั้งหมด
เมื่อบริษัทเยอรมันมองหาบริการ Cloud ในภูมิภาคเพื่อลดการพึ่งพิงบริษัทนอกยุโรป
เชื่อหรือไม่ว่ากว่า 62% ของบริษัทเยอรมันจะยังคงสามารถทำงานต่อไปได้แม้ไม่มีบริการ Cloud แต่ในขณะเดียวกันบริษัทจากเยอรมนีกว่า 76% นั้นมีการพึ่งพา Cloud จากแบรนด์สัญชาติสหรัฐฯ อเมริกา และ 82% นั้นต้องการใช้บริการจากผู้ให้บริการรายใหญ่จากเยอรมนีหรือยุโรปที่สามารถแข่งขันในตลาดที่มีบริษัทที่ไม่ใช่สัญชาติยุโรปเป็นผู้นำตลาดได้
กว่าครึ่งของแอปพลิเคชัน IT ทำงานผ่าน Cloud
จากการศึกษาข้อมูลของ Bitkom เกือบทุกบริษัทในเยอรมนีนั้นมีการใช้งาน Cloud หรืออย่างน้อยตัดสินใจใช้งานอยู่ในปัจจุบัน โดย 90% นั้นมีการใช้งานแอปพลิเคชัน Cloud กันอยู่ในปัจจุบัน และอีก 10% นั้นแมีแผนที่จะใช้งานหรือมีการพูดคุยกันเกิดขึ้นแล้ว ในขณะที่ 47% ของแอปพลิเคชันด้าน IT ในเศรษฐกิจเยอรมนีถูกดำเนินการผ่าน Cloud ซึ่งปีที่ผ่านมามีสัดส่วนเพียง 38% คาดว่าจะเพิ่มเป็น 58% ภายในปี 2030 สำหรับ 10% ของบริษัทนั้นมีการใช้งานน้อยกว่า 10% ของแอปพลิเคชันด้าน IT ที่มี คาดว่าในอีก 5 ปีปัจจัยเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นกับบริษัทใด ๆ อีกต่อไป
ที่มาข่าว:
Industry of Things
