กรมการปกครอง เตือนประชาชนกรณีสแกนม่านตาแลกเหรียญเงินดิจิทัลคริปโทเคอร์เรนซี Cryptocurrency เป็นเงินประมาณ 500 – 1,000 บาท เป็นข่าวปลอม ในขณะที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เตือนสแกนม่านตาแลกเงินถือเป็นข้อมูลทรัพย์สินดิจิทัลส่วนบุคคล สามารถนำไปใช้ในการระบุหรือยืนยันตัวตนของบุคคลได้ เป็นความเสี่ยงด้านความปลอดภัยระดับสูสำหรับโลกยุคปัจจุบันที่ระบบนิเวศดิจิทัลเข้าถึงทุกภาคส่วนของชีวิต
CIB เผยแพร่ข้อความเตือนภัยจากการตรวจพบกลุ่มบุคคลชักชวนให้ประชาชนสแกนม่านตาเพื่อเเลกรับเงินค่าจ้างในหลายพื้นที่ของประเทศไทย พร้อมแนะนำให้หาสมาชิกมาสแกนม่านตาเพิ่ม เพื่อรับเงินส่วนต่างค่าเเนะนำสมาชิก
โดยล่าสุดกรมการปกครองซึ่งเป็นหน่วยงานในการดำเนินการเก็บข้อมูลทางทะเบียน ได้ยืนยันเเล้วว่าไม่ใช่การดำเนินการของกรมการปกครองเเต่อย่างใด
CIB จึงขอเตือนประชาชน อย่ายินยอมให้ผู้อื่นสแกนเก็บข้อมูลม่านตาของท่านโดยไม่รู้ที่มาที่ไป ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องจากข้อมูลการสแกนม่านตา ถือเป็นข้อมูลทรัพย์สินดิจิทัลส่วนบุคคล ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการระบุหรือยืนยันตัวตนของบุคคลได้
ความเสี่ยงที่เกิดจากข้อมูลการสแกนม่านตาถูกใช้งานโดยไม่ได้ถูกควบคุมตามกฎหมาย
- ข้อมูลส่วนตัวรั่วไหล – บุคคลอื่น ๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวที่มีความอ่อนไหวได้ เช่น ข้อมูลที่อยู่, การเงิน, สุขภาพ และข้อมูลทางกฎหมาย เป็นต้น
- ถูกสวมรอยในการทำธุรกรรมต่าง ๆ – ข้อมูลอ่อนไหวที่หลุดรอดออกไปเมื่อกลายเป็นสาธารณะก็จะสามารถใช้ในการสวมรอยเพื่อติดต่อทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้ เช่น เปิดบัญชีผิดกฎหมาย หรือการใช้ข้อมูลสำหรับหลอกลวงผู้อื่นรวมไปถึงเจ้าของข้อมูล ดังที่ Scammer สามารถยืนยันข้อมูลส่วนบุคคลได้ ซึ่งเจ้าของข้อมูลอาจกลายเป็นผู้ต้องหาได้ด้วยเช่นกัน
- ถูกนำไปสร้าง Deepfake เพื่อใช้ในการก่ออาชญากรรม – เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการหลอกลวงและสร้างความเสียหายโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งในกณีที่ไม่สามาถรหาหลักฐานยืนยันตัวตนว่าไม่เกี่ยวข้องได้เจ้าของข้อมูลก็มีโอกาสสูงที่จะต้องรับโทษเช่นกัน
ประชาชนพึงระวังอย่าหวังผลตอบเเทนหรือผลประโยชน์เพียงเล็กน้อย เพราะผลลัพธ์ที่จะตามมาภายหลังจะกลายเป็นผลเสียมูลค่ามหาศาล เมื่อข้อมูลส่วนตัวของคุณกลายเป็นผลิตภัณฑ์หรือเครื่องมือในการทำผิดกฎหมายขึ้นมา
หากถูกหลอกลวงไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือพบเห็นการกระทำความผิดดังกล่าว สามารถร้องขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด/อำเภอ หรือสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567
ที่มาข่าว:
ฐานเศรษฐกิจ










