สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเปิดเผยยอดการผลิตยานยนต์ในประเทศเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 11.98% ยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 314.55% ในขณะที่ยอดขายยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 74.87%
นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ร่วมเปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนมิถุนายน 2568 ผลิตรถยนต์ 130,223 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.98 ขาย 50,079 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.07 ส่งออก 88,085 คัน ลดลงร้อยละ 1.11 ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 3,304 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 314.55 ขายรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 9,373 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 74.87
ส่วนของการผลิต
จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนมิถุนายน 2568 มีทั้งสิ้น 130,223 คัน ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2568 ร้อยละ 6.44 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 11.98 เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้นจากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) เพิ่มขึ้นร้อยละ 314.55 และผลิตรถกระบะเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.39 จากการผลิตรถกระบะส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.00 และผลิตเพื่อขายในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 26.27 จากฐานต่ำในเดือนเดียวกันปีที่แล้ว
จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม – มิถุนายน 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 724,715 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2567 ร้อยละ 4.80
ผลิตเพื่อการส่งออก
เดือนมิถุนายน 2568 ผลิตได้ 84,918 คัน เท่ากับร้อยละ 65.21 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 3.85 ส่วนเดือนมกราคม – มิถุนายน 2568 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 475,013 คัน เท่ากับร้อยละ 65.54 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 7.98
รถยนต์นั่ง เดือนมิถุนายน 2568 ผลิตเพื่อการส่งออก 24,454 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 3.50 และตั้งแต่เดือนมกราคม – มิถุนายน 2568 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 97,570 คัน เท่ากับร้อยละ 36.87 ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง ลดลงจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2567 ร้อยละ 35.60
ผลิตเพื่อใช้งานภายในประเทศ
เดือนมิถุนายน 2568 ผลิตได้ 45,305 คัน เท่ากับร้อยละ 34.79 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 31.24 และเดือนมกราคม – มิถุนายน 2568 ผลิตได้ 249,702 คัน เท่ากับร้อยละ 34.46 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2567 ร้อยละ 1.90
รถยนต์นั่ง เดือนมิถุนายน 2568 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 26,565 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 36.89 และตั้งแต่เดือนมกราคม – มิถุนายน 2567 ผลิตได้ 167,098 คัน เท่ากับร้อยละ 63.13 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม – มิถุนายน 2567 เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.86
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมิถุนายน 2568 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 18,028 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 26.27 และตั้งแต่เดือนมกราคม – มิถุนายน 2568 ผลิตได้ทั้งสิ้น 78,235 คัน เท่ากับร้อยละ 17.17 ของยอดการผลิตรถกระบะ และลดลงจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2567 ร้อยละ 23.35 ซึ่งแบ่งเป็น
เดือนมิถุนายน 2568 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 205,565 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 12.01 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 176,134 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 12.48 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 29,431 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 9.29
ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – มิถุนายน 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,269,946 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 6.08 โดยแยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 1,041,992 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 4.77 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 227,954 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 12.50
ส่วนของยอดขาย
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนมิถุนายน 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 50,079 คัน ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2568 ร้อยละ 4.12 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 5.07 เพราะฐานต่ำของปีที่แล้วจากยอดขายที่ลดลงตั้งแต่เดือนเมษายน 2566 เป็นต้นมา เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สามติดต่อกันจากการขายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นและรถ PPV เพิ่มขึ้นจากการออกรุ่นใหม่ของบางบริษัท แต่รถกระบะยังคงขายลดลงร้อยละ 19.9 จากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินเพราะหนี้ครัวเรือนสูงและเศรษฐกิจในประเทศยังคงอ่อนแอจากการลงทุนภาคเอกชนไตรมาสหนึ่งของปี 2568 ลดลงร้อยละ 0.9 จากไตรมาสหนึ่งของปีก่อน ส่งผลให้แรงงาน โดยภาคการผลิตลดลง 0.4% สาขาก่อสร้างลดลง 5.1% อำนาจซื้อของประชาชนจึงอ่อนแอ
รถกระบะมีจำนวน 11,153 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 20.74 รถกระบะไฟฟ้า (BEV) มีจำนวน 110 ในปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย รถกระบะ REEV มีจำนวน 6 คัน ในปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย รถ PPV มีจำนวน 4,032 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 55.02 เพราะมีบางบริษัทแนะนำรถ PPV รุ่นใหม่สู่ตลาดในขณะที่ปีนี้ที่ยังไม่มีจำหน่าย รถบรรทุก 5 – 10 ตัน มีจำนวน 1,353 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 11.68 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 1,173 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 13.94
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 154,317 คัน ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2567 ร้อยละ 6.28 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 2.50 ตั้งแต่เดือนมกราคม – มิถุนายน 2568 รถยนต์มียอดขาย 302,694 คัน ลดลงจากปี 2567 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 1.73 แยกเป็น
รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 193,683 คันเท่ากับร้อยละ 63.99 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 4.99
รถกระบะมีจำนวน 73,620 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 17.82 รถกระบะไฟฟ้า (BEV) มีจำนวน 369 คัน ปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย รถกระบะ REEV มีจำนวน 6 คัน ปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย รถ PPV มีจำนวน 20,714 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 9.85 รถบรรทุก 5 – 10 ตัน มีจำนวน 7,206 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 13.59 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 7,096 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนช่วงกันในปีที่แล้ว 4.82
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 906,165 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2567 ร้อยละ 1.76
ที่มาข่าว:
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย