สภาอุตสาหกรรมเปิดเผยตัวเลขจำนวนการผลิต ยอดขายในประเทศ และยอดส่งออกเดือนกรกฎาคม 2568 โดยมียอดขายยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 35% หากเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนกรกฎาคม 2568
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนกรกฎาคม 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 49,102 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2568 คิดเป็น 1.95% แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2567 คิดเป็น 5.84% เพิ่มขึ้นติดต่อกันสี่เดือนเพราะยอดขายรถยนต์นั่งโดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้ามีราคาเข้าถึงได้มากกว่ารถยนต์ใช้น้ำมัน โดยเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 81,179 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กรกฎาคมปีที่แล้ว 35.08%
ยอดการผลิต – เพื่อจำหน่ายในประเทศ และเพื่อส่งออก
จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนกรกฎาคม 2568 มีทั้งสิ้น 110,616 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2568 คิดเป็น 15.06% และลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2567 คิดเป็น 11.39% ผลิตลดลงค่อนข้างมากโดยเฉพาะรถยนต์นั่งที่ใช้น้ำมันซึ่งลดลง 31.80% จากการเลิกผลิตรถยนต์นั่งเพื่อส่งออกบางรุ่น รถกระบะยังคงผลิตลดลงทั้งผลิตขายในประเทศและผลิตส่งออกที่ลดลงคิดเป็น 6.54% และ 8.61% ตามลำดับตามยอดขายในประเทศและยอดส่งออกที่ลดลงจากความไม่แน่นอนในการค้าโลก จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 835,331 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2567 คิดเป็น 5.73%
ผลิตเพื่อส่งออก: เดือนกรกฎาคม 2568 ผลิตได้ 74,100 คัน คิดเป็น 66.99% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2567 คิดเป็น 15.35% ส่วนเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2568 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 549,113 คัน หรือ 65.74% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ระยะเวลาเดียวกันคิดเป็น 9.05%
ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ: เดือนกรกฎาคม 2568 ผลิตได้ 36,516 คัน เท่ากับ 33.01% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2567 คิดเป็น 2.08% และเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2568 ผลิตได้ 286,218 คัน เท่ากับ 34.26% ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2567 คิดเป็น 1.37%
การส่งออก
เดือนกรกฎาคม 2568 ส่งออกได้ 72,439 คัน ลดลงจากเดือนที่แล้ว 17.76% และลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2567 คิดเป็น 13.27% จากการเลิกผลิตรถยนต์นั่งใช้น้ำมันบางรุ่นเพราะจะเปลี่ยนรุ่นรถ รถยนต์นั่งและรถกระบะไฟฟ้ายังส่งออกอีกในเดือนนี้ 167 คัน ปีนี้จึงเป็นปีประวัติศาสตร์ของประเทศไทยที่ส่งออกรถยนต์นั่งไฟฟ้าและรถกระบะไฟฟ้าดังที่รัฐบาลและเอกชนร่วมมือกันให้ประเทศไทยเป็นฐานผลิตยานยนต์ใช้น้ำมันและยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าที่มีนโยบายและความพร้อมของโครงสร้างแตกต่างกัน
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอนและการเข้มงวดในเรื่องการติดตั้งอุปกรณ์ช่วยขับเพื่อความปลอดภัยในรถยนต์และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพของรถยนต์ของประเทศคู่ค้า ทำให้การส่งออกรถยนต์เดือนนี้ลดลงในตลาดเอเชีย ออสเตรเลียและโอเชียเนีย และอเมริกาเหนือ เครื่องยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถยนต์ยังคงส่งออกเพิ่มขึ้น
ภาพรวมยานยนต์ไฟฟ้า PHEV กรกฎาคม 2568
ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV มีจำนวนทั้งสิ้น 75,69 3คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 27.03% โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
- รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 75,693 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 27.03%
- รถยนต์นั่งมีจำนวน 75,605 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 คิดเป็น 27.03%
- รถยนต์บริการธุรกิจมีจำนวน 50 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 คิดเป็น 21.95%
- รถยนต์บริการทัศนาจรมีจำนวน 27 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 คิดเป็น 35%
- รถยนต์บริการให้เช่ามีจำนวน 5 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 คิดเป็น 66.67%
- รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 6 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 คิดเป็น 20%
ที่มาข่าว:
FTI










