riot
Betabec
นำเข้า ส่งออกสินค้า ภาษีคลั่ง

ไทย-สหรัฐ เตรียมออกแถลงการณ์ร่วมบรรลุข้อตกลงภาษีคลั่ง ก่อนเปิดรับฟังความเห็น ชงครม.-สภาฯ ไฟเขียว

Date Post
05.08.2025
Post Views

นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รมช. พาณิชย์ เปิดเผยความคืบหน้าการเจรจาภาษีสหรัฐอเมริกาภายหลังจากการ ประกาศภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ที่จะจัดเก็บกับสินค้านำเข้าจากไทยในอัตรา 19% ซึ่งเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค.68

โดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษได้เห็นชอบข้อตกลงร่วมระหว่างไทย-สหรัฐอเมริกาไปแล้ว โดยประเทศไทยอยู่ระหว่างจัดทำแถลงการณ์ร่วมไทย-สหรัฐอเมริกา และลงนามร่วมกันเพื่อประกาศอย่างเป็นทางการว่าทั้ง 2 ประเทศเห็นชอบในหลักการที่จะทำงานร่วมกันต่อไปในเรื่องภาษีตอบโต้

ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนรอให้สหรัฐอเมริกานัดหมายเวลาเจรจารายละเอียดของประเด็นต่าง ๆ และนำไปสู่การจัดทำเป็นความตกลงระหว่างกัน แต่ก่อนที่จะลงนามความตกลงดังกล่าว ประเทศไทยจะนำรายละเอียดต่าง ๆ ที่เจรจาแล้วมาหารือ และเปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน จากนั้นจะขอความเห็นชอบจากครม. อีกครั้ง รวมถึงรัฐสภาตามขั้นตอนของกฎหมายไทย

แม้ว่าการที่สหรัฐอเมริกาเห็นชอบภาษีนำเข้า 19% จะป็นข่าวดี และเป็นขั้นตอนแรกที่ช่วยให้ไทยยังคงรักษาความสามารถในการแข่งขันทางการค้าไว้ได้ แต่การเจรจายังไม่สิ้นสุด ประเทศไทยยังต้องผลักดันหลายประเด็นสำคัญ เช่น กฎถิ่นกำเนิดสินค้า กฎเกณฑ์การสะสมถิ่นกำเนิดสินค้า (RVC) เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยได้รับประโยชน์สูงสุด และปรับตัวได้ โดยไม่เกิดผลกระทบที่รุนแรง ซึ่งกระทรวงพาณิชย์กำลังผลักดันประเด็นเหล่านี้ โดยเฉพาะการสนับสนุนผู้ประกอบการปรับตัว รวมทั้งเดินหน้าหาตลาดใหม่ เพื่อสร้างโอกาสการส่งออก โดยไม่ละทิ้งตลาดหลักอย่างสหรัฐอเมริกา

ส่วนข้อกังวลของเกษรตรกรผู้เลี้ยงสุกร รวมถึงภาคประชาสังคมกรณีที่ไทยจะต้องแก้ไขกฎหมาย หรือกฎ ระเบียบต่าง ๆ เพื่อให้สามารถดำเนินการตามที่เจรจากับสหรัฐอเมริกาได้ เช่น หากจะนำเข้าเนื้อหมู ที่สหรัฐอเมริกาใช้สารเร่งเนื้อแดงในการเลี้ยง ขณะที่กฎหมายของไทยห้ามใช้เด็ดขาด และห้ามไม่ให้มีสิ่งปนเปื้อนในเนื้อหมู และผลิตภัณฑ์ที่วางขายในท้องตลาดนั้น รมช. พาณิชย์ กล่าวว่า “จะต้องมีการเจรจากับสหรัฐอเมริกาก่อน และนำข้อมูลรายละเอียดของการเจรจา มาหารือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในประเทศต่อไป”

ในขณะนี้ไทย-สหรัฐอเมริกา ยังอยู่เห็นในขั้นตอนเห็นชอบในหลักการร่วมกัน ยังไม่ได้ข้อสรุปสุดท้าย และยังไม่มีอะไรที่เป็นข้อผูกพันทางกฎหมาย เพราะยังต้องมีการเจรจาในรายละเอียดอีกมากก่อนที่จะทำเป็นความตกลงที่มีผลทางกฎหมาย

“ไม่ว่าไทยเจรจาอะไรกับสหรัฐฯ ก่อนที่รัฐบาลจะทำความตกลง ซึ่งจะมีผลผูกพันตามกฎหมาย ต้องเปิดรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วนก่อน จะไม่แอบทำอะไรลับหลังแน่นอน จากนั้นจึงจะเข้าสู่การพิจารณาของครม. และเสนอให้รัฐสภาเห็นชอบ” รมช.พาณิชย์ยืนยันขั้นตอนที่จะเกิดขึ้น

ที่มาข่าว:
Infoquest

Logo-Company
Logo-Company
Logo-Company
logo-company
Thossathip Soonsarthorn
"Judge a man by his questions rather than his answers" Voltaire
Super Source-E-market place สำหรับสินค้าอุตสาหกรรม
AIOT