Ipsos AI Monitor 2025 รายงานผลการศึกษาที่เผยให้เห็นมุมมองของคนไทยต่อปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ผสมผสานกันระหว่างความตื่นเต้นในการเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ และความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะในประเด็นของเรื่องงานและความเป็นส่วนตัว แม้จะมีความรู้ขัดแย้งกัน แต่คนไทยยังคงมีความเชื่อมั่นในระดับสูงต่อภาครัฐและภาคเอกชนในการจัดการกับ AI อย่างมีความรับผิดชอบ นับเป็นปัจจัยสำคัญที่จะขับเคลื่อนการใช้ AI ในประเทศให้ประสบความสำเร็จ
แม้คนไทยจะกังวล แต่ยังคง ‘ตื่นเต้น’ กับ AI มากกว่า
โดยผลสำรวจจาก Ipsos ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดระดับโลก พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ถึง 79% รู้สึกตื่นเต้นกับสินค้าและบริการที่นำ AI มาใช้ ซึ่งสะท้อนถึงความพร้อมของคนไทยในการเปิดรับนวัตกรรม AI ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 52% นับว่าเป็นระดับใกล้เคียงกับประเทศเพื่อนบ้านในเอเชีย อาทิ อินโดนีเซีย (80%) และมาเลเซีย (77%) ในขณะที่สิงคโปร์ (67%) และญี่ปุ่น (46%) สะท้อนให้เห็นถึงตัวเลขความตื่นเต้นที่น้อยกว่า
ในทางกลับกัน ความตื่นเต้นนี้มาพร้อมกับความกังวล โดย 58% ของคนไทยยังคงรู้สึกกังวลกับผลิตภัณฑ์และบริการที่ใช้ AI ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 53% ส่วนในภูมิภาคเอเชีย สิงคโปร์มีความกังวลใกล้เคียงกับไทย (58%) ในขณะที่มาเลเซีย (55%), อินโดนีเซีย (43%) และญี่ปุ่น (29%) มีระดับความกังวลน้อยกว่า
คนไทยมองเห็นโอกาสใน ‘AI สำหรับการทำงาน’ สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก เช่นเดียวกับความกังวลในการถูกแทนที่
คนไทยส่วนใหญ่รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น โดย 82% เชื่อว่า AI จะเปลี่ยนแปลงชีวิตประจำวันของพวกเขาอย่างมีนัยสำคัญภายใน 3-5 ปีข้างหน้า สอดคล้องกับอินโดนีเซีย (84%) และมาเลเซีย (80%) ทำให้เห็นภาพของผู้คนในภูมิภาคนี้ที่มีการเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อพิจารณาถึงผลกระทบของ AI ต่องาน พบว่า 60% ของผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยเชื่อว่า AI จะส่งผลดีต่อการทำงานในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า แสดงให้เห็นถึงมุมมองที่ว่า AI จะเข้ามาช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานมากกว่าที่จะเข้ามาแทนที่ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 38% และสหรัฐฯ ที่ 33% ส่วนในเอเชีย อินโดนีเซียนำมาเป็นอันดับหนึ่ง (62%) ตามมาด้วยมาเลเซีย (54%), สิงคโปร์ (49%) และญี่ปุ่น (20%) ในทางกลับกันผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยส่วนใหญ่ถึง 74% กลัวว่า AI อาจเข้ามาแทนที่งานปัจจุบันของพวกเขาภายในกรอบเวลาเดียวกัน ทำให้ไทยติดอันดับต้น ๆ ประเทศที่มีความกังวลสูงเรื่อง AI แย่งงาน ตามมาด้วยมาเลเซีย (63%), อินโดนีเซีย (51%) และสิงคโปร์ (50%) ในขณะที่สหรัฐฯ (26%), ญี่ปุ่น (29%) และค่าเฉลี่ยทั่วโลก (36%) มีความกังวลในระดับที่ต่ำกว่า
คนไทยเชื่อมั่นความโปร่งใสของภาครัฐและเอกชนในการควบคุมการใช้งาน AI
จากข้อมูลพบว่ากว่า 8 ใน 10 ของคนไทยเชื่อมั่นว่า บริษัทและองค์กรต่าง ๆ ควรเปิดเผยการใช้ AI อย่างโปร่งใสและตรงไปตรงมา ซึ่งเน้นย้ำถึงความต้องการข้อมูลที่ชัดเจนจากผู้บริโภค นอกจากยังพบข้อมูลที่น่าสนใจในประเด็นความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ที่ใช้ AI ในการโฆษณากำลังเติบโตขึ้น โดยอินโดนีเซียอยู่ในอันดับสูงสุดที่เชื่อมั่นในภาพหรือวิดีโอที่สร้างด้วย AI เพื่อการตลาด ตามมาด้วย ประเทศไทย (72%) มาเลเซีย (50%) สิงคโปร์ (39%) และญี่ปุ่น (21%) สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าการประยุกต์ใช้ AI ในด้านความคิดสร้างสรรค์นั้นได้รับการยอมรับจากผู้คนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้นเรื่อย ๆ
โดยคนไทยยังมีความเชื่อมั่นในภาครัฐและเอกชนสูง จากการสำรวจ 7 ใน 10 กล่าวว่า พวกเขาเชื่อว่ารัฐบาลไทยจะเข้ามาควบคุมจัดการการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกที่ 54% และใกล้เคียงกับสิงคโปร์ (81%) อินโดนีเซีย (76%) และมาเลเซีย (73%) ส่วนญี่ปุ่นและสหรัฐฯ มีความเชื่อมั่นน้อยที่สุดที่ 32% และ 31% ตามลำดับ
ในทำนองเดียวกัน คนไทย 70% เชื่อว่าบริษัทที่ใช้ AI จะปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของพวกเขาให้ปลอดภัย ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกที่ 48% อย่างมีนัยสำคัญ และอยู่ในระดับแนวหน้าของภูมิภาค ตามหลังอินโดนีเซีย (72%) และนำหน้าสิงคโปร์ (64%), มาเลเซีย (62%) และญี่ปุ่น (31%) สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความคาดหวังของคนไทยต่อภาคเอกชนในการบริหารจัดการ AI อย่างมีความรับผิดชอบ
ผลสำรวจ Ipsos AI Monitor 2025 จัดทำขึ้นทางออนไลน์ โดยเก็บข้อมูลจากผู้ใหญ่กว่า 23,000 คน ที่มีอายุระหว่าง 18-74 ปีใน 30 ประเทศ ซึ่งครอบคลุมตลาดสำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย และญี่ปุ่น รวมถึงประเทศต่าง ๆ ในยุโรป อเมริกา และแอฟริกา
ในประเด็นของการใช้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ ๆ นั้นเรียกว่าประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่มีความตื่นตัวและเปิดรับในระดับสูง ในขณะเดียวกันก็ยังคงตั้งความคาดหวังและความเชื่อมั่นให้กับหน่วยงานหรือบริษัทที่ต้องรับผิดชอบไว้ไม่น้อยในการควบคุมดูแลความปลอดภัยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ AI โดยในปัจจุบันประเทศไทยได้มี สํานักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ที่คอยกำกับดูแลประเด็นที่เกี่ยวข้อง และ DE – ETDA ได้เปิด (ร่าง) หลักการกฎหมาย AI เน้นคุมความเสี่ยงสูงเพื่อผลักดันให้เกิดการควบคุมที่เหมาะสมสอดคล้องกับยุคใหม่
ที่มาข่าว:
infoquest









