โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาเจรจาปรับสัญญาลดสัดส่วนการลงทุนเฟส 1 ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่นจำกัด (UTA) เสนอขอลดการรองรับผู้โดยสารเหลือ 3 ล้านคน ภายใต้เงื่อนไขให้เริ่มต้นสร้างไปก่อนโดยไม่ต้องรอรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน
ความล่าช้าในการลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ของบริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด (ซี.พี.) ส่งผลกระทบต่อโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก ส่งผลให้ EEC ยังไม่สามารถออก Notice to Proceed หรือ NTP ซึ่งเป็นเอกสารที่จะออกให้แก่ผู้รับเหมา เพื่อแจ้งให้ทราบถึงการเริ่มต้นโครงการก่อสร้างอย่างเป็นทางการให้กับ UTA ได้ แม้จะผ่านมา 5 ปีแล้ว
ขณะนี้แม้ UTA ในฐานะผู้ได้รับสัมปทานในโครงการนี้ จะออกมาประกาศแล้วว่า จะไม่รอโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน แต่การเจรจาระหว่าง UTA และ EEC ภายใต้เงื่อนไขให้ก่อสร้างไปก่อนโดยที่ยังไม่มีรถไฟความเร็วสูง 3 สนามบินก็ยังไม่ได้ข้อยุติ ทำให้ที่ผ่านมามีการเลื่อนออก NTP มาเป็นระยะ จากเดิมวางไว้ว่าจะเป็นวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา จนล่าสุดวางไว้เมื่อวันที่ 15 กรกฏาคม 2568 ก็ยังไม่สามารถออก NTP ได้ ต้องขยายกำหนดออกไปอีก ซึ่งตามสัญญากำหนดไว้ว่าหลังลงนามสัญญาจะต้องเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายใน 5 ปี
นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการ EEC กล่าวว่า การเจรจากับ UTA ในเงื่อนไขให้ก่อสร้างไปก่อนบนสมมุติฐานที่ว่ายังไม่มีรถไฟความเร็วสูงยังไม่จบ เป็นผลสืบเนื่องจากปัญหาในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เบื้องต้นยู่ระหว่างเจรจากับเอกชนเพื่อปรับสัญญา โดยให้ UTA สามารถเดินหน้าลงทุนต่อได้ ไม่จำเป็นต้องแก้ไขสัญญาสัมปทาน เนื่องจากสัญญานี้สามารถแก้ไขข้อความในสัญญาเพิ่มเติมได้ โดยสิทธิประโยชน์ในการลงทุนโครงการฯยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ก่อนหน้านี้มีการเจรจาปรับแผนการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก จาก 4 ระยะ เป็น 6 ระยะ แล้ว แต่เมื่อยังไม่มีรถไฟความเร็วสูง UTA จึงมีการเสนอที่จะปรับแผนการลงทุนในระยะที่ 1 ลงเพื่อให้เหมาะสมกับจำนวนผู้โดยสารในปัจจุบัน เช่น การก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร ในเฟส 1 ที่เจรจากำหนดที่ 6 ล้านคน อาจเริ่มต้นที่ 3 ล้านคนก่อน ซึ่งส่งผลให้ค่าบำรุงรักษาลดลงด้วย จากนั้นจึงค่อยพัฒนาให้เต็มเฟสเมื่อมีรถไฟความเร็วสูงเข้ามา และเมื่อมีผู้โดยสารใช้บริการถึงระดับ 80% ของขีดความสามารถระยะแรก หรือมีจำนวน 2.4 ล้านคน จึงดำเนินการพัฒนาในระยะที่ 2 และเฟสต่อๆไป จนรองรับผู้โดยสาร 60 ล้านคนตามเป้าหมาย
ทั้งนี้เป็นข้อเสนอเพิ่มเติม ที่ยังอยู่ระหว่างการเจรจา เพราะหากไม่มีรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ผู้โดยสารก็จะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ขณะที่การพัฒนาสนามบินกรณีทำเล็กเกินไป อาจเป็นอีกปัจจัยที่ไม่ดึงดูดให้สายการบินและผู้โดยสารมาใช้บริการได้เช่นกัน
นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ถือหุ้น UTA กล่าวว่า โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา ล่าสุด UTA เสนอ EEC ขอลดสเกลการลงทุนในเฟส 1 อยู่ที่ 3 ล้านคน เนื่องจากโครงการตอนนี้ยังไม่มีรถไฟความเร็วสูง 3 สนามบินเชื่อมเข้ามา
ที่มาข่าว:
ฐานเศรษฐกิจ