นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยว่าที่รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจชุดใหม่ หรือที่ถูกขนานนามว่า “ดรีมทีมเศรษฐกิจ” เดินทางเข้าพบสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เพื่อหารือถึงทิศทางเศรษฐกิจและการแก้ไขปัญหาที่ผู้ประกอบการเผชิญอยู่ในปัจจุบัน
แม้คณะรัฐมนตรียังไม่เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ และขั้นตอนการโปรดเกล้าฯ รายชื่อยังอยู่ในช่วงสุดท้าย แต่นายกรัฐมนตรีระบุว่า รัฐบาลไม่ต้องการเสียเวลาจึงเริ่มประสานงานและรับฟังข้อเสนอแนะจากภาคเอกชนล่วงหน้า โดยย้ำว่าสไตล์การทำงานจะเน้นความรวดเร็ว เพื่อให้สอดคล้องกับความคาดหวังของประชาชนและภาคธุรกิจ
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงแนวทางการทำงานว่า รัฐบาลจะให้ความสำคัญทั้งการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและการวางรากฐานเศรษฐกิจระยะยาว โดยในระยะสั้นต้องจัดการกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งยังไม่สามารถเปิดด่านการค้าข้ามแดนได้ในเร็ววัน เนื่องจากมีข้อจำกัดและความขัดแย้งที่ยังคงอยู่ รัฐบาลเตรียมใช้ทั้งกลไกการทหาร การทูต และการเจรจาเพื่อหาทางออกโดยเร็วที่สุด พร้อมย้ำว่าการเปิดด่านจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อประเทศไทยเห็นว่าเงื่อนไขพร้อมและปลอดภัย
นอกจากนี้ รัฐบาลยังยืนยันจะดูแลผู้ประกอบการที่อยู่ในโครงการไทยแลนด์พลัสวัน รวมถึงสนับสนุนการเจรจากับประเทศคู่ค้าสำคัญ อาทิ สหรัฐฯ และในเวลาเดียวกันต้องไม่ละเลยการแข่งขันทางการค้ากับกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งถือเป็นตลาดสำคัญของไทย ทั้งนี้ยังเตรียมหารือกับคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อกำหนดมาตรการดึงดูดการลงทุนใหม่ ๆ
อีกปัญหาที่ถูกหยิบยกขึ้นมาคือค่าเงินบาทแข็ง ซึ่งกระทบต่อภาคการส่งออกอย่างชัดเจน นายอนุทินมอบหมายให้นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เข้าเจรจากับสภาอุตสาหกรรมในช่วงบ่ายวันเดียวกัน เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบและเตรียมหาแนวทางแก้ไขทันทีที่เข้ารับตำแหน่ง ขณะเดียวกันยังมีการติดตามประเด็นการส่งออกทองคำไปกัมพูชาในปริมาณผิดปกติ โดยนายกรัฐมนตรีสั่งการให้ว่าที่รมว.คลังตรวจสอบและหากพบสิ่งผิดปกติจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย
สำหรับทีมเศรษฐกิจที่เข้าร่วมหารือครั้งนี้ ประกอบด้วยนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รมว.คลัง นางศุภจี สุธรรมพันธ์ ว่าที่รมว.พาณิชย์ นายธนกร วังบุญคงชนะ ว่าที่รมว.อุตสาหกรรม นายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่รมช.คลัง และนายสุชาติ ชมกลิ่น ว่าที่รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นายกรัฐมนตรีทิ้งท้ายว่า รัฐบาลนี้จะทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว ยึดผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก และจะเร่งเดินหน้าแก้ปัญหาเศรษฐกิจโดยเร็วที่สุด เพื่อสร้างความมั่นใจว่าประเทศไทยจะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคและขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
ที่มาข่าว : สำนักข่าวอินโฟเควสท์
ลิงก์ที่มาข่าว : https://www.infoquest.co.th/2025/529481











