สรรพสามิตจ่อเล่นงาน “เนต้า” หลังหยุดผลิต EV ในไทย เตรียมดำเนินการตามกฎหมายพร้อมค่าปรับสูงสุด 2 เท่าจากสิทธิประโยชน์ที่เคยได้รับ ขณะเดียวกันรัฐเตรียมยกระดับมาตรการใหม่ หากผู้ผลิต EV ผิดแผนเกิน 2 เดือน ระงับจ่ายเงินชดเชยทันที
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีบริษัท เนต้า ออโต้ (ประเทศไทย) ที่ไม่สามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ชดเชยได้ตามเงื่อนไขในมาตรการส่งเสริม EV ว่า ขณะนี้กรมสรรพสามิตได้สั่งระงับการจ่ายเงินชดเชยให้กับบริษัทแล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาค่าปรับตามเงื่อนไขสัญญา
โดยค่าปรับที่เตรียมเรียกเก็บประกอบด้วย
– ปรับฐานภาษีจากที่เคยได้รับสิทธิ 2% กลับไปเป็น 8%
– ค่าปรับจากเงินชดเชย 150,000 บาทต่อคัน พร้อมดอกเบี้ย
– ปรับทวีคูณอีก 1–2 เท่า
นอกจากนี้ยังพบว่าบริษัทไม่มีความเคลื่อนไหวในการผลิต EV ภายในประเทศแล้ว จึงอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อกฎหมายเพื่อดำเนินการทางกฎหมายก่อนถึงกำหนดสิ้นสุดโครงการในวันที่ 31 ธันวาคม 2568
ขณะเดียวกัน สรรพสามิตเตรียมเสนอแนวทางใหม่ต่อคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ด EV) เพื่อควบคุมแผนการผลิตให้เข้มงวดยิ่งขึ้น โดยกำหนดให้ผู้ประกอบการที่รับสิทธิ EV 3.0 และ 3.5 ต้องรายงานแผนผลิตรายเดือน หากเดือนใดผลิตต่ำกว่า 30% ของแผนจะได้รับใบเหลือง และหากยังผิดแผนอีก 2 เดือนติดต่อกัน จะถูกใบแดงและระงับการจ่ายเงินชดเชยทันที
มุมมองในภาคอุตสาหกรรมของทาง MM Thailand
กรณีเนต้าไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขการผลิตรถ EV ชดเชยภายใต้มาตรการส่งเสริม EV 3.0 และ 3.5 ของภาครัฐ ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความเสี่ยงด้านความยั่งยืนในการลงทุนภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศไทยกำลังพยายามเปลี่ยนผ่านจากฐานการผลิตยานยนต์สันดาปภายในสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV)
แนวทางใหม่ของภาครัฐที่ใช้กลไกใบเหลือง–ใบแดง พร้อมกลไกประเมินรายเดือน ถือเป็นการยกระดับการบริหารความเสี่ยงในเชิงอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยให้เกิดการติดตามการผลิตแบบเรียลไทม์ และป้องกันความเสียหายจากการผิดสัญญาในระยะยาว
ที่มาข่าว : ฐานเศรษฐกิจ
