VEGA Instrument
SIEMENS WinCC
siemens trumpf ai smart factory it ot

Siemens-TRUMPF ปฏิวัติโรงงานอัจฉริยะด้วยพันธมิตร AI ยุคใหม่

Date Post
10.11.2025
Post Views

เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2025 สองยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรมของเยอรมนี Siemens และ TRUMPF ได้ร่วมกันประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งสำคัญที่มุ่งเป้าหมายเพื่อยกระดับการผลิตอุตสาหกรรมสู่ยุคของปัญญาประดิษฐ์และการผลิตดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ความร่วมมือนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการแก้ปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่ออุตสาหกรรมการผลิตทั่วโลกมายาวนาน คือการขาดการเชื่อมต่อระหว่างระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) และเทคโนโลยีปฏิบัติการ (OT)

จุดประสงค์หลักของความร่วมมือ

พันธมิตรครั้งนี้นำเอาความเชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์ดิจิทัลและพอร์ตโฟลิโอ Xcelerator ที่ครอบคลุมของ Siemens มาผสมผสานกับความเป็นเลิศด้านเครื่องจักรกลและซอฟต์แวร์การผลิตของ TRUMPF ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องจักรกลและเลเซอร์ชั้นนำระดับโลก โดยมีเป้าหมายหลักคือการพัฒนาอินเทอร์เฟซแบบเปิด (Open Interface) ที่สามารถเชื่อมต่อระบบ IT และ OT เข้าด้วยกันอย่างราบรื่น เพื่อเตรียมความพร้อมให้โรงงานสามารถนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในส่วนของการควบคุมการเคลื่อนไหว (Motion Control)​

Cedrik Neike สมาชิกคณะกรรมการบริหารของ Siemens AG และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Siemens Digital Industries กล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงในโรงงานเริ่มต้นขึ้นเมื่อเครื่องจักรบนพื้นโรงงานถูกเชื่อมต่อผ่านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ใช้ร่วมกัน เพื่อให้ข้อมูลไหลได้อย่างราบรื่น การตัดสินใจเกิดขึ้นได้เร็วขึ้น และการผลิตสามารถตอบสนองต่อสภาวะที่เปลี่ยนแปลงได้ ด้วยการทำงานร่วมกับ TRUMPF เรากำลังทำให้การเชื่อมต่อนั้นเป็นเรื่องง่าย เรากำลังเชื่อมช่องว่างระหว่าง IT และ OT เพื่อให้ผู้ผลิตสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น ปรับตัวได้แบบเรียลไทม์ และเตรียมพร้อมสำหรับยุค AI ผมภูมิใจที่ได้เห็นสองแชมป์เปี้ยนแห่งยุโรปเป็นผู้นำทาง”

การพัฒนาโซลูชันแบบครบวงจร

ความร่วมมือนี้เน้นการพัฒนาอินเทอร์เฟซที่เปิดกว้างและสามารถทำงานร่วมกันได้ (Open and Interoperable Interfaces) ที่เชื่อมต่อระบบ CNC หุ่นยนต์ เซ็นเซอร์ และระบบองค์กรโดยไม่ต้องพึ่งการผูกมัดแบบเฉพาะเจาะจงที่เปราะบางและซับซ้อน Siemens นำเสนอพอร์ตโฟลิโอ Xcelerator ที่ครอบคลุมการจัดการวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ ซอฟต์แวร์โค้ดต่ำ ระบบ Edge ในอุตสาหกรรม และซอฟต์แวร์ระบบอัตโนมัติ ในขณะที่ TRUMPF นำความรู้ที่ลึกซึ้งด้านการสร้างเครื่องจักรและซอฟต์แวร์โรงงานมาร่วมด้วย

เป้าหมายร่วมกันคือการสร้างมาตรฐานในการจำลอง แบ่งปัน และใช้ประโยชน์จากข้อมูลการผลิต เพื่อให้การตัดสินใจเปลี่ยนจากการประมวลผลแบบเป็นชุด (Batch) ไปสู่การตัดสินใจแบบเกือบเรียลไทม์ (Near Real-time) ซึ่งช่วยให้เกิดการเพิ่มประสิทธิภาพแบบวงปิด (Closed-loop Optimization) ตลอดทั้งกระบวนการวางแผน การปฏิบัติงาน และการควบคุมคุณภาพ

Digital Twin และการทดสอบเสมือนจริง

หนึ่งในเทคโนโลยีสำคัญที่ความร่วมมือนี้มุ่งเน้นคือการพัฒนา Digital Twin (โมเดลดิจิทัลที่จำลองระบบจริง) ของเครื่องจักรและสายการผลิต เมื่อรวมกับอินเทอร์เฟซที่เป็นมาตรฐาน ทีมงานสามารถทดสอบตรรกะการควบคุม ตรวจสอบความถูกต้องของการเปลี่ยนแปลงกระบวนการ และฝึกโมเดล AI ก่อนที่จะนำไปใช้จริงบนพื้นโรงงาน สิ่งนี้ช่วยลดความเสี่ยงในการบูรณาการ ย่นวงจรการพัฒนาทางวิศวกรรม และเร่งระยะเวลาในการสร้างมูลค่าสำหรับการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่​

การทดสอบเสมือนจริงและการพัฒนาแบบจำลองก่อน (Simulation-first Workflow) ที่ความร่วมมือนี้สนับสนุน ช่วยให้การเริ่มใช้งาน (Commissioning) ระบบการเคลื่อนไหวที่ซับซ้อนทำได้เร็วขึ้น และลดการหยุดชะงักของการผลิตลงอย่างมีนัยสำคัญ

ประโยชน์ที่จับต้องได้สำหรับลูกค้า

ความร่วมมือนี้จะส่งมอบประโยชน์ที่จับต้องได้สำหรับลูกค้าผ่านสถาปัตยกรรมระบบแบบโมดูลาร์และโซลูชันระบบแบบรวมศูนย์ อินเทอร์เฟซที่เป็นมาตรฐานจะช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์บนพื้นโรงงานและระบบระดับองค์กรทำได้อย่างราบรื่น ลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากประสิทธิภาพการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนทางวิศวกรรมที่ลดลง และความสามารถในการขยายขนาดที่พิสูจน์อนาคตได้ ด้วยการใช้โซลูชันระบบอัตโนมัติแบบเปิดและโมดูลาร์​

องค์ประกอบเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการรับประกันความพร้อมด้าน AI ที่จะช่วยให้ลูกค้าบรรลุระยะเวลาออกสู่ตลาดที่เร็วขึ้น ความยืดหยุ่นในการผลิตที่ดีขึ้น และการดำเนินงานการผลิตที่มีความสามารถในการแข่งขันสูง

ยุทธศาสตร์ AI ระดับยุโรป

ความร่วมมือนี้ยังมีความหมายในระดับภูมิภาคด้วย เครือข่ายซอฟต์แวร์และระบบอัตโนมัติระดับโลกของ Siemens ให้แพลตฟอร์มสำหรับการปรับใช้ที่สามารถทำซ้ำได้ ในขณะที่ความเป็นผู้นำของ TRUMPF ในด้านเครื่องมือกลและเลเซอร์รักษาโฟกัสไว้ที่ความน่าเชื่อถือในระดับการผลิต ทั้งสองบริษัทกำลังวางตำแหน่งระบบนิเวศร่วมของพวกเขาให้เป็นเส้นทางที่น่าเชื่อถือสู่ “ความพร้อมด้าน AI” สำหรับการดำเนินงานที่เน้นการเคลื่อนไหว ซึ่งความหน่วง ความแน่นอน และความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ไม่สามารถต่อรองได้

นอกจากนี้ Siemens ยังได้ร่วมมือกับผู้ผลิตเครื่องจักรหลายรายในการจัดตั้งพันธมิตรข้อมูลที่ก้าวล้ำเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2025 ซึ่งช่วยให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลสำหรับการใช้งาน AI ในการผลิต แสดงให้เห็นถึงทิศทางที่กว้างขึ้นของอุตสาหกรรมยุโรปในการรวมกลุ่มเพื่อเผชิญหน้ากับความท้าทายของการเปลี่ยนผ่านดิจิทัลและ AI

คำถามสำคัญคือความร่วมมือนี้จะเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการผลิตได้อย่างไร ?

ความร่วมมือระหว่าง Siemens และ TRUMPF นำเสนอโซลูชันที่เป็นระบบสำหรับปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่ออุตสาหกรรมการผลิตมานานกว่าทศวรรษ คือการขาดการเชื่อมต่อระหว่างระบบ IT และ OT ในอดีต ระบบ IT ที่จัดการด้านการวางแผน การบริหารจัดการ และการวิเคราะห์ข้อมูลระดับองค์กร มักทำงานแยกจากระบบ OT ที่ควบคุมเครื่องจักร หุ่นยนต์ และกระบวนการผลิตบนพื้นโรงงาน ช่องว่างนี้ทำให้เกิดความไม่มีประสิทธิภาพในการไหลของข้อมูล การตัดสินใจที่ช้า และความยากลำบากในการปรับเปลี่ยนการผลิตตามความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

การพัฒนาอินเทอร์เฟซแบบเปิดและสามารถทำงานร่วมกันได้ที่ความร่วมมือนี้มุ่งเน้น จะทำให้ข้อมูลสามารถไหลได้อย่างราบรื่นระหว่างชั้นต่างๆ ของระบบการผลิต ข้อมูลจากเซ็นเซอร์บนเครื่องจักรสามารถส่งไปยังระบบวิเคราะห์ขั้นสูงได้ทันที ในขณะที่การตัดสินใจจากระบบ AI สามารถถูกนำไปปฏิบัติบนพื้นโรงงานได้แบบเรียลไทม์ สิ่งนี้สร้างระบบนิเวศการผลิตแบบปิด (Closed-loop) ที่สามารถเรียนรู้ ปรับตัว และเพิ่มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง

เพื่อการเตรียมพร้อมสำหรับยุค AI

การควบคุมการเคลื่อนไหว (Motion Control) ที่เป็นโฟกัสหลักของความร่วมมือนี้ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออนาคตของการผลิตอัจฉริยะ Motion Control เป็นหัวใจของการทำงานของหุ่นยนต์ เครื่อง CNC และระบบอัตโนมัติส่วนใหญ่ การนำ AI มาใช้ในส่วนนี้สามารถปรับปรุงความแม่นยำ ลดการใช้พลังงาน เพิ่มความเร็วในการผลิต และยืดอายุการใช้งานของเครื่องจักรผ่านการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ (Predictive Maintenance)

อย่างไรก็ตาม การใช้ AI ในการควบคุมการเคลื่อนไหวต้องการข้อมูลจำนวนมหาศาล คุณภาพข้อมูลที่สูง และโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถประมวลผลได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ระบบต้องมีความหน่วงต่ำ (Low Latency) ความแน่นอน (Determinism) และระดับความปลอดภัยสูง ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่ท้าทายมากสำหรับการออกแบบระบบ การพัฒนา Digital Twin และระบบทดสอบเสมือนจริงที่ความร่วมมือนี้เสนอ จะช่วยให้ผู้ผลิตสามารถพัฒนา ทดสอบ และปรับปรุงระบบ AI ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยก่อนนำไปใช้จริง ลดความเสี่ยงและเร่งการนำไปใช้งาน

ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันไหม ?

การร่วมมือระหว่างสองบริษัทยุโรปชั้นนำนี้มีความหมายเชิงยุทธศาสตร์ในบริบทของการแข่งขันทางเทคโนโลยีระดับโลก ในขณะที่สหรัฐอเมริกาและจีนกำลังเร่งพัฒนาเทคโนโลยี AI และระบบอัตโนมัติ ยุโรปต้องการตอกย้ำความเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง ความร่วมมือนี้แสดงถึงแนวทางของยุโรปที่เน้นการทำงานร่วมกัน การสร้างมาตรฐานเปิด และการผสานรวมความเชี่ยวชาญจากหลายบริษัท

สำหรับลูกค้า โดยเฉพาะผู้ผลิตขนาดกลางและขนาดเล็กที่เป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจยุโรป โซลูชันที่เป็นมาตรฐานและโมดูลาร์นี้จะช่วยลดต้นทุนและความซับซ้อนในการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ พวกเขาไม่จำเป็นต้องพัฒนาโซลูชันที่กำหนดเองราคาแพงหรือถูกล็อกเข้ากับระบบของผู้ผลิตรายเดียว แต่สามารถเลือกใช้ส่วนประกอบที่ดีที่สุดจากหลายผู้ผลิตและบูรณาการเข้าด้วยกันได้ง่าย

ความท้าทายแบบไหนที่กำลังรออยู่ ? 

แม้ว่าความร่วมมือนี้จะมีศักยภาพสูง แต่ก็มีความท้าทายสำคัญหลายประการ ประการแรกคือความท้าทายทางเทคนิค การสร้างอินเทอร์เฟซที่เปิดกว้างและสามารถทำงานร่วมกันได้จริงไม่ใช่เรื่องง่าย มีมาตรฐาน โปรโตคอล และระบบดั้งเดิม (Legacy System) หลายหมื่นแบบที่ใช้งานอยู่ในโรงงานทั่วโลก การทำให้ทั้งหมดนี้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นต้องการความพยายามด้านวิศวกรรมอย่างมหาศาลและเวลาหลายปี

ประการที่สองคือความท้าทายด้านวัฒนธรรมและองค์กร การนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ไม่ใช่แค่การติดตั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ แต่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงวิธีทำงาน การฝึกอบรมพนักงาน และการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงาน องค์กรหลายแห่งอาจต่อต้านการเปลี่ยนแปลงหรือขาดความเชี่ยวชาญที่จำเป็นในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ได้อย่างเต็มที่

ประการที่สามคือความท้าทายด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว เมื่อระบบ IT และ OT เชื่อมต่อกันมากขึ้น พื้นผิวสำหรับการโจมตีทางไซเบอร์ก็เพิ่มขึ้นด้วย โรงงานที่เคยถูกแยกออกจากอินเทอร์เน็ตอาจกลายเป็นเป้าหมายของแฮกเกอร์ การรับประกันความปลอดภัยของข้อมูลและระบบโดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพเป็นงานที่ยากลำบากแต่จำเป็นอย่างยิ่ง

ประการสุดท้ายคือความท้าทายด้านการแข่งขัน แม้ Siemens และ TRUMPF จะเป็นผู้นำในยุโรป แต่พวกเขาต้องแข่งขันกับบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่จากสหรัฐและจีนที่มีทรัพยากรมหาศาลและตลาดในประเทศที่กว้างขวาง ความสำเร็จของความร่วมมือนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการสร้างระบบนิเวศที่กว้างขวางของพันธมิตรและลูกค้า และการนำเสนอมูลค่าที่ชัดเจนเหนือกว่าคู่แข่ง

ความร่วมมือระหว่าง Siemens และ TRUMPF แสดงถึงความมุ่งมั่นอย่างจริงจังของยุโรปในการรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการผลิตขั้นสูงในยุค AI โดยเน้นการสร้างมาตรฐานเปิด การทำงานร่วมกัน และการให้ความสำคัญกับลูกค้า หากประสบความสำเร็จ ความร่วมมือนี้จะไม่เพียงเปลี่ยนแปลงวิธีการผลิตของโรงงานยุโรป แต่ยังสามารถกำหนดมาตรฐานระดับโลกสำหรับการผลิตอัจฉริยะในอนาคต ทำให้ยุโรปเป็นศูนย์กลางของนวัตกรรมการผลิตที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างแท้จริง


Key Summary Points

  • Siemens และ TRUMPF ร่วมมือกันพัฒนาอินเทอร์เฟซแบบเปิด (Open Interface) เพื่อเชื่อมระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) กับเทคโนโลยีปฏิบัติการ (OT) ในโรงงานให้ทำงานร่วมกันอย่างราบรื่น ถือเป็นก้าวสำคัญสู่โรงงานอัจฉริยะยุค AI
  • Siemens นำพอร์ตโฟลิโอ Xcelerator (ระบบซอฟต์แวร์อุตสาหกรรมครบวงจร) มาผสานกับความเชี่ยวชาญด้านเครื่องจักรและซอฟต์แวร์การผลิตของ TRUMPF เพื่อพัฒนาโซลูชันระบบอัตโนมัติแบบเปิดและยืดหยุ่น
  • การเชื่อมโยงข้อมูลจากเครื่องจักร เซ็นเซอร์ และระบบองค์กรเข้าด้วยกันจะทำให้การตัดสินใจในโรงงานเปลี่ยนจากการประมวลผลแบบ Batch ไปสู่การตัดสินใจแบบเกือบเรียลไทม์ พร้อมการเพิ่มประสิทธิภาพแบบวงปิดตลอดกระบวนการผลิต
  • ใช้แบบจำลองดิจิทัลจำลองเครื่องจักรและสายการผลิต เพื่อทดสอบตรรกะ AI และระบบควบคุมก่อนใช้งานจริง ลดความเสี่ยง บำรุงรักษาได้ล่วงหน้า (Predictive Maintenance) และเร่งการเริ่มใช้งานระบบ (Commissioning)
  • อินเทอร์เฟซมาตรฐานและสถาปัตยกรรมแบบโมดูลาร์ช่วยลดต้นทุนวิศวกรรม เพิ่มความยืดหยุ่น และขยายระบบได้ง่าย รองรับความพร้อมด้าน AI และการผลิตที่เร็วขึ้น แข่งขันได้มากขึ้น
  • ความร่วมมือนี้สะท้อนยุทธศาสตร์ยุโรปที่เน้นมาตรฐานเปิดและความร่วมมือ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง ท่ามกลางการแข่งขันกับสหรัฐฯ และจีนในด้าน AI และระบบอัตโนมัติ
  • อุปสรรคหลักได้แก่ความซับซ้อนของระบบเดิม (Legacy Systems), การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กร, ความปลอดภัยไซเบอร์เมื่อเชื่อม IT–OT และการแข่งขันจากบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก


Source : Trumpf , Siemens , rcrwireless , photonics , ETMM

Logo-Company
Logo-Company
Logo-Company
logo-company
Pisit Poocharoen
Former field engineer seeking to break free from traditional learning frameworks. อดีตวิศวกรภาคสนามที่ต้องการหลุดออกจากกรอบการเรียนรู้แบบเดิม ๆ
Super Source-E-market place สำหรับสินค้าอุตสาหกรรม