ประเทศไทยเดินหน้าสู่บทบาทใหม่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (BEV) หลังคณะผู้แทนจากกระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ดีพร้อม) สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมและสถาบันยานยนต์ เข้าร่วมประชุม 2025 World New Energy Vehicle Congress (WNEVC) ระหว่างวันที่ 27–29 กันยายน 2568 ณ เมืองไห่โข่ว มณฑลไห่หนาน ประเทศจีน ซึ่งจัดโดยสมาคมวิทยาศาสตร์จีนและรัฐบาลจีน
การประชุมครั้งนี้เป็นเวทีความร่วมมือระดับโลกด้านยานยนต์พลังงานใหม่ โดยมีผู้บริหารจากผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีน เยอรมนี และญี่ปุ่นเข้าร่วม เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และนโยบายการพัฒนา BEV สู่ยานยนต์สะอาดและอัจฉริยะ
ฝ่ายไทยได้เสนอ Thailand’s Strategic Roadmap for New Energy Vehicle เน้นศักยภาพการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และเครือข่ายซัพพลายเชนที่แข็งแกร่ง พร้อมความพร้อมของระบบนิเวศอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานไฟฟ้า รองรับการเปลี่ยนผ่านสู่การผลิตรถยนต์ยุคใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในช่วง 4–5 ปีที่ผ่านมา ผู้ผลิตรถยนต์จีนได้ทยอยใช้ไทยเป็นฐานการผลิตหลักของ BEV เพื่อส่งออกไปยังภูมิภาคอาเซียน ยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ปัจจุบันกว่า 80% ของรถไฟฟ้าที่จำหน่ายในไทยระหว่างปี 2020–2024 มาจากผู้ผลิตจีน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายภาครัฐด้าน เศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) และเป้าหมาย 30@30 ที่ตั้งเป้าให้สัดส่วนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสำเร็จรูปในประเทศแตะ 30% ของยอดผลิตรวมภายในปี 2030
สถาบันยานยนต์ระบุว่า ไทยได้รับความสนใจจากค่ายรถต่างชาติอย่างต่อเนื่อง โดยมีการลงทุนตั้งโรงงานและศูนย์วิจัยด้านเทคโนโลยีไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับทั้งดีมานด์ในประเทศและตลาดส่งออก การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงศักยภาพของไทยในการเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์พลังงานสะอาดในภูมิภาค
✦ มุมมองในภาคอุตสาหกรรมของทาง MM Thailand
การเข้าร่วมความร่วมมือครั้งนี้ของไทยถือเป็นจังหวะสำคัญที่ช่วยตอกย้ำสถานะสำคัญของประเทศ การผนึกกำลังกับผู้ผลิตจากจีน เยอรมัน และญี่ปุ่น ไม่เพียงเปิดประตูสู่การถ่ายทอดเทคโนโลยีระดับโลก แต่ยังเป็นโอกาสผลักดันซัพพลายเชนไทยให้ยกระดับมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล
ในเชิงโครงสร้างอุตสาหกรรม ความร่วมมือดังกล่าวจะเร่งการพัฒนาอุตสาหกรรมต้นน้ำ เช่น ระบบแบตเตอรี่ มอเตอร์ไฟฟ้า และระบบชาร์จพลังงาน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของห่วงโซ่ BEV ขณะเดียวกันยังหนุนให้ไทยมีบทบาทมากขึ้นในตลาดยุโรปที่กำลังเร่งเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์พลังงานสะอาดอย่างจริงจัง
ที่มาข่าว : แนวหน้า











