บริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) ผู้ผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่สามปี 2025 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีกำไรสุทธิพุ่งขึ้น 39.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แตะระดับ 452,300 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน หรือประมาณ 14,780 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเกินคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ไปมาก
ยอดขายพุ่งกว่า 30% อานิสงส์จากการขับเคลื่อนด้วยของชิป AI
รายได้ของ TSMC ในไตรมาสที่สามเติบโต 30.3% เป็น 989,900 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน หรือราว 33,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์และทำสถิติสูงสุดใหม่ในรอบไตรมาส กลุ่มผลิตภัณฑ์ High-Performance Computing (HPC) ซึ่งรวมถึงชิป AI ชิป 5G และชิปสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ มีส่วนแบ่ง 57% ของยอดขายทั้งหมดในไตรมาสนี้ สะท้อนให้เห็นว่าความต้องการใช้งานโครงสร้างพื้นฐาน AI กำลังเปลี่ยนแปลงตลาดเซมิคอนดักเตอร์อย่างมีนัยสำคัญ
ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ปี 2025 เป็นช่วงกลาง 30%
นาย C.C. Wei ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ TSMC เปิดเผยในงานประชุมนักลงทุนเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมว่า บริษัทได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของรายได้ปี 2025 เป็นช่วงกลาง 30% จากที่ประมาณการไว้ที่ราว 30% เมื่อช่วงกลางปี โดยให้เหตุผลว่าความต้องการแอปพลิเคชัน AI ทั่วโลกยังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ปลายทางอื่นๆ เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว นี่เป็นการปรับเพิ่มคาดการณ์ครั้งที่สองในปีนี้
อัตราการเติบโตชิป AI คาดว่าจะเกิน 45% ต่อปี
Wei กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากหารือกับลูกค้าแล้ว อัตราการเติบโตทบต้นรายปี (CAGR) ของยอดขายชิป AI ของ TSMC ระหว่างปี 2024-2029 คาดว่าจะสูงกว่าประมาณการเดิมที่ 45% สะท้อนความต้องการที่แข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ Wei กล่าวว่า “ความต้องการ AI ยังคงแข็งแกร่งมาก แข็งแกร่งกว่าที่เราคิดเมื่อสามเดือนก่อน” บริษัทได้เพิ่มงบประมาณรายจ่ายลงทุน (capex) เป็น 40-42 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดิม 38-42 พันล้านดอลลาร์ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า
ชิปขั้นสูงครองส่วนแบ่งกว่า 74% ของยอดขาย
TSMC เปิดเผยว่า ชิปขั้นสูงซึ่งหมายถึงชิปที่มีขนาดกระบวนการผลิต 7 นาโนเมตรหรือเล็กกว่านั้น คิดเป็น 74% ของยอดขายเวเฟอร์ทั้งหมดในไตรมาสที่สาม โดยเฉพาะชิป 3 นาโนเมตรมีส่วนแบ่ง 23% ชิป 5 นาโนเมตรมีส่วนแบ่ง 37% และชิป 7 นาโนเมตรมีส่วนแบ่ง 14% ตามลำดับ ในเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ การออกแบบทรานซิสเตอร์ที่มีขนาดนาโนเมตรเล็กลงจะส่งผลให้มีกำลังประมวลผลและประสิทธิภาพที่สูงขึ้น
อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์โลกมุ่งสู่ 700,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2025
ตลาดเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกคาดว่าจะมีมูลค่า 697,000 -700,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2025 เพิ่มขึ้นประมาณ 11% จากปีก่อน ตามการคาดการณ์ของ World Semiconductor Trade Statistics (WSTS) และ Semiconductor Industry Association (SIA) การเติบโตนี้ขับเคลื่อนโดยความต้องการชิปสำหรับ AI การคำนวณประสิทธิภาพสูง และดาต้าเซ็นเตอร์ ทำให้อุตสาหกรรมอยู่ในเส้นทางที่จะบรรลุเป้าหมาย 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030
การลงทุนด้านอุปกรณ์ผลิตทะลุ 125,000 ล้านดอลลาร์
องค์กร SEMI คาดการณ์ว่ายอดขายอุปกรณ์การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกจะถึง 125,500 ล้านดอลลาร์ในปี 2025 เพิ่มขึ้น 7.4% จากปีก่อน และทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยอุปกรณ์สำหรับโรงงานผลิตเวเฟอร์ (Wafer Fab Equipment) คาดว่าจะมีมูลค่า 110,800 ล้านดอลลาร์ เติบโต 6.2% ตัวขับเคลื่อนหลักคือความต้องการชิป AI อย่างรุนแรง การขยายดาต้าเซ็นเตอร์ และการนำเทคโนโลยีกระบวนการผลิตรุ่นใหม่มาใช้อย่างรวดเร็ว
Key Summary Points
- TSMC ทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ไตรมาส 3/2025 กำไรสุทธิ 452,300 ล้าน TWD (≈ 14,780 ล้าน USD) เพิ่มขึ้น 39.1% YoY
- รายได้รวม 989,900 ล้าน TWD (≈ 33,100 ล้าน USD) เติบโต 30.3% YoY สูงกว่าคาดการณ์
- ยอดขายขับเคลื่อนโดยชิป AI และ HPC กลุ่ม High-Performance Computing มีสัดส่วน 57% ของยอดขาย
- ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ปี 2025 จากราว 30% เป็น “ช่วงกลางของ 30%” (mid-30%)
- ยอดขายชิป AI โตแรง คาด CAGR ปี 2024–2029 เกิน 45% ต่อปี
- เพิ่มงบลงทุน (Capex) เป็น 40–42 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รองรับดีมานด์ AI
- ชิปขั้นสูงคิดเป็น 74% ของยอดขายเวเฟอร์ทั้งหมด 3 นาโนเมตร 23%, 5 นาโนเมตร 37%, 7 นาโนเมตร 14%
- ตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลกปี 2025 คาดมูลค่า 697,000–700,900 ล้านดอลลาร์ (+11% YoY) เป้าหมายแตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2030
- การลงทุนอุปกรณ์ผลิตชิปทั่วโลกพุ่ง คาดแตะ 125,500 ล้านดอลลาร์ในปี 2025 (+7.4%) อุปกรณ์ Wafer Fab 110,800 ล้านดอลลาร์ (+6.2%)
Source : CNBC , Reuters , AA , FocusTaiwan











