vietnam digital transformation ai manufacturing

เวียดนามเร่งสู่ยุคดิจิทัล ด้วยพลังขับเคลื่อน 2 เครื่องยนต์หลัก AI และอุตสาหกรรมการผลิต

Date Post
11.09.2025
Post Views

ในช่วงที่โลกกำลังเข้าสู่ยุคของการปฏิวัติเทคโนโลยี เวียดนามได้กลายเป็นหนึ่งในประเทศที่น่าจับตามองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการเลือกใช้กลยุทธ์การพัฒนาเศรษฐกิจแบบก้าวกระโดดผ่าน 2 ตัวขับเคลื่อนสำคัญ คือ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการยกระดับอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งการเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการติดตามเทรนด์โลก แต่เป็นการวางรากฐานที่แข็งแกร่งเพื่อก้าวสู่การเป็นประเทศรายได้สูงในอนาคต

การปฏิวัติ AI ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

ตลาด AI ของเวียดนามกำลังเติบโตในอัตราที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตามรายงาน Vietnam AI Economy 2025 ที่เปิดเผยในเดือนมิถุนายน 2025 โดยสถาบันนวัตกรรมแห่งชาติ (NIC) ร่วมกับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) และ Boston Consulting Group ระบุว่า ตลาด AI ของเวียดนามในปี 2024 มีมูลค่าประมาณ 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเติบโตในอัตรา 15-18% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยของโลกที่ 12%

สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือการคาดการณ์ระยะยาว ที่ระบุว่า AI จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจเวียดนามได้ถึง 79.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,890 ล้านล้านเวียดนามดองภายในปี 2030 และอาจขยายตัวไปสู่ระดับ 120-130 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2040

การเข้ามาของ NVIDIA ซึ่งเป็นบริษัทชิปผู้นำระดับโลก ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรม AI เวียดนาม เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2024 NVIDIA ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับรัฐบาลเวียดนามเพื่อจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา AI แห่งที่สาม ของโลก รวมถึงศูนย์ข้อมูล AI ในเวียดนาม นอกจากนี้ บริษัทยังได้ร่วมมือกับ FPT Corporation ในการสร้าง “AI Factory” มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเริ่มดำเนินการในเดือนพฤศจิกายน 2024 และคาดว่าจะเริ่มสร้างกำไรในปี 2025

การยกระดับอุตสาหกรรมการผลิตสู่มิติใหม่

อุตสาหกรรมการผลิตยังคงเป็นเสาหลักสำคัญของเศรษฐกิจเวียดนาม โดยมีส่วนแบ่งใน GDP ถึง 24.8% และรัฐบาลมีเป้าหมายที่จะขยายสัดส่วนนี้ไปสู่ระดับ 30% ภายในปี 2030 ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2025 เวียดนามสามารถดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ได้ถึง 24.09 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 27.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

สิ่งที่น่าสนใจคือ อุตสาหกรรมการผลิตและการแปรรูปได้รับเงินลงทุนใหม่มากที่สุด คิดเป็น 55.9% หรือ 5.61 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนจดทะเบียนใหม่ทั้งหมด การลงทุนเหล่านี้ไม่ได้มาจากแหล่งเดียว แต่กระจายมาจากหลากหลายประเทศ โดยสิงคโปร์นำหน้าด้วยเงินลงทุน 2.84 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามมาด้วยจีน 2.27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และสวีเดน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือการยกระดับจากการเป็นฐานการผลิตที่เน้นต้นทุนต่ำ ไปสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตที่มีมูลค่าเพิ่มสูง อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนยังคงเป็นภาคส่วนที่ได้รับการลงทุนมากที่สุด โดยมีบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Samsung และซัพพลายเออร์ของ Apple ตั้งฐานการผลิตสำคัญในเวียดนาม

นโยบายสนับสนุนที่เป็นผู้บุกเบิก

เวียดนามได้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่เมื่อเป็นประเทศแรกของโลกที่ผ่านกฎหมายเฉพาะเรื่องอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2025 กฎหมายฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2026

กฎหมายดังกล่าวมาพร้วยสิทธิประโยชน์ที่น่าสนใจมาก สำหรับโครงการที่มีทุนเกิน 6 ล้านล้านเวียดนามดอง จะได้รับอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลเพียง 5% เป็นเวลา 37 ปี พร้อมการยกเว้นภาษี 6 ปีแรก และลดภาษี 50% อีก 13 ปีถัดมา สำหรับค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา จะได้รับการหักลดหย่อนภาษีถึง 200% ส่วนผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิทัลจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นเวลา 5 ปี

รัฐบาลได้จัดสรรแพ็กเกจสินเชื่อพิเศษมูลค่า 500 ล้านล้านเวียดนามดอง (ประมาณ 19.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อสนับสนุนการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม และการเปลี่ยนผ่านดิจิทัล การลงทุนครั้งใหญ่นี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการผลักดันการเติบโตที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี

ความท้าทายและโอกาสข้างหน้า

แม้ว่าเวียดนามจะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่น่าประทับใจ แต่ยังมีความท้าทายสำคัญที่ต้องเผชิญ ปัญหาหลักอย่างหนึ่งคือการขาดแคลนบุคลากรคุณภาพสูง ทั้งในด้าน AI และการผลิตขั้นสูง ขณะนี้เวียดนามมีสตาร์ทอัป AI และแมชชีนเลิร์นนิง 765 แห่ง ซึ่งเป็นอันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากสิงคโปร์ที่มี 1,100 แห่ง

อย่างไรก็ตาม การระดมทุนของสตาร์ทอัป AI เวียดนามยังอยู่ในระดับต่ำ มีมูลค่าประมาณ 80-100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังไม่มีการระดมทุนรอบ Series B ที่ประสบความสำเร็จ หรือการเกิดขึ้นของ AI ยูนิคอร์น ซึ่งชี้ให้เห็นว่าระบบนิเวศ AI ของเวียดนามยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น

อนาคตเวียดนามอาจอยู่ในฐานะศูนย์กลางเทคโนโลยี ?

ด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างแข็งขัน การลงทุนจากบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก และกฎหมายที่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาเทคโนโลยี เวียดนามกำลังวางตำแหน่งตัวเองให้เป็นหนึ่งในศูนย์กลางเทคโนโลยีที่สำคัญของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เป้าหมายที่ท้าทายแต่น่าติดตามคือการเป็นประเทศที่อยู่ในอันดับ 4 ของอาเซียนและอันดับ 50 ของโลกในด้านการวิจัย พัฒนา และการประยุกต์ใช้ AI พร้อมกับการมุ่งสู่การเป็นประเทศรายได้สูงภายในปี 2045 โดยมีเศรษฐกิจดิจิทัลที่คิดเป็น 50% ของ GDP

การเดินทางสู่เป้าหมายเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยการมีทั้งวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน นโยบายสนับสนุนที่เข้มแข็ง และการลงทุนจากภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศ เวียดนามกำลังสร้างแนวทางใหม่ในการพัฒนาเศรษฐกิจแบบก้าวกระโดดในอนาคต


Source : Search Engine Land , NYTimes , cbsnews

Logo-Company
Logo-Company
Logo-Company
logo-company
Pisit Poocharoen
Former field engineer seeking to break free from traditional learning frameworks. อดีตวิศวกรภาคสนามที่ต้องการหลุดออกจากกรอบการเรียนรู้แบบเดิม ๆ
Super Source-E-market place สำหรับสินค้าอุตสาหกรรม