Saturday, April 27Modern Manufacturing
×

‘ฉลากสินค้าเรือนกระจก’ มาตรฐานใหม่จากญี่ปุ่นที่ตลาด ผัก-ผลไม้ต้องรู้

ญี่ปุ่นนำร่องติดฉลากลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผัก-ผลไม้ 23 ชนิด ด้านสนค.แนะเกษตรกร-ผู้ประกอบการเตรียมตัวสู่เกษตรสีเขียว ซึ่งจะเริ่มมีการใช้งานอย่างเป็นทางการช่วงไตรมาส 2 ปีหน้า

‘ฉลากสินค้าเรือนกระจก’ มาตรฐานใหม่จากญี่ปุ่นที่ตลาด ผัก-ผลไม้ต้องรู้

‘ฉลากสินค้าเรือนกระจก’ มาตรฐานใหม่จากญี่ปุ่นที่ตลาด ผัก-ผลไม้ต้องรู้

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศญี่ปุ่น ได้เตรียมความพร้อมในการนำร่องติดฉลากลดก๊าซเรือนกระจกในสินค้าเกษตรกลุ่มผักและผลไม้สด โดยจะใช้ระบบการติดฉลากลดก๊าซเรือนกระจกในสินค้าเกษตรอย่างเป็นทางการช่วงเดือนเมษายน 2567 โดยจะขยายสินค้าให้หลากหลายครอบคลุมกลุ่มปศุสัตว์ ทั้ง โคนม โคเนื้อ และสุกร ด้วย

นายพูนพงษ์ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ระบบอาหารยั่งยืน (Strategy for Sustainable Food Systems) หรือ “ยุทธศาสตร์ MIDORI” เป็นหนึ่งในเป้าหมาย การติดฉลากลดก๊าซเรือนกระจกในสินค้าเกษตรกลุ่มผักและผลไม้สด ครอบคลุมสินค้า 23 รายการ เช่น ข้าว มะเขือเทศ มะเขือเทศเชอร์รี่ แตงกวา มะเขือยาว ผักโขม ต้นหอม หัวหอม ผักกาดขาวปลี กะหล่ำปลี ผักกาดหอม หัวไชเท้า แครอท หน่อไม้ฝรั่ง แอปเปิ้ล ส้มแมนดาริน องุ่น ลูกแพร์ญี่ปุ่น ลูกพีช สตรอเบอร์รี่ มันฝรั่ง มันเทศ และชา ข้อมูลล่าสุดเมื่อเดือนก.ย. 2566 พบว่ามีร้านค้าปลีกและร้านอาหารเข้าร่วมโครงการทั่วประเทศ จำนวน 271 แห่ง ซึ่งร้านดังกล่าวจะมีการติดฉลากแสดงสัญลักษณ์เป็นรูปดาว 3 ดวง

หากร้านค้ารายใด สามารถลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้ร้อยละ 5 จะได้ 1 ดาว ลดลงได้ร้อยละ 10 จะได้ 2 ดาว และลดลงได้ร้อยละ 20 หรือมากกว่า จะได้ 3 ดาว นอกจากนี้ ยังมีการแจ้งรายละเอียดวิธีการลดก๊าซเรือนกระจก เช่น  ลดการใช้ปุ๋ยเคมี ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ใช้พลังงานชีวมวล ซึ่งทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าใจความสามารถในการลดก๊าซเรือนกระจกของผลิตภัณฑ์ที่เข้าใจได้ง่ายดายยิ่งขึ้น

ผ.อ.สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าฯ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันญี่ปุ่น คือ ตลาดคู่ค้าที่สำคัญของไทยกำลังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการบริโภคสินค้าเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการลดก๊าซเรือนกระจก และมีร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการเป็นตลาดรองรับสินค้าที่มีฉลากลดก๊าซเรือนกระจกเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

นายพูนพงษ์ ยังกล่าวอีกว่า อยากแนะนำให้เกษตรกรเริ่มเก็บข้อมูลการเพาะปลูกเพื่อคำนวณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและขอรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์เพื่อเป็นข้อมูลให้กับตลาดคู่ค้าที่ให้ความสำคัญและต้องการสินค้าเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ทั้งนี้จากข้อมูลการส่งออกปี 2566 พบว่า ช่วง 9 เดือนแรก ตั้งแต่เดือนม.ค. – ก.ย.ไทยส่งออกสินค้าไปญี่ปุ่น รวมมูลค่า 18,856.94 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 643,053.3 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

โดยสินค้ากลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร มีมูลค่ารวม 3,685.79 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัวร้อยละ 7.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 20 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าไปญี่ปุ่นทั้งหมด

สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรส่งออกไปญี่ปุ่นที่มีมูลค่าส่งออกสูงสุด3 อันดับแรก ได้แก่ ไก่แปรรูป มีมูลค่าส่งออก 1,023.78 ล้านเหรียญสหรัฐ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป 504.03 ล้านเหรียญสหรัฐ และ ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง 321.88 ล้านเหรียญสหรัฐ

ส่วนสินค้าผักสด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง มีมูลค่าส่งรวม 70.12 ล้านเหรียญสหรัฐ และผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง 17.20 ล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา:
tpbs.or.th


พบกับ สุดยอดองค์ความรู้เพื่อผู้บริหารโรงงานอุตสาหกรรมในยุคดิจิทัล
AUTOMATION SUMMIT 2023
12 ธันวาคม 2566 เวลา 09.00-18.00 น.
ณ สามย่านมิตรทาวน์ ฮอลล์ ชั้น 5 กรุงเทพมหานคร
ลงทะเบียนเข้าร่วมฟรี คลิก!

Thos
"Judge a man by his questions rather than his answers"
Voltaire
READ MORE
×