งานวิจัยได้เปิดเผยให้เห็นถึงความสำคัญของเพื่อนร่วมงานหรือทีมงานที่เสริมสร้าง Productivity เพิ่มศักยภาพในการทำงานและยังทำให้การว่าจ้างนั้นมีคุณค่าอย่างต่อเนื่อง
รายงานวิจัยจาก Havard Kennedy School ใช้กลุ่มตัวอย่างในประเทศสวีเดน ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบที่เกิดจากพฤติกรรมและทักษะความสามารถของผู้ร่วมงานที่ส่งผลให้แก่กัน ซึ่งในโลกปัจจุบันนั้นแรงงานส่วนใหญ่จะมีทักษะการทำงานที่พิเศษซึ่งทักษะเหล่านี้ก็มีต้นทุนเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่ออยู่ผิดที่ผิดทาง
รายงานวิจัยให้ความสำคัญกับทักษะของผู้ร่วมงาน โดยพบว่าเพื่อให้ได้มาซึ่งอัตราจ้างงานที่มีราคาสูง แรงงานต้องมีเพื่อนร่วมงานที่สามารถเติมเต็มให้กันได้ไม่ใช่การเป็นตัวสำรองให้พวกเขา ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จากการมีเพื่อนร่วมงานที่สามารถเติมเต็มกันได้นั้นถือว่าใหญ่หลวงนักเปรียบเทียบได้กับการจบการศึกษาระดับปริญญาตรีเลยก็ว่าได้
การมีเพื่อนร่วมงานที่ถูกต้อง คือ การมีเพื่อนร่วมงานในทักษะที่ขาดหายไปแต่นั่นหมายความว่าทักษะเหล่านั้นเป็นทักษะที่ทีมต้องการให้เติมเต็มด้วยเช่นกัน
การมีเพื่อนร่วมงานที่ผิดพลาด คือ การมีเพื่อนร่วมงานที่คอยลอกเลียนชุดทักษะของคุณและโดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดคุณค่าของคุณที่มีต่อนายจ้าง เช่น สถาปนิกนั้นเหมาะกับการทำงานร่วมกันกับวิศวกร ช่างก่อสร้าง หรืองานสำรวจในขณะที่ไม่เหมาะสมกับการทำงานร่วมกับตกแต่งภายในหรือปรับภูมิทัศน์
การทำงานที่เติมเต็มกันและกันยังผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าในสายงาน รายงานยังเผยให้เห็นว่าผู้คนนั้นทำงานในองค์กรยาวนานขึ้นเมื่อมีแรงงานที่เติมเต็มกันและกัน ในทางกลับกันผู็คนจะลาออกเมื่อมีการทำงานแบบมีตัวตายตัวแทน นอกจากนี้รายงานยังสนับสนุนข้อมูลที่รู้กันดีอย่าง การทำงานในเมืองหรือบริษัทใหญ่นั้นแรงงานมักจะหาทีมที่เหมาะกับตนเองมากกว่า โดยในเมืองหรือองค์กรขนาดใหญ่มักเปิดทางให้แรงงานนั้นมีลักษณะที่พิเศษได้
แต่การทำงานที่ถูกเติมเต็มนั้นไม่ได้ผลลัพธ์เป็นเช่นนั้นสำหรับทุกคน สำหรับผู้ที่มีระดับการศึกษาสูงมีแนวโน้มที่จะได้รับผลประโยชนน์จากการทำงานร่วมกับทีมที่มีการเติมเต็มทักษะมากกว่ากลุ่มที่มีการศึกษาน้อย
ที่มา:
Sciencedaily.com
Voltaire
