SIEMENS WinCC
Techman Robot

Green Manufacturing จากไต้หวันส่งต่อความยั่งยืนสู่โรงงานไทย: เมื่อ Cobot จาก TM Robot มาพร้อม AI การผลิตจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร?

Date Post
18.06.2025
Post Views

ในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา (2023 – 2025) จะเห็นได้ว่าตลาดของหุ่นยนต์ Collaborative Robot (Cobot) เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งในประเทศไทยเองก็สามารถสังเกตเรื่องดังกล่าวได้อย่างง่ายดายผ่านงานแสดงสินค้าด้านอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่แอปพลิเคชันต่าง ๆ ถูกนำเสนอผ่าน Cobot กันในสัดส่วนที่อาจเรียกได้ว่าเกิน 50% ในงานแสดงสินค้าชั้นนำ ด้วยจุดเด่นที่ใช้งานง่าย ปลอดภัย และตัวหุ่นยนต์เองสามารถรองรับงานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งการพัฒนาเหล่านี้นำมาสู่การที่หุ่นยนต์ Cobot ถูกติดอาวุธเพิ่มเติมด้วยการใช้งาน AI ที่ออกแบบมาเฉพาะ แต่การมาถึงของ AI จะเปลี่ยนแปลงการใช้งาน Cobot ไปอย่างไรบ้าง? มาหาคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญอย่าง Techman Robot กันได้เลยครับ

Table of Contents

English Version on Page 2

หากพูดถึงหุ่นยนต์ Cobot ในตลาด เชื่อได้เลยว่าแบรนด์ดัง ๆ ที่หลายคนต้องนึกถึง 4-5 แบรนด์ ทั้งจากฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก แต่หนึ่งในแบรนด์ที่มีความโดดเด่นอย่างมากในช่วงเวลาที่ตลาด Cobot กำลังเติบโต นั่นคือ Techman Robot (TM Robot) ที่ความคุ้มค่าในการใช้งานสูงและรองรับการเปลี่ยนแปลงได้เป็นอย่างดี โดยในวันนี้ คุณ Scott Huang ซึ่งเป็น Chief Operating Officer จาก Techman Robot ที่เดินทางร่วมกับ Techman Robot ตั้งแต่เริ่มต้นจนเข้าสู่ปีที่ 10 ของธุรกิจในปีปัจจุบัน จะมาเล่าถึง AI ที่ทำงานร่วมกับหุ่นยนต์ Cobot ผ่านประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริงกันครับ

คำพูดจาก Scott Huang แห่ง Techman Robot

เมื่อ Cobot เป็นมิตรและใช้งานได้หลากหลายอยู่แล้ว ทำไมถึงยังต้องใช้งาน AI กับหุ่นยนต์เพิ่มอีก?

  จากข้อมูลของ Association for Advancing Automation (A3) ชี้ให้เห็นว่าหุ่นยนต์ Cobot คิดเป็นสัดส่วนคำสั่งซื้อหุ่นยนต์ภาพรวมมากถึง 11.6% คิดเป็นรายได้ 6.8% ของไตรมาสแรก ปี 2025  ในขณะที่ IDTechEx มองเห็นการเติบโตของ Cobot แบบทบต้นต่อปีอยู่ที่ 22.8% ในอีก 20 ปีต่อจากนี้ สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มสัดส่วนของ Cobot ในตลาดหุ่นยนต์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่คุณรู้หรือไม่ว่าทำไมหุ่นยนต์ Cobot ถึงเติบโตอย่างต่อเนื่อง?

เมื่อหุ่นยนต์อุตสาหกรรมเป็นเรื่องยุ่งยาก ซับซ้อน และมีมูลค่าสูง

“หนึ่งในความท้าทายสำคัญที่สุดในโลกการผลิตยุคปัจจุบัน คือ ความซับซ้อนของการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและน่าปวดหัว เมื่อมาผสมผสานกับการขาดแคลนแรงงานทำให้ศักยภาพในการแข่งขันอาจหยุดชะงักลงได้ในบางธุรกิจ ทำให้เห็นว่านักอุตสาหกรรมต่างตกอยู่ภายใต้ความกดดันที่จะต้องเพิ่มผลลัพธ์ในการทำงาน ในขณะเดียวกันก็ยังต้องรักษาคุณภาพไว้ให้เกิดความคงที่สม่ำเสมออยู่ตลอดเวลา ดังนั้นทางออกของโรงงานและนักอุตสาหกรรม คือ กระบวนการผลิตที่อัจฉริยะมากยิ่งขึ้น” คุณ Scott เล่าถึงความท้าทายที่ผู้คนในธุรกิจการผลิตต้องเผชิญหน้าในยุคปัจจุบัน

เดิมทีนั้นการใช้งานหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติจำเป็นต้องมีทักษะความสามารถเฉพาะทางที่ต้องใช้เวลาเรียนรู้ยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นการเขียนรหัส (Coding) เพื่อออกแบบโปรแกรมการทำงานต่าง ๆ ของระบบไปจนถึงการบูรณาการเข้ากับเทคโนโลยีจากแบรนด์ที่แตกต่างกัน ซึ่งมักจะมาพร้อมกับ Protocol ที่แตกต่างกัน บางแบรนด์อาจออกแบบมาเพื่อเป็นระบบปิด ทำให้การเชื่อมต่อเข้ากับเทคโนโลยีที่ต้องการเป็นเรื่องยากซับซ้อนมากขึ้นไปอีก

นอกจากนี้ การใช้งานหุ่นยนต์ในการผลิตโดยทั่วไปแล้วยังมาพร้อมกับข้อกำหนดด้านความปลอดภัยอีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น กรงสำหรับป้องกันความปลอดภัย เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว หรือระบบหยุดทำงานฉุกเฉินต่าง ๆ เนื่องจากหุ่นยนต์มีขนาดใหญ่และเคลื่อนไหวเร็ว อาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ง่าย ทำให้การใช้งานหุ่นยนต์อุตสาหกรรมส่วนใหญ่ต้องมาพร้อมกับ Ecosystem ที่เกี่ยวข้องหลากหลายอย่าง เช่น PLC, ระบบเครือข่าย, อุปกรณ์ควบคุม, อุปกรณ์ด้านความปลอดภัย, การออกแบบซอฟต์แวร์แบบจำเพาะเจาะจงสำหรับกิจกรรม ไปจนถึงการบูรณาการเข้ากับ EoAT ฯลฯ ด้วยการที่หุ่นยนต์อุตสาหกรรมนั้นเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีอื่น ๆ เป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดความยืดหยุ่นในการใช้งานต่ำ หากต้องเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เงื่อนไขที่เกิดขึ้นเหล่านี้ทำให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์แบบใหม่อย่าง Cobot ขึ้นมา เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจได้มากกว่าเทคโนโลยีแบบดั้งเดิม

Cobot มิตรแท้ผู้ประกอบการและแรงงานในโลกการผลิตยุคใหม่!

จุดเริ่มต้นของ Cobot นั้นเกิดขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาความท้าทายเดิม ๆ ที่ผู้ผลิตต้องเผชิญเมื่อใช้งานหุ่นยนต์อุตสาหกรรม ซึ่งคุณสมบัติที่เห็นชัดที่สุด คือ การทำงานได้โดยไม่จำเป็นต้องมีเครื่องมือด้านความปลอดภัยกั้น ทำให้สามารถทำงานเคียงข้างกับมนุษย์ได้อย่างใกล้ชิด เพราะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับแรงที่สามารถหยุดการทำงานได้อัตโนมัติ และด้วยโครงสร้างน้ำหนักที่เบาทำให้ไม่เกิดผลกระทบร้ายแรงจากการกระแทกหรือความผิดพลาดในการทำงาน

นอกจากนี้ตัว Cobot ยังต้องการ Ecosystem ในการใช้งานที่น้อยกว่าหุ่นยนต์อุตสาหกรรม เพราะส่วนใหญ่ตัวหุ่นยนต์เองจะมาพร้อมกับอุปกรณ์ทุกอย่างพร้อมใช้แบบ Plug & Play ทำให้ไม่ต้องลงทุนสูง ติดตั้งง่าย ปรับแต่งการใช้งานได้หลากหลาย สามารถออกแบบการทำงานด้วยระบบ Teach ผ่าน Pendant ได้อย่างง่ายดาย และ Cobot รุ่นใหม่ ๆ มาพร้อมกับการออกแบบโปรแกรมผ่านการลากไอคอนเพื่อวาง Sequence ทำงานได้อย่างรวดเร็ว จึงไม่จำเป็นต้องมีความรู้เฉพาะทาง แค่สามารถใช้เทคโนโลยีทั่วไปเป็นก็สามารถใช้งานได้ ทำให้มีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูง

TM Robot show case

จะเห็นได้ว่าหุ่นยนต์ Cobot นั้นมีต้นทุนในการใช้งานที่ไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับหุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่ใช้งานกันทั่วไป ในขณะเดียวกันด้วยความสามารถในการใช้งานที่ง่าย ลดความซับซ้อนทั้งการตั้งค่า การออกแบบการทำงาน ไปจนถึงประเด็นด้านความปลอดภัย ทำให้ Cobot สามารถเป็นได้ทั้งหุ่นยนต์ที่ทำงานแบบ Standalone หรือบูรณาการเข้ากับระบบอัตโนมัติอื่น ๆ รวมถึงการเป็นส่วนเสริมช่วยเหลือแรงงานในการทำงาน ซึ่งจะแตกต่างจากการใช้ระบบอัตโนมัติโดยทั่วไปที่มักจะลดความสำคัญของแรงงานลงหรือตัดออกไปจากวงจรการทำงาน แต่ Cobot นั้นสามารถทำงานร่วมกับแรงงานเพื่อนำเอาจุดเด่นของหุ่นยนต์อัตโนมัติเข้ามาผสานกับความคิดสร้างสรรค์และการแก้ปัญหาล่วงหน้าของมนุษย์เข้าด้วยกันได้เป็นอย่างดี 

AI พลิกการทำงานอัตโนมัติให้กลายเป็นการทำงานอัจฉริยะ

“แม้ว่าการทำงานของ Cobot จะเป็นการยกระดับการทำงานจากหุ่นยนต์อุตสาหกรรมดั้งเดิมอย่างมาก แต่ก็ยังเป็นการทำงานที่ต้องอาศัยประสบการณ์ของมนุษย์ในการออกแบบกระบวนการต่าง ๆ อยู่ไม่น้อย เรียกว่าเป็นระบบอัตโนมัติที่เข้าถึงได้ง่ายก็ไม่ผิดนัก แต่หากมีเทคโนโลยี AI เข้ามาเสริมด้วยแล้วก็จะเปลี่ยนจากการทำงาน ‘อัตโนมัติ’ ให้กลายเป็นการทำงาน ‘อัจฉริยะ’ ที่มอบประสบการณ์การทำงานและศักยภาพในการแข่งขันที่แตกต่างชัดเจน” คุณ Scott ชี้ให้เห็นถึงบทบาทของ AI เมื่อต้องเข้ามาผสานรวมกับ Cobot ที่มีจุดเด่นหลากหลายประการ

“ที่ Techman Robot เราเชื่อว่าคำตอบในการเอาชนะความท้าทายยุคใหม่อยู่ที่ ‘ระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ’ การพัฒนาหุ่นยนต์ Cobot ของเราจึงเกิดขึ้นโดยมีระบบ AI ที่ทำงานควบคู่ไปกับระบบกล้องซึ่งเป็นมาตรฐานของหุ่นยนต์ทุกรุ่นของเรา ทำให้ไม่เพียงแค่ทำงานซ้ำ ๆ ได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพที่โดดเด่น แต่ยังสามารถจดจำ ปรับตัว และพัฒนาได้แบบ Real-Time ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถออกแบบใช้งานระบบอัตโนมัติกับกระบวนการที่มีความซับซ้อนได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังช่วยลดความสูญเปล่าที่เกิดจากข้อจำกัดของมนุษย์ พร้อมกับเพิ่มประสิทธิภาพโดยไม่ลดทอนคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้น” คุณ Scott ยกตัวอย่างการใช้งาน AI ผ่านมุมมองของ Techman Robot ที่ตั้งต้นมาจากการพัฒนาหุ่นยนต์ Cobot และขยับมาต่อยอดการใช้งาน AI ในภาคการผลิตอย่างใกล้ชิด

Techman Robot เปิดประตูสู่การผลิตอัจฉริยะสำหรับทุกคนด้วย AI + Cobot

“เราตั้งใจเชื่อมช่องว่างระหว่างระบบอัตโนมัติแบบเดิมกับระบบอัจฉริยะ ด้วยการผสาน AI ระบบกล้องสำหรับการมองเห็น และหุ่นยนต์ Cobot ไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ผู้ผลิตจึงสามารถเข้าถึงโซลูชั่นสำหรับการแก้ปัญหาความท้าทายในธุรกิจได้อย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมคุณภาพ การผลิตแบบยืดหยุ่น และการแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน โดยไม่จำเป็นต้องมีการเขียนโปรแกรมหรือกระบวนการบูรณาการที่ซับซ้อน

ด้วยความเข้าใจทั้งในด้านเทคโนโลยีและความต้องการของสายการผลิต Techman Robot จึงทำงานร่วมกับทีมและพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่าโซลูชั่นของเราสามารถติดตั้งได้ง่าย ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ และตอบสนองต่อเป้าหมายทางธุรกิจของลูกค้าแต่ละรายอย่างแท้จริง” คุณ Scott เล่าถึงหัวใจของการพัฒนาเทคโนโลยีจาก Techman Robot ที่พิจารณาถึงความท้าทายของผู้ใช้งานเป็นสำคัญ

Techman Robot Show Case

หากใครที่เคยได้สัมผัสหรือเคยเห็นหุ่นยนต์จาก Techman Robot กันอยู่บ้าง ก็คงจะจำกันได้ว่าหุ่นยนต์ Cobot ทุกตัวที่มีตรา TM Robot นั้นจะต้องมาพร้อมกับ ‘ระบบกล้อง’ ที่ฝังมาพร้อมใช้ทุกรุ่น ซึ่งหลายคนอาจเกิดคำถามว่าเกินความจำเป็นหรือไม่ และทำไมระบบกล้องต้องมาพร้อมกับหุ่นยนต์ ทำไมเทคโนโลยีนี้จึงไม่ใช่ตัวเลือก ซึ่งคุณ Scott ได้ตอบประเด็นนี้เอาไว้ได้อย่างน่าสนใจครับ 

“เทคโนโลยี Machine Vision ของเราเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เรามีความโดดเด่นในการใช้งานอย่างมาก เพราะการติดตั้งระบบกล้องมาพร้อมกับหุ่นยนต์ทำให้ Cobot ของเราสามารถตอบสนองต่อความท้าทายใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ด้วยการที่ระบบถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานกล้องตั้งแต่ต้นทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการบูรณาการเพิ่มเติมในภายหลังที่อาจเกิดความซับซ้อน หรือเกิดความล้มเหลวในการบูรณาการระบบ AI Cobot ของเรา คือ โซลูชั่นแบบครบวงจรที่ผสานแขนกล หุ่นยนต์ ระบบกล้อง และอัลกอริธึม AI เข้าไว้ด้วยกันในแพลตฟอร์มเดียว แตกต่างจากโซลูชั่นทั่วไปที่ต้องซื้อแยกจากผู้จำหน่ายหลายราย AI Cobot ของ Techman Robot รวมทุกอย่างให้เสร็จในระบบเดียว ลดเวลา ต้นทุน และภาระด้านการวิศวกรรมในการติดตั้งระบบที่สร้างความแตกต่างอย่างชัดเจน” จะเห็นได้ว่าการบูรณาการ AI + Cobot จาก Techman Robot นั้นถูกพัฒนาและสร้างขึ้นมาตั้งแต่แก่นของแนวคิด พื้นฐานของระบบ ที่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อ

AI Cobot Series และ Flying Trigger จาก Techman Robot โซลูชั่นอัจฉริยะที่เพิ่มความคล่องตัวให้กับการผลิตยุคใหม่

“จุดเด่นของ AI Cobot จาก Techman Robot คือ การติดตั้งที่รวดเร็วยิ่งขึ้น บำรุงรักษาได้ง่าย และอัปเกรดในระยะยาวได้สะดวก โดยลูกค้าไม่ต้องคอยลุ้นว่าควรติดต่อใครเมื่อมีปัญหา เรารับผิดชอบโซลูชั่นทั้งหมดและให้บริการแบบจุดเดียว (Single Point of Contact) ตลอดอายุการใช้งาน จึงลดความซับซ้อน ลดความเสี่ยง และมี ROI ที่ดี เราได้นำเทคโนโลยีไฮไลต์บางส่วนที่ได้รับรางวัลจาก TAIWAN EXCELLENCE มานำเสนอให้กับผู้ประกอบการในประเทศไทยได้ทดลองใช้กันภายในงาน Manufacturing Expo 2025” คุณ Scott เล่าถึงประโยชน์ในการใช้งาน Cobot อัจฉริยะรุ่นใหม่ภายใต้มุมมองของการบริหารจัดการธุรกิจ พร้อมนำเสนอเทคโนโลยีที่น่าสนใจ ได้แก่

AI Cobot Series

หุ่นยนต์ Cobot อัจฉริยะจาก Techman Robot ที่มาพร้อมกับระบบกล้องและ AI ฝังมาพร้อมใช้ในตัว รองรับงานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงาน Pick & Place การบูรณาการ AMMR ไปจนถึงการใช้งานเชื่อมหรืองานตรวจสอบคุณภาพชิ้นงาน ซึ่งหุ่นยนต์เหล่านี้มาพร้อมกับ AI Library สำหรับอุตสาหกรรมเฉพาะ อาทิ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมยานยนต์ และโลจิสติกส์ ซึ่งจะมีเทมเพลตที่ฝึกมาสำหรับแต่ละงานในอุตสาหกรรม และสามารถปรับค่าต่าง ๆ ให้เหมาะกับธุรกิจ ผู้ใช้งานจึงสามารถเริ่มต้นได้อย่างรวดเร็ว และรักษาความสม่ำเสมอในการแข่งขันได้เป็นอย่างดี

“ผมขอยกตัวอย่างหุ่นยนต์ของเราในโรงงาน Jinpao Precision ในประเทศไทย ซึ่งผลิตชิ้นส่วนที่ต้องการความแม่นยำสูงสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ อากาศยาน และภาคการผลิตอื่น ๆ โดยบริษัท Jinpao Precision นั้นขึ้นชื่อในเรื่องของการควบคุมมาตรฐานที่เข้มข้นและมีความสามารถด้านวิศวกรรมอันล้ำสมัย ทำให้เกิดการบูรณาการระบบอัตโนมัติที่มี AI เพื่อลดความผิดพลาดของแรงงาน เช่น TM5S, TM12S และ TM25S เข้าไปในกิจกรรมต่าง ๆ  เช่น การตรวจสอบสินค้าก่อนส่งออก การควบคุมคุณภาพในสายการผลิต (IPQC) และการตรวจสอบคุณภาพพื้นผิว ซึ่งหุ่นยนต์ทั้งหมดเป็น AI Cobot ที่มีทั้งระบบกล้อง, AI และเทคโนโลยีควบคุมการเคลื่อนไหวในแพลตฟอร์มเดียว ทำให้ลดความซับซ้อนในการทำงานสำหรับแต่ละเทคโนโลยีที่ต้องใช้ในหุ่นยนต์, ซอฟต์แวร์ AI และระบบกล้องซึ่งปรกติจะมีหลากหลายแบรนด์เข้ามาทำงานร่วมกัน ทำให้ติดตั้งได้เร็ว ลดความยุ่งยากทางวิศวกรรม และทำให้บริการหลังการขายมีความเรียบง่าย เกิดประสิทธิภาพขึ้นในทุกมิติ” คุณ Scott เล่าถึงกรณีศึกษาที่เกิดขึ้นจริงในการใช้งาน AI Cobot จาก Techman Robot ในประเทศไทย

Flying Trigger Solution

Techman Robot ได้ผสมผสานเทคโนโลยีการตรวจชิ้นงานแบบ Flying Trigger อันทันสมัยเข้ากับ AI ทำให้สามารถตรวจสอบคุณภาพชิ้นงานได้แบบ Real-Time แม้ว่าตัวชิ้นงานจะกำลังเคลื่อนไหวอยู่ก็ตาม ทำให้ไม่เกิด Downtime ใด ๆ ขึ้นในกระบวนการตรวจสอบ ซึ่งสามารถลดเวลาที่ใช้ในกระบวนการตรวจสอบแบบเดิมได้ถึง 50% จึงเป็นการเพิ่ม Cycle Time และ OEE ที่มีประสิทธิภาพอย่างมาก ยกตัวอย่างการใช้งานในการประกอบเบาะสำหรับที่นั่งในอุตสาหกรรมยานยนต์ หรือการประกอบเซิร์ฟเวอร์ในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

TM Robot AMMR

ทดสอบประสบการณ์ Out-of-the-Box หุ่นยนต์อัจฉริยะจาก Techman Robot ได้ที่ Manufacturing Expo 2025 นี้เท่านั้น

“สิ่งที่ทำให้ AI ของเราแตกต่างจาก AI ทั่วไปที่ต้องผสานกับซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์หลายค่าย คือ AI ของเราทำงานร่วมกับหุ่นยนต์ของเราได้ทันที (Out-of-the-Box) ผู้ใช้งานสามารถฝึกโมเดลเพื่อตรวจจับข้อบกพร่อง การรู้จำวัตถุ และการจำแนกลวดลายต่าง ๆ ได้ โดยไม่ต้องเขียนโค้ดหรือมีทักษะโปรแกรมขั้นสูง เราขอเชิญทุกท่านมาเยี่ยมชมบูธของ Techman Robot ที่งาน Manufacturing Expo 2025 มาร่วมสัมผัสนวัตกรรมโคบอทที่มาพร้อมระบบ AI และเทคโนโลยี Flying Trigger ที่กำลังพลิกโฉมเรื่องคุณภาพ ความเร็ว และความยืดหยุ่นในสายการผลิต มาร่วมกันสร้างอนาคตแห่งการผลิตอัจฉริยะไปด้วยกันครับ!”

นักอุตสาหกรรมที่กำลังมองหาหุ่นยนต์เพื่อยกระดับการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Cobot พลาดไม่ได้กับ AI Cobot และ Flying Trigger Solution จาก Techman Robot พร้อมสัมผัสประสบการณ์จริงได้ที่ TAIWAN EXCELLENCE PAVILION บูธหมายเลข 8F11 ในพื้นที่ของ ASSEMBLY & AUTOMATION TECHNOLOGY ภายในงาน MANUFACTURING EXPO 2025 ได้ที่ BITEC บางนา ระหว่างวันที่ 18 – 21 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 – 18.00 น. โดยสามารถเข้าชมงานได้ฟรี! 

“พบโซลูชั่นด้านความยั่งยืนสำหรับการผลิตยุคใหม่ที่คุ้มค่า พบกันได้ที่ TAIWAN EXCELLENCE PAVILION ในงาน MANUFACTURING EXPO 2025 นี้เท่านั้น!”

  • หน้า:
  • 1
  • 2
Logo-Company
Logo-Company
Logo-Company
logo-company
Thossathip Soonsarthorn
"Judge a man by his questions rather than his answers" Voltaire