Reuter รายงานว่า Foxconn วางแผนโครงการต้นแบบที่จะใช้หุ่นยนต์รูปแบบมนุษย์เพื่อผลิต AI Server GB300 จาก Nvidia โดยกระบวนการผลิตถูกตั้งเป้าให้เริ่มต้นขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของปี 2026 เป็นอย่างช้า
Foxconn และ Nvidia กำลังอยู่ในช่วงเจรจาในการบูรณาการหุน่ยนต์ที่เหมือนมนุษย์ในเซิร์ฟเวอร์ใหม่ของโรงงานใน Houston จากข้อมูลของ Reuter ชี้ว่าการดำเนินการนี้จะเป็นครั้งแรกที่มีการใช้งานหุ่นยนต์รูปแบบมนุษย์เพื่อผลิตสินค้าของ Nvidia และเป็นการใช้งานหุ่นยนต์แบบนี้ในกระบวนการผลิต AI Server ของ Foxconn ครั้งแรกเช่นกัน
Foxconn กำลังอยู่ในการพัฒนาหุ่นยนต์รูปแบบมนุษย์ของตัวเองร่วมกับ Nvidia ซึ่งมีการทดสอบโมเดลจากบริษัท UBTech จากจีน ซึ่งมี 2 รูปแบบในปัจจุบัน ได้แก่ หุ่นยนต์ 2 ขาและรูปแบบที่เป็นล้อ โดยทั้ง 2 รูปแบบนี้คาดว่าจะถูกจัดแสดงในงาน Tech Fair ของ Foxconn ในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้
ตัวโรงงานเองนั้นยังอยู่ในสถานะการพัฒนา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนผลิต AI Supercomputer ของ Nvidia ในสหรัฐอเมริกามูลค่ากว่า 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ผ่าน Foxconn ใน Houston และ Wistron ใน Dallas โดยทั้ง 2 แห่งคาดว่าจะเริ่มการผลิตได้ในระยะเวลา 12 – 15 เดือน ปัจจุบัน Foxconn ได้เลือก Houston เป็นพื้นที่สำหรับทดสอบระบบหุ่นยนต์ใหม่เหล่านี้เพื่อดูว่าจะสามารถบูรณาการเข้ากับสายการผลิตจริงได้อย่างไร
โครงการเหล่านี้เป็นมากกว่าแค่งานโชว์ แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงการขยับตัวเป็นคนแรกในอุตสาหกรรม ซึ่งในกรณีของเยอรมนี กับบริษัทอย่าง Mercedes-Benz และ BMW รวมถึง Tesla ที่มีการทดลองใช้งานหุ่นยนต์รูปแบบมนุษย์ หากโมเดลที่เกิดขึ้นสามารถทำซ้ำได้จะเป็นการเปิดประตูบานใหม่ให้กับระบบอัตโนมัติแม้กระทั่งในกระบวนการประกอบที่มีความซับซ้อนก็ตามที
นอกจากนี้ยังมีประเด็นของการกดดันจากมิติทางการเมืองที่รัฐบาลสหรัฐฯ ได้บังคับใช้กฎหมายเพื่อให้เกิดการผลิตภายในประเทศผ่านประเด็นของภาษีและการสนับสนุน ทำให้ Nvidia และ Foxconn ได้นำประเด็นดังกล่าวมาเริ่มใช้งานใน Texas และสร้างพื้นที่การผลิตกว่า 1,000 ตารางเมตร รวมถึงซื้อที่ดินหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ใน Houston
หากมองว่าหุ่นยนต์แบบดั้งเดิมนั้นมีรูปแบบที่จำกัดเพื่อให้ได้มาซึ่งประสิทธิภาพในบางด้านที่โดดเด่น แต่หุ่นยนต์รูปร่างมนุษย์นั้นมีความหลากหลายในการใช้งานแต่ก็ต้องแลกมากับความเร็วหรือโหลดน้ำหนักจากหุ่นยนต์ดั้งเดิม ความคุ้มค่าและคุณค่าที่ใช้งานจะเป็นอย่างไร? ความหลากหลายนี้สามารถมอบ ROI ได้อย่างไรบ้าง?
ที่มาข่าว:
All About Industry










