VEGA Instrument
XLight

Tech War รอบใหม่? xLight ดันเลเซอร์ FEL แทนที่ ASML

Date Post
25.07.2025
Post Views

สองปีที่ผ่านมา ชาวโลกเพิ่งตระหนักว่าชิปคอมพิวเตอร์ไม่ได้เป็นเพียงอุตสาหกรรมใกล้ตัว แต่มันเกี่ยวพันทั้งความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการเมืองระดับโลก ข่าวคราวล่าสุดจากหุบเขาซิลิคอนจึงถูกจับตาหนักเป็นพิเศษ

โดยเฉพาะกรณีของ xLight สตาร์ตอัปหัวก้าวหน้าที่ดึงดูดเงินลงทุน 40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อพัฒนาระบบเลเซอร์ชนิดใหม่สำหรับเครื่องพิมพ์ลายวงจรด้วยแสงคลื่นสั้นที่สุดในโลก (EUV Lithography) 

จุดเริ่มต้นของเงินทุนก้อนโตที่มาพร้อมภารกิจที่ทะเยอทะยาน

ปลายเดือนกรกฎาคม 2025 xLight เปิดเผยว่าเงินระดมทุนรอบ Series B มูลค่า $40 ล้านมาจากกลุ่มนักลงทุนที่หลากหลาย นำโดย Playground Global ซึ่งมีอดีตซีอีโอ Intel อย่าง Pat Gelsinger นั่งเป็นประธานบอร์ด 

ลงขันร่วมกับ Boardman Bay Capital , Morpheus Ventures , Marvel Capital และ IAG Capital Partners ผลที่ได้ไม่ใช่แค่ตัวเลขสวย ๆ แต่คือ ใบอนุญาตทางการเงิน ให้บริษัทเดินหน้าสร้างเลเซอร์ชนิดใหม่ที่อาจเปลี่ยนสมการราคาต่อแผ่นเวเฟอร์ในโรงงานผลิตชิปทั่วโลก

ภาพรวมรอบ Series B และพันธมิตรทางวิทยาศาสตร์ของ xLight

รายการรายละเอียด
มูลค่าระดมทุน$40 ล้านสหรัฐฯ
ผู้นำรอบPlayground Global (ประธานบอร์ด Pat Gelsinger)
นักลงทุนร่วมBoardman Bay, Morpheus Ventures, Marvel Capital, IAG Capital
พันธมิตรห้องปฏิบัติการCornell CLASSE, Los Alamos LANL, Fermilab
เป้าหมายต้นแบบระบบเลเซอร์ FEL EUV กำหนดพิมพ์เวเฟอร์ครั้งแรก 2028

ทำไมต้องเปลี่ยนแหล่งกำเนิดแสง EUV

เครื่องพิมพ์ลายวงจรระดับ EUV ของ ASML ในปัจจุบันอาศัย laser-produced plasma (LPP) ซึ่งยิงเลเซอร์ CO₂ เข้าใส่หยดดีบุกให้เดือดกลายเป็นพลาสมาและปล่อยแสงย่าน 13.5 นาโนเมตร แม้กระบวนการจะก้าวหน้าเกินฝันเมื่อสิบปีก่อน

แต่กำลังส่องสว่างครั้งนี้ยังคงติดเพดานอยู่ที่ ≈500 วัตต์ ทำให้ throughput มีลิมิต และการเพิ่มพลังงานต้องแลกกับต้นทุนพลังงานกับน้ำเย็นมหาศาล โลกจึงมองหา ทางลัดเพื่อค้นหา เลเซอร์ที่แรงขึ้น ประหยัดขึ้น และยืดหยุ่นด้านความยาวคลื่น

xLight เสนอ Free-Electron Laser (FEL) ขับเคลื่อนด้วยลินัก (linear accelerator) แบบเดียวกับแหล่งกำเนิดแสงซินโครตรอนใหญ่ ๆ ทว่าออกแบบให้ ยิงตรงเข้าห้องคลีนรูมในโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ แทนที่จะสร้างแสงวิจัยในอุโมงค์หลายกิโลเมตร ผลลัพธ์บนกระดาษคือ

  • 4 เท่ากำลังส่องสว่างเทียบกับ LPP รุ่นสูงสุด
  • ปรับความยาวคลื่นได้ (programmable) เปิดโอกาสสู่ High-NA ลายเล็กกว่า 2 นาโนเมตร
  • ต้นทุนต่อเวเฟอร์ลดสูงสุด 50% เพราะหนึ่งแหล่ง FEL จ่ายแสงให้สแกนเนอร์ ASML ได้ถึง 20 ตัวพร้อมกัน

ฟิสิกส์ของ FEL ในโรงงานชิป

ต้นกำเนิดแสง FEL อาศัยอิเล็กตรอนพลังงานสูงถูกเหวี่ยงในอุปกรณ์แม่เหล็กที่เรียกว่า undulator จนปลดปล่อยโฟตอนออกมาเป็นจังหวะ ทำให้เกิดแสงเลเซอร์ความยาวคลื่นสั้นเกินกว่าที่เลเซอร์แก๊สทั่วไปจะทำได้  กุญแจสำคัญคือ เสถียรภาพของลำอิเล็กตรอน

** ลำอิเล็กตรอน หรือในภาษาอังกฤษว่า Electron Beam (e-beam) คือการพุ่งของอนุภาคอิเล็กตรอนจำนวนมากในทิศทางเดียวกัน ด้วยพลังงานสูง ผ่านสุญญากาศหรือสื่อเฉพาะ **

เรื่องที่ห้องปฏิบัติการแห่งชาติเชี่ยวชาญมานาน xLight จึงจับมือ CLASSE, LANL และ Fermilab นำเทคนิค superconducting RF cavity, cryomodule และ machine-learning มาปรับใช้เพื่อให้ลำอิเล็กตรอนวิ่งตลอด 24 ชั่วโมงในสภาพผลิตจริง

ในเชิงอรรถรส ฟิสิกส์ของ FEL อาจฟังดูเหมือนเนื้อหาในวิชาพลาสมาเชิงทฤษฎี แต่ CEO Nicholas Kelez  อดีตหัวหน้าวิศวกร LCLS ที่ SLAC ย้ำว่าทีมเขาแค่ ย่อไซโคตรอนมาไว้ข้างเครื่องสแกนเนอร์ไม่ใช่สร้างหลอดสุญญากาศยักษ์กลางโรงงานเหมือนที่หลายคนเข้าใจ

มุมภูมิรัฐศาสตร์ของศึกเลเซอร์สหรัฐฯ–จีน

การดึงเทคโนโลยี EUV กลับสหรัฐฯ มีนัยยะเชิงยุทธศาสตร์ เพราะรัฐบาลวอชิงตันสั่งห้าม ASML ขายเครื่อง EUV ให้จีนมาตั้งแต่ 2019 โดยเรียกมาตรการนี้ว่า “export control สำคัญที่สุดของตะวันตก” 

ในอีกฟาก สมาพันธ์ห้องวิจัยจีนเร่งสร้างแหล่งกำเนิดแสงทางเลือก ทั้ง solid-state LPP และ laser-induced discharge plasma (LDP) ภายในปี 2025 กระแสข่าวลือการทดสอบต้นแบบที่โรงงาน Huawei ยิ่งกระตุกตลาดหุ้นอุปกรณ์ลิธอกราฟีทั่วโลก

ในบริบทนี้ xLight จึงเป็นเสมือนไพ่คืนบัลลังก์ ของอเมริกาหลังยุค Cymer ถูก ASML ซื้อกิจการเมื่อ 2013 Pat Gelsinger กล่าวว่า “การปล่อยให้ Cymer หลุดมือคือความผิดพลาดครั้งใหญ่”การตั้ง xLight จึงเท่ากับตีตื้นช่องว่างรอบใหม่ในเวลาที่วิกฤตรัฐบาล–ตลาดชิปส่อขยายผลระยะยาว

xLight วางหมุดหมายว่าเครื่องต้นแบบจะยิงแสงบนเวเฟอร์จริงช่วง 2028 ขั้นตอนต่อจากนี้จึงแบ่งคร่าว ๆ ออกเป็นสามช่วงใหญ่คือ การออกแบบละเอียด (detailed design) การประกอบระบบย่อย (system integration) และการรันทดลองเชิงอุตสาหกรรม (fab pilot)

โดยมี ASML เข้ามาให้คำปรึกษาด้านอินเตอร์เฟซกับสแกนเนอร์รุ่นปัจจุบัน ถ้าเป็นไปตามโรดแมป เป็นไปได้ว่าเทคโนโลยี FEL ของ xLight จะเดินเคียง EUV High-NA ที่ ASML กำลังเร่งขึ้นสายการผลิตเชิงพาณิชย์เช่นกัน

ผลกระทบเศรษฐกิจชิปต้นทุนลด 50% และมีพลังสูงขึ้น 4 เท่า

สำหรับผู้ผลิตชิป ต้นทุนจริงอยู่ที่ต้นกำเนิดแสงมากกว่าเครื่องสแกนเนอร์ หาก xLight ทำได้ตามสเปก โรงงานหนึ่งอาจลดค่าไฟ ค่าน้ำหล่อเย็น และค่าอุปกรณ์สิ้นเปลืองได้กว่าครึ่ง เพราะ FEL ไม่ต้องยิงเลเซอร์ CO₂ พลังสูงใส่ดีบุก 50,000 ครั้งต่อวินาที 

ผลคือสิ้นเปลืองดีบุกเป็นศูนย์ ลดโลจิสติกส์สารเคมี และปล่อยความร้อนน้อยลง ยิ่งทุกวันนี้โรงงานผลิตชิปกำลังเร่งลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เป้าหมาย efficiency 5X ของ xLight จึงตอบโจทย์กระแส ESG อย่างตรงเผง

เมื่อฟิสิกส์อาจเป็นสายธารวิจัยสู่โรงงาน

วงการเลเซอร์รู้ดีว่า Free-Electron Laser ไม่ใช่แนวคิดใหม่ แต่อดีตเคยถูกมองว่า ‘ใหญ่เกินไป แพงเกินไป’ สำหรับแอปพลิเคชันเชิงพาณิชย์ xLight จึงเหมือนการถอดบทเรียนกว่าครึ่งศตวรรษจากห้องทดลองฟิสิกส์อนุภาค มาย่อส่วนให้เข้าระบบผลิตชิป 

จุดพลิกเกมอยู่ที่วิศวกรรมระบบสุญญากาศ-แม่เหล็ก-ซูเปอร์คอนดักเตอร์และซอฟต์แวร์ควบคุมจักรวาลอิเล็กตรอน ซึ่งทั้งหมดต่างก้าวหน้าอย่างหวือหวาในช่วงทศวรรษหลัง


Logo-Company
Logo-Company
Logo-Company
logo-company
Pisit Poocharoen
Former field engineer seeking to break free from traditional learning frameworks. อดีตวิศวกรภาคสนามที่ต้องการหลุดออกจากกรอบการเรียนรู้แบบเดิม ๆ
ลงทะเบียนร่วมงาน Automation Expo