VEGA Instrument
songkhla seafood processing industry sustainability

สงขลาเมืองบทความ อาหารทะเลแปรรูปไทย หัวใจเศรษฐกิจภาคใต้

Date Post
14.10.2025
Post Views

สงขลา เมืองแห่งอาหารทะเลสดใหม่และศูนย์กลางอุตสาหกรรมแปรรูป

อุตสาหกรรมอาหารทะเลแปรรูปของประเทศไทยนับเป็นหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นเมืองชายทะเลที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารทะเลสดใหม่ อุตสาหกรรมนี้กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีผลิตภัณฑ์แปรรูปที่ได้รับความนิยมอย่างสูงทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นกุ้งแช่แข็ง, ปลาแช่แข็ง, ปลาหมึกแห้ง, ไปจนถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปสำเร็จรูปอื่น ๆ การพัฒนาและเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารทะเลแปรรูปของไทยนั้นนับว่ามีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจของประเทศ

การพัฒนาโรงงานแปรรูปอาหารทะเลในไทยมีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ผู้ผลิตมีการปรับปรุงโรงงานให้ทันสมัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบัน ผู้ผลิตหลายรายเริ่มเน้นหนักไปที่การผลิตอาหารสำหรับร้านชาบู หรือร้านอาหารต่าง ๆ ที่ต้องการคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่สม่ำเสมอ นอกจากนี้ ยังมีการขยายไลน์การผลิตไปสู่ อาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน (Ready-to-eat) และในอนาคตอันใกล้ก็มีการวางแผนที่จะทำ อาหารสัตว์ ด้วย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ผู้ผลิตไทยกำลังให้ความสำคัญและถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการค้าขายในปัจจุบันและอนาคตคือ ความยั่งยืน (Sustainability)

ความยั่งยืนที่จับต้องได้: โซลาร์ฟาร์มและระบบบำบัดน้ำระดับโลก

การพัฒนาสู่ความยั่งยืนของผู้ประกอบการไทยมีการลงทุนอย่างจริงจังในหลายมิติ โดยเฉพาะด้านพลังงานและการจัดการสิ่งแวดล้อม

ในด้านพลังงานไฟฟ้า โรงงานได้มีการติดตั้ง โซลาร์รูฟ (Solar Roof) บนหลังคาเต็มพื้นที่ การลงทุนครั้งแรกมีขนาดประมาณ 3 เมกะวัตต์ และเมื่อรัฐบาลมีนโยบายช่วยเหลือด้านการลงทุน ก็ได้มีการลงทุนเพิ่มอีก 3 เมกะวัตต์กว่า การติดตั้งโซลาร์รูฟเต็มรูปแบบนี้ช่วยให้โรงงานสามารถลดค่าไฟฟ้าลงได้เกือบ 3 ล้านบาทต่อเดือน ผู้ประกอบการยังคงจับตามองความก้าวหน้าของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ เพราะหากในอนาคตมีแบตเตอรี่ที่เก็บพลังงานได้สูงขึ้น ก็พร้อมที่จะลงทุนเพิ่มเพื่อสร้างฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับเก็บไว้ใช้ในช่วงกลางคืนได้ การทำโซลาร์รูฟขนาดเต็มพื้นที่เช่นนี้ยังถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหม่ในอุตสาหกรรมโรงงานในอดีต แต่ปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในหลักการของความยั่งยืนที่สำคัญ

นอกจากนี้ การจัดการเรื่อง น้ำเสีย ก็เป็นสิ่งที่ได้รับการลงทุนอย่างมาก มีการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงระบบบำบัดน้ำเสียอย่างต่อเนื่อง จนสามารถจัดการได้ดี ซึ่งต้องใช้เวลาถึง 3-4 ปี กว่าจะเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม โรงงานที่ใช้ระบบบำบัดน้ำได้ดีจะไม่มีกลิ่นเหม็นรบกวนชุมชนเลย ซึ่งถือเป็นตัวอย่างที่ดีในการประกอบธุรกิจโดยไม่กระทบต่อชาวบ้าน

การสร้างมูลค่าเพิ่มจากของเสีย: โปรตีนจากแมลง

ความยั่งยืนอีกมิติหนึ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือการจัดการ เศษเหลือ (Waste) ที่เกิดจากกระบวนการผลิต เดิมทีเศษชิ้นปลาหรือเศษเหลือจากการผลิตเหล่านี้ถือเป็นขยะที่ต้องขนออกไปทิ้งนอกโรงงาน และอาจทำให้เกิดปัญหาภาวะโลกร้อนได้ แต่ปัจจุบัน ผู้ประกอบการได้เปลี่ยนเศษเหลือเหล่านี้ให้เกิดมูลค่าเพิ่มอย่างมหาศาล

โรงงานได้มีการสร้าง โรงเลี้ยงแมลง เพื่อนำเศษชิ้นปลาและเศษผลิตภัณฑ์ในสายการผลิตมาใช้เป็นอาหารเลี้ยงแมลง เศษอาหารเหล่านี้มี โปรตีนสูง เนื่องจากทำมาจากเนื้อปลา การเลี้ยงแมลงที่กินโปรตีนสูงจึงทำให้แมลงที่ได้มีปริมาณโปรตีนสูงตามไปด้วย การเลี้ยงแมลงชนิดนี้ใช้ระยะเวลาเพียง 14 วันก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ และที่สำคัญคือ ปล่อยคาร์บอนน้อยกว่า การเลี้ยงสัตว์ประเภทไก่หรือวัว และไม่ปล่อยก๊าซมีเทน ทำให้ได้โปรตีนคุณภาพสูงในเวลาอันสั้น

นอกจากตัวแมลงที่โตเต็มที่แล้ว ทุกส่วนของวงจรชีวิตของแมลงยังสามารถสร้างมูลค่าได้ เมื่อแมลงเริ่มเข้าสู่ระยะตัวเต็มวัย มันจะเข้าแคปซูลหรือดักแด้ก่อน และแม้แต่ ไข่ของแมลง ก็มีราคาสูงมาก ไข่แมลงสามารถขายได้ในราคาถึง 10 บาทต่อกรัม หรือ 10,000 บาทต่อกิโลกรัม ไข่เหล่านี้สามารถนำไปเพาะเลี้ยงต่อ หรืออาจขายให้กับผู้ที่เลี้ยงปลาสวยงามเพื่อใช้เป็นอาหารปลา เมื่อแมลงวางไข่และตายลง (มีอายุเพียง 7 วัน) ซากของมันก็จะถูกกวาดไปเลี้ยงปลาหรือเลี้ยงไก่ต่อได้

ในอดีต เศษชิ้นปลาเหล่านี้หากนำไปขายเป็นอาหารไก่หรืออาหารปลา จะได้ราคาเพียง 3-4 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น แต่เมื่อนำมาเลี้ยงแมลง มูลค่าของมันสามารถเพิ่มขึ้นได้เป็น 100 เท่า การจัดการเศษเหลือในลักษณะนี้จึงเป็นการสร้างประโยชน์อย่างครบวงจรและยั่งยืน

นวัตกรรมผลิตภัณฑ์และมาตรฐานที่ไม่ยอมประนีประนอม

ผู้ผลิตไทยไม่ได้หยุดอยู่แค่การผลิตปลาบด (Surimi) ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ใช้ทำผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป แต่ได้พัฒนามาทำสินค้าสำเร็จรูปเองเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและควบคุมคุณภาพอย่างครบวงจร นี่คือแนวคิดที่ก้าวหน้าอย่างมากเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว

ผลิตภัณฑ์ที่เป็นไฮไลต์และเป็นนวัตกรรมของไทยมีหลายชนิด เช่น:

  • ลูกชิ้นสไตล์ภูเก็ต: ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ทำให้ลูกชิ้นที่นำไปแช่แข็ง (Freeze) แล้วนำมาอุ่นทานอีกครั้ง ไม่เป็นรูพรุน และมีเนื้อสัมผัส (Texture) ไม่เสีย ลูกชิ้นที่ผ่านการแช่แข็งแล้วยังมีรสชาติอร่อยเหมือนของสดใหม่ถึง 90%
  • เต้าหู้ชีส: ผู้ผลิตไทยเป็นเจ้าแรกของโลกที่พัฒนาเต้าหู้ปลา และได้ต่อยอดเป็นเต้าหู้ชีส ซึ่งมีชีสอยู่ข้างใน ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มวัยรุ่น และยังมีไส้อื่น ๆ เช่น เต้าหู้เห็ดด้วย
  • ปูอัด: ปัจจุบัน ปูอัดที่ผลิตในไทยมีคุณภาพสูงเทียบเท่ากับของญี่ปุ่น ผู้ผลิตไทยยังเป็นผู้บุกเบิกที่ทำให้ราคาปูอัดลดลงจากกิโลกรัมละ 400 บาท (ที่นำเข้าจากญี่ปุ่น) เหลือไม่เกิน 150 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้คนไทยสามารถบริโภคผลิตภัณฑ์นี้ได้อย่างแพร่หลายทั่วประเทศ

เทคโนโลยีการผลิตที่ใช้ในโรงงานนั้นถือว่าทันสมัยมาก และมีแผนที่จะผสมผสานเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ในการทำงานในอนาคตด้วย หลักการทำงานของผู้ผลิตคือการเชิญลูกค้าต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นจากยุโรปหรืออเมริกา เข้ามาดูขั้นตอนการผลิตและมาตรฐานที่โรงงานด้วยตนเอง เพราะการที่ลูกค้ามาเห็นกระบวนการทำงานจริงที่มีคุณภาพ จะทำให้การเจรจาธุรกิจง่ายขึ้นและใช้เวลาเพียงสั้น ๆ

ผู้ผลิตอาหารทะเลแปรรูปไทยเชื่อมั่นว่า อาหารและการเกษตรอุตสาหกรรม คือสิ่งที่ทำให้ประเทศไทยสามารถอยู่รอดและมั่นคงได้ เนื่องจากไทยมีวัตถุดิบที่ดี แต่สิ่งที่ยังขาดคือการวิจัยและพัฒนา (R&D) ในด้านการเกษตร รัฐบาลควรส่งเสริมเกษตรอุตสาหกรรมและใช้ Soft Power คืออาหารไทยเป็นตัวชูโรง เพราะประเทศไทยไม่สามารถแข่งขันด้านเทคโนโลยีระดับสูงกับชาติมหาอำนาจได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดในปัจจุบันคือการปฏิบัติตาม กติกาโลกที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น ข้อกำหนดด้านความยั่งยืน หากซัพพลายเออร์ไม่ปรับตัวตาม ลูกค้าต่างชาติก็จะไม่ซื้อสินค้า อุตสาหกรรมอาหารทะเลแปรรูปของไทยจึงก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างครอบคลุม


Source : อุตสา หาทำ ตอนที่ 13 อาหารทะเลแปรรูปของไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก

Logo-Company
Logo-Company
Logo-Company
logo-company
Teera Kittiteerapornchai
Data is head. Content is heart. My mission is to create the 'Intelligent Industrial Media Platform' which is powered by Data x Contents. Teera Kittiteerapornchai Contents Director & CEO of GREENWORLD
Super Source-E-market place สำหรับสินค้าอุตสาหกรรม