‘ภาวะวิกฤต’ เมื่อสินค้าต่างชาติหลั่งไหลท่วมตลาดไทย
ในปัจจุบัน สถานการณ์ที่สินค้าจากต่างประเทศหลั่งไหลเข้าสู่ประเทศไทยอย่างมากมายนั้น ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคอุตสาหกรรมการผลิตภายในประเทศ ผลิตภัณฑ์ต่างชาติบางส่วนใช้ไทยเป็นเพียงทางผ่านในการส่งออกไปยังประเทศอื่น ผลิตภัณฑ์ต่างชาติบางส่วนใช้ไทยเป็นฐานการผลิตแต่ใช้ทรัพยากรจากประเทศต้นทาง ในรูปแบบ อุตสาหกรรม 0 เหรียญ แต่สิ่งที่ตามมาคือการแข่งขันด้านราคาและการกดดันให้ผู้ประกอบการไทยต้องลดต้นทุน หากสถานการณ์เช่นนี้ยังคงดำเนินไปอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง อาจนำไปสู่การปิดตัวของโรงงานอุตสาหกรรม การเลิกจ้าง และการสูญเสียโอกาสในการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศอย่างถาวร ผลลัพธ์ที่น่ากังวลคือประเทศไทยอาจต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเพียงอย่างเดียว จนไม่มีศักยภาพในการผลิตเหลืออยู่เลย
คำถามสำคัญที่เกิดขึ้นคือ ผู้ประกอบการและคนไทยจะรับมือกับสถานการณ์นี้ได้อย่างไร แนวทางที่ถูกนำเสนอเพื่อแก้ไขปัญหานี้มีสามประการหลัก ได้แก่:
- ผู้ประกอบการต้องพัฒนาสินค้าให้มีคุณค่าและความแตกต่าง ในสายตาของผู้ซื้อให้ได้
- คนไทยต้องหันมาส่งเสริมและสนับสนุนสินค้าที่ผลิตโดยคนไทย โดยเฉพาะสินค้าที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Made in Thailand (MiT) จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
- ภาครัฐต้องให้การสนับสนุนและให้แต้มต่อในการจัดซื้อสินค้าที่ได้รับการรับรอง MiT
MiT: ใบรับรองความเชื่อมั่นและการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ
ใบรับรอง Made in Thailand (MiT) คือใบรับรองที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยออกให้กับผู้ประกอบการที่ยื่นคำขอและมีคุณสมบัติครบถ้วนในการผลิตสินค้าตามหลักเกณฑ์ Asian Content โดยต้องใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศไทย การรับรองนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำธุรกิจของผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะในการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ
ผู้ประกอบการที่ได้รับใบรับรอง MiT จะสามารถนำไปใช้ในการขอเข้าสู่การจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ และจะได้รับ แต้มต่อ 5% ยิ่งไปกว่านั้น หากผู้ประกอบการรายนั้นยังได้รับใบรับรอง SME GP จาก สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ก็จะได้รับแต้มต่อเพิ่มอีก 10% ทำให้ผู้ประกอบการได้แต้มต่อรวมเป็น 15% การได้รับแต้มต่อเหล่านี้ถือเป็นการเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจอย่างมาก
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยผลักดันนโยบาย MiT มาโดยตลอด ด้วยความเชื่อมั่นว่าการส่งเสริมให้มีการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศไทยจะเป็นการเสริมสร้างรากฐานและความแข็งแรงของอุตสาหกรรมภายในประเทศ และยังช่วยลดการพึ่งพิงการใช้สินค้านำเข้าซึ่งอาจมีความไม่แน่นอน การใช้สินค้า MiT เป็นการช่วยส่งเสริม เศรษฐกิจหมุนเวียน ของประเทศ ตั้งแต่ห่วงโซ่การผลิตต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทำให้เกิดการจ้างงาน การสร้างรายได้ และการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจที่ดีต่อประเทศ
การขยายผลสู่ทุกภาคส่วน และประโยชน์ที่ได้รับอย่างครบวงจร
ปัจจุบัน สภาอุตสาหกรรมฯ ไม่เพียงแต่ส่งเสริมให้มีการใช้สินค้า MiT ในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐเท่านั้น แต่ยังพยายามผลักดันให้มีการขยายผลไปสู่ระดับ B2B (ภาคผู้ผลิตถึงธุรกิจด้วยกันเอง) และระดับ B2C (ผู้บริโภค) นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมให้นำสินค้า MiT ไปขายในต่างประเทศผ่านทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศด้วย
ปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรอง MiT แล้วมากกว่า 5,000 ราย และครอบคลุมรายการสินค้ามากกว่า 60,000 รายการ ในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดย 5 อันดับแรกของกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับการรับรองมากที่สุด ได้แก่ วัสดุก่อสร้าง, เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องปรับอากาศ, และปูนซีเมนต์ นอกจากนี้ยังมีสินค้าอื่น ๆ เช่น เครื่องมือทางการแพทย์และเครื่องนุ่งห่ม
จากการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐในปีงบประมาณล่าสุด จากมูลค่าสัญญาทั้งหมดเกือบ 600,000 ล้านบาท เป็นการจัดซื้อโดยใช้สินค้า MiT เกือบ 34,000 ล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นว่ายังสามารถส่งเสริมให้มีการใช้สินค้า MiT ได้ในมูลค่าที่สูงขึ้นไปอีก
ประโยชน์ที่ได้รับจาก MiT สามารถแบ่งได้เป็นสองกลุ่มหลัก:
- กลุ่มผู้ได้รับใบรับรอง MiT เอง: สามารถนำใบรับรองไปยื่นประมูลและได้รับแต้มต่อ 5%
- ภาครัฐ: จะได้รับความมั่นใจว่าสินค้าและบริการที่ซื้อมาจากผู้ผลิตที่ได้รับใบรับรอง MiT คือสินค้าที่ผลิตในประเทศไทยอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ยังมี ประโยชน์ทางอ้อม ต่อผู้ผลิตต้นน้ำ โดยแม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้ขายสินค้าปลายทาง แต่ก็สามารถยื่นขอใบรับรอง MiT ได้ เพื่อให้ผู้ผลิตกลางน้ำสามารถนำสินค้าของตนไปแปรสภาพต่อได้ ซึ่งจะช่วยให้เกิดการหมุนเวียนในห่วงโซ่การผลิต (Supply Chain) และเกิดการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ
ตัวอย่างผู้ประกอบการ MiT: คุณภาพและความเชื่อมั่นของสินค้าไทย
ผู้ประกอบการที่ได้รับใบรับรอง MiT ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าสินค้าไทยมีคุณภาพและมาตรฐานที่สามารถแข่งขันกับสินค้าจากต่างประเทศได้
1. บริษัท BL Technology จำกัด (ยานพาหนะชนิดพิเศษ) บริษัทนี้เชี่ยวชาญในการออกแบบและผลิตตัวถังยานพาหนะชนิดพิเศษ เช่น รถดับเพลิงชนิดพิเศษ รถบรรทุกขยะชนิดอัดท้าย และรถเครนติดกระเช้าซ่อมไฟฟ้า ลูกค้าหลักคือหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ วัตถุดิบหลักที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นเหล็กที่ผลิตในประเทศ และซัพพลายเออร์ที่เลือกใช้ส่วนใหญ่ก็ได้รับมาตรฐาน MiT บริษัทได้ยื่นขอ MiT สำหรับทุกผลิตภัณฑ์และทุกตัวก็ได้รับการรับรองทั้งหมด การมีตราสัญลักษณ์ MiT ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความมั่นใจให้กับลูกค้าภาครัฐ และยังเป็นประโยชน์ในการใช้สิทธิ์พิเศษในการยื่นประมูล การที่สินค้าผลิตในประเทศยังเป็นข้อดีในเรื่องของการ Maintenance เพราะวัสดุในการประกอบสามารถหาได้ภายในประเทศ
2. บริษัท Graph Tech (ถุงมือและชุดความปลอดภัย) บริษัท Graph Tech เป็นผู้ผลิตถุงมือและอุปกรณ์ความปลอดภัยส่วนบุคคล เช่น ถุงมือกันมีด ชุดกันไฟสำหรับแท่นขุดเจาะน้ำมัน และชุดนักบิน ซึ่งถือเป็นผู้ผลิตชุดนักบินรายแรกของเมืองไทยที่แข่งขันได้อย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ บริษัทเชื่อมั่นว่าสินค้าไทยไม่ได้เป็นรองใครในโลก ทั้งในด้านคุณภาพและมาตรฐาน การได้รับเครื่องหมาย MiT ทำให้บริษัทมีลูกค้ากลุ่มภาครัฐ และกลุ่มโรงพยาบาลเพิ่มมากขึ้น และยังเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในโซนอาเซียน ทำให้การค้าขายง่ายขึ้น ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้น ผู้บริหารของ Graph Tech เน้นย้ำว่า งบประมาณจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่มีมูลค่าหลายแสนล้านต่อปีนั้น ควรถูกนำมาสนับสนุนสินค้าไทยเป็นหลัก
3. บริษัท เรืองวา Standard Industry (ผลิตภัณฑ์พลาสติก) บริษัทนี้ผลิตสินค้าพลาสติก เครื่องใช้ในครัวเรือน บรรจุภัณฑ์อาหาร และรังอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับ MiT มักเป็นหมวดที่ขายให้กับโรงพยาบาลและภาครัฐ เช่น ถังขยะและหน้ากากออกซิเจน ใบรับรอง MiT ทำให้บริษัทสามารถยื่นสินค้าเข้าไปอยู่ในรายชื่อสินค้าที่ฝ่ายจัดซื้อของหน่วยงานภาครัฐสนับสนุน การขอใบรับรอง MiT ไม่ได้ยุ่งยาก และใช้เอกสารหลักฐานเกี่ยวกับวัตถุดิบและขั้นตอนการผลิตซึ่งส่วนใหญ่เป็นการผลิตในโรงงานเองอยู่แล้ว ใบรับรองนี้สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าภาครัฐ และลูกค้าเอกชนที่สนับสนุนโครงการ MiT นอกจากนี้ ลูกค้าต่างประเทศก็มีความมั่นใจในสินค้าที่ผลิตในประเทศไทยมากขึ้นด้วย โครงการ MiT ถือเป็นโครงการที่ดีที่ทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศ และเป็นกำลังใจให้ผู้ประกอบการชาวไทยพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพ เพื่อแข่งขันกับสินค้าทั้งในและต่างประเทศได้
Industrial Key Success
ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการ MiT ไม่ต้องกังวล หากเป็นผู้ประกอบการไทยที่มีกระบวนการผลิตหรือใช้วัตถุดิบในไทยจริง ทีมงาน Made in Thailand และ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พร้อมให้คำแนะนำอย่างดี และขั้นตอนการขอใบรับรองก็ไม่ยุ่งยาก
ภาพรวมอุตสาหกรรมและสินค้าของประเทศไทยมีศักยภาพที่ไม่ได้แพ้สินค้าของประเทศอื่น การร่วมมือกันระหว่างประชาชน, ผู้ประกอบการ, และภาครัฐ ในการสนับสนุนสินค้าของคนไทยและสินค้า MiT จะเป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการขับเคลื่อน และส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศได้อย่างยั่งยืน
Source : อุตสา หาทำ ตอนที่ 15 “ ทำไม MiT ถึงสำคัญในยุคนี้ ? ”
