UltiMaker Factor 4 เครื่องพิมพ์ 3 มิติเกรดอุตสาหกรรม ที่มีอัตราทำงานสำเร็จสูงถึง 95%

Metro Systems Corporation Public Company Limited เปิดตัวเครื่องพิมพ์ 3 มิติรุ่นใหม่ UltiMaker Factor 4 ซึ่งถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานในภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ ทั้งยังมีคุณสมบัติที่เหมาะกับความต้องการและเงื่อนไขในอุตสาหกรรมของประเทศไทย มีจุดเด่นที่ใช้งานง่ายและมีความครบครัน ทั้งยังสะดวกต่อการใช้งานภายใต้เงื่อนไขของอุตสาหกรรมยุค 4.0 ที่ให้ความสำคัญกับข้อมูลอีกด้วย

Summary:

• UltiMaker Factor 4 มีอัตราความสำเร็จในการพิมพ์สูงถึง 95%
• ถูกออกแบบมาบนแนวคิด User Friendly ทำให้ใช้งานและซ่อมบำรุงได้ง่ายแม้จะเป็นตัว User เอง
• รองรับวัสดุที่พิมพ์ด้วยเทคโนโลยี FDM ได้หลากหลายด้วยอุณหภูมิสูงสุด  340 องศาเซลเซียส
• รองรับการพิมพ์วัสดุต่างชนิดเข้าด้วยกันในหนึ่งชิ้นงานได้
• สามารถผลิตชิ้นส่วนที่มีความยืดหยุ่นสูงและคืนตัวคล้ายยางได้
• มี Ecosystem ของการใช้งานที่ครอบคลุมทั้งซอฟต์แวร์ วัสดุ และฟีเจอร์รายงานข้อมูลยุค 4.0

นึกถึงเครื่องพิมพ์ 3 มิติสำหรับโรงงานที่ใช้งานง่าย นึกถึง UltiMaker จาก Metro Systems

เพื่อให้เข้าใจถึงความท้าทายและ Pain Point ของการใช้งานเครื่องพิมพ์ 3 มิติในโรงงานมากขึ้น คุณณัฐพล เนตรมุกดา Assistant Vice President, Design & Engineering Solution Department บริษัท Metro Systems Corporation Public Company Limited ได้เล่าถึงความท้าทายหลักเอาไว้ ดังนี้ “ต้องยอมรับว่าการรับรู้ของผู้ประกอบการหรือคนวงการอุตสาหกรรมเองเขายังมองว่าการผลิตแบบเดิม ๆ เช่น CNC ยังมีประโยชน์กว่าการพิมพ์ 3 มิติ ประเด็นต่อมา คือ เรื่องของทักษะและเทคนิคต่าง ๆ ของแรงงานที่อาจจะยังไม่ได้สูงนัก เพราะการพิมพ์ 3 มิตินั้นมีรูปแบบและความเข้าใจที่แตกต่างออกไปจากความคุ้นชินแบบเดิม และท้ายที่สุดเป็นเรื่องของวัสดุซึ่งคนมักเข้าใจกันว่าเครื่องพิมพ์ 3 มิตินั้นมีแค่พลาสติกเท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเครื่องพิมพ์ 3 มิตินั้นช่วยงานการผลิตได้ไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างชิ้นงานที่มีโครงสร้างซับซ้อนซึ่งการผลิตแบบอื่นไม่สามารถทำได้ หรือในเรื่องของวัสดุที่มีตัวเลือกให้ใช้อย่างหลากหลาย สำหรับเรื่องของทักษะเองเป็นเรื่องที่เรียนรู้กันได้ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาและการพูดคุยผ่านชุมชนออนไลน์ต่าง ๆ ตลอดจนการอบรมหลักสูตรอย่างเป็นทางการของ UltiMaker ที่ Metro Systems บริษัทที่ได้รับการรับรองให้เป็นผู้ฝึกสอนอบรมอย่างเป็นทางการสำหรับการพิมพ์ 3 มิติอีกด้วย”

ผลลัพธ์จากการใช้งานเครื่องพิมพ์ 3 มิตินั้นมีจุดเด่นอยู่ที่การลดต้นทุนและ Lead Time ที่เกิดขึ้นสำหรับการผลิตต้นแบบ ยกตัวอย่างการผลิตกล่องฟิวส์ต้นแบบที่จะส่งผลต่ออุปกณ์โดยรอบที่เกี่ยวข้อง เดิมทีต้องมีต้นทุนสำหรับต้นแบบประมาณ 200 ดอลลาร์สหรัฐ ฯ ต่อชิ้น และหากต้องจ้างหน่วยงานภายนอกผลิตต้นแบบอาจต้องใช้เวลาถึง 2-3 สัปดาห์ ยังไม่รวมถึงการออกแบบชิ้นส่วนที่ผิดพลาดและต้องทำต้นแบบใหม่จนกว่าผลลัพธ์จะลงตัว ซึ่งในกรณีของเครื่องพิมพ์ 3 มิตินั้น ต้นทุนจะลดลงมาอยู่ที่ 49 ดอลลาร์สหรัฐ ฯ ต่อชิ้น หรือลดลงมากว่า 75% ในขณะที่ Lead Time ลดลงมาอยู่ที่ 26 ชั่วโมงเท่านั้น

ในมุมของผู้ประกอบการเองเมื่อต้องมองถึงต้นทุนและมูลค่าของการพิมพ์ 3 มิติสมัยก่อนซึ่งมีมูลค่าสูง บางครั้งเครื่องอาจจะไม่เหมาะกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมของ Shop Floor ไปจนถึงเครื่องที่ดูใช้งานยุ่งยาก ไม่ว่าจะเป็นการดูแลรักษา การตั้งค่าทั้งหลาย ทำให้เกิดคำถามถึงความคุ้มค่าในการใช้งานขึ้นมา UltiMaker จึงได้แก้ปัญหา Pain Point ที่เกิดขึ้น ด้วยการออกแบบให้ใช้งานได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นผู้มีประสบการณ์เชี่ยวชาญหรือมือใหม่ ตลอดจนการออกแบบเครื่อง Desktop ที่สามารถติดตั้งใช้งานได้ง่าย ไม่ว่าจะในสำนักงานหรือในพื้นที่การผลิตก็สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและปลอดภัย ซึ่ง UltiMaker Factor 4 ได้รวบรวมเอานวัตกรรมและโซลูชันอันหลากหลายของเครื่องพิมพ์ 3 มิติจาก UltiMaker เอาไว้ในเครื่องเดียวได้อย่างลงตัว

UltiMaker Factor 4 เครื่องพิมพ์ 3 มิติ FDM ที่ถูกออกแบบอย่างตั้งใจตั้งแต่ฟีเจอร์ไปจนถึง Ecosystem

หากใครที่พอคุ้นเคยกับแบรนด์เครื่องพิมพ์ 3 มิติอยู่บ้างต้องรู้จักชื่อของ UltiMaker อย่างแน่นอน ในฐานะแบรนด์ที่มีความโดดเด่นและซอฟต์แวร์สำหรับ Slicing ที่เปิดให้ใช้งานกันได้อย่างกว้างขวางสำหรับงาน Additive Manufacturing อย่าง Cura และในวันนี้ UltiMaker เปิดตัวเครื่องพิมพ์ 3 มิติ FDM (Fused Deposition Modeling) รุ่นใหม่สำหรับโรงงานที่รวมเอานวัตกรรมสำหรับการพิมพ์ที่ใช้งานได้ง่ายและมีประสิทธิภาพอย่าง UltiMaker Factor 4 ครั้งแรกในประเทศไทยภายใต้การดูแลของ Metro Systems เราจึงได้พูดคุยกับคุณ Chevy Kok, Vice President Asia-Pacific บริษัท UltiMaker เกี่ยวกับฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ UltiMaker Factor 4 และโซลูชันที่สนับสนุนการทำงานรอบด้านจาก UltiMaker

“สิ่งที่แบ่งแยกเครื่องพิมพ์ 3 มิติเกรดอุตสาหกรรมและเครื่องพิมพ์ 3 มิติทั่วไปออกจากกัน คือ ศักยภาพในการทำงานซ้ำ (Repeatability) ความเชื่อมั่นในการใช้งาน (Reliability) และความแม่นยำ (Accuracy) การพัฒนา UltiMaker Factor 4 จึงตั้งอยู่บนพื้นฐานของสิ่งเหล่านี้ที่ผสมผสานกับแนวคิดของ UltiMaker ที่ต้องการทำให้เกิดการพิมพ์ 3 มิติได้ในพื้นที่ท้องถิ่นที่ต้องการในรูปแบบของ Digital Factory ที่เพิ่มความคล่องตัวในระดับสูงใน Shop Floor ด้วยการผสมผสานฟีเจอร์ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ทำให้อัตราประสบความสำเร็จในการพิมพ์สูงถึง 95% โดยประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับธุรกิจจะเป็นการลด Lead Time ได้อย่างมหาศาลรวมถึงต้นทุนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง” คุณ Chevy Kok ได้ชี้ให้เห็นความแตกต่างของเครื่องพิมพ์ 3 มิติทั่วไปกับเครื่องพิมพ์ 3 มิติเกรดโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งในกรณีของ UltiMaker Factor 4 มีความน่าสนใจ ดังนี้

คุณภาพและความรวดเร็วในการพิมพ์ระดับสูง

ด้วยการออกแบบ H Bridge Gantry สำหรับการพิมพ์ให้มีความเสถียรและราบเรียบในการใช้งานสูง UltiMaker Factor 4 ทำให้พิมพ์งานได้อย่างละเอียด แม่นยำ และมีความเร็วเพิ่มขึ้น 1.5 – 2.5 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับโครงสร้างแบบอื่น นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับความสามารถในการควบคุมอุณหภูมิใน Chamber สำหรับพิมพ์และฐานพิมพ์เพื่อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับวัสดุ ในขณะที่พื้นที่จัดเก็บ Filament ถูกควบคุมความชื้นให้อยู่ต่ำกว่า 15% RH ซึ่งจะช่วยยืดอายุและควบคุมคุณภาพวัสดุให้อยู่ในสภาพดีเยี่ยมตลอดเวลา

รองรับวัสดุหลากหลายและวัสดุใหม่อย่างคาร์บอนไฟเบอร์

หนึ่งในความโดดเด่นของเครื่องพิมพ์ 3 มิติจาก UltiMaker คือ ระบบหัวพิมพ์เฉพาะที่เรียกว่า Print Core ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนและใช้งานได้ง่าย โดย UltiMaker Factor 4 รองรับ Print Core รุ่น AA, BB, CC, DD และ HT ครอบคลุมตั้งแต่ TPU, PC, ABS, โลหะอย่างสเตนเลส, คอมโพสิต, เซรามิก และวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์รุ่นใหม่อย่าง PPS-CF ซึ่งตัว Print Core เองจะมีการบันทึกข้อมูลการพิมพ์และระยะเวลาที่ใช้เพื่อแสดง Life Cycle และ Log ของการทำงานที่สามารถเข้าถึงได้ผ่านหน้าเครื่องอย่างง่ายดาย UltiMaker Factor 4 รองรับ Filament สูงสุด 6 ม้วน (6 กิโลกรัม) โดยตัวเครื่องสามารถเลือกวัสดุสีเดียวกันได้อัตโนมัติหากวัสดุเดิมหมด ทำให้เกิดการทำงานได้อย่างต่อเนื่อง และอีกหนึ่งจุดเด่นจาก UltiMaker ในเรื่องของวัสดุนั้นอยู่ที่ Marketplace ที่มีวัสดุกว่า 200 ชนิดที่เชื่อถือได้จากพันธมิตรและ UltiMaker เองให้สามารถเลือกใช้ได้อย่างหลากหลาย

สามารถพิมพ์วัสดุที่แตกต่างกันได้ด้วยหัวพิมพ์คู่

จุดเด่นของ UltiMaker Factor 4 คือ การผสมผสานวัสดุต่างชนิดเข้าด้วยกันด้วยฟีเจอร์ Interlocking Joint ผ่านซอฟต์แวร์ UltiMaker Cura ที่จะทำการพิมพ์วัสดุ 2 ชนิดสลับกันไปทีละชั้น ทำให้เนื้อวัสดุทั้งสองหลอมเหลวเป็นเนื้อเดียวกัน สร้างความแข็งแรงระหว่างวัสดุสองชนิดด้วยหัวพิมพ์คู่ที่เลือกใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การผลิต EOAT ที่ต้องการโครงสร้างที่แข็งแรงแต่พื้นที่สัมผัสกับผลิตภัณฑ์ต้องการความยืดหยุ่นและอ่อนนุ่ม เป็นต้น

สนับสนุนการดำเนินงานตามแนวคิดอุตสาหกรรม 4.0

UltiMaker Factor 4 มาพร้อมกับบริการทำรายงานเกี่ยวกับโครงสร้างและการประเมินชิ้นงานแบบ Onboard ซึ่งเป็นข้อมูลเชิงลึกถึงค่าต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างการพิมพ์ผ่านเซนเซอร์ในเครื่องเพื่อยืนยันการทำงานของเครื่องและชิ้นงานที่เกิดขึ้น นอกจากนี้การทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์อย่าง UltiMaker Digital Factory ที่ทำให้เข้าถึงเครื่องพิมพ์จาก UltiMaker ในระบบทำให้สามารถบริหารจัดการเครื่องพิมพ์ในองค์กรได้ทั้งหมดไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ทั้งการวิเคราะห์และคาดการณ์การทำงาน การมอบสิทธิ์การเข้าถึง ตลอดจนการสั่งงานเครื่องพิมพ์ผ่านเครือข่ายก็เกิดขึ้นได้เช่นกัน จะเห็นได้ว่าทั้งระบบสร้างรายงานการทำงานและโซลูชันการบริหารจัดการผ่านเครือข่ายสอดคล้องกับการทำงานในยุคของอุตสาหกรรม 4.0 ที่ให้ความสำคัญกับข้อมูลและการเชื่อมต่อ สามารถสั่งการทำงานผ่าน Cloud ผ่านระบบเครือข่ายหรือใช้ USB ก็ได้เช่นกัน

ดูแลรักษาง่าย รวดเร็ว ลด Downtime ที่เกิดขึ้นในการซ่อมบำรุง

พื้นฐานของการออกแบบ UltiMaker Factor 4 นั้นเกิดขึ้นบนแนวความคิดที่ต้องการลด Downtime และประหยัดต้นทุนสำหรับผู้ประกอบการ จึงเป็นการออกแบบบนแนวคิดโครงสร้างแบบโมดูลาร์ (Modular) ที่ทุกชิ้นส่วนสามารถแยกออกจากกันและซ่อมบำรุงได้ง่าย ทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนจำนวนมากหรือเสียเวลาซ่อมบำรุงนาน การทำงานจึงมีความต่อเนื่องและเกิด Availability สูง ซึ่งการดำเนินการส่วนใหญ่ผู้ใช้งานสามารถทำได้เองผ่านคำแนะนำบนหน้าจอและ Maintenance Kit หรือจะเป็นบริการจาก Metro Systems ก็ได้เช่นกัน

ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยสำหรับ Shop Floor

UltiMaker Factor 4 ถูกออกแบบมาให้รองรับการใช้งานทั้งในสำนักงานและใน Shop Floor ของโรงงานได้อย่างปลอดภัยด้วยโครงสร้างที่แข็งแรง กระจกของตัวเครื่องสามารถกรองแสงสะท้อนได้ถึง 99% และมาพร้อมกับตัวกรอง HEPA สามารถกรองมลภาวะที่เกิดจากการพิมพ์ออกสู่ภายนอกได้ถึง 95% ทำให้ผู้ใช้งานเกิดความปลอดภัยไม่ว่าจะเป็นในพื้นที่ใด ๆ ก็ตาม ทั้งยังมีปุ่มหยุดฉุกเฉินที่ใช้งานได้ง่ายและรวดเร็วในกรณีที่เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นอีกด้วย

ใช้งานง่ายกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว!

UltiMaker นั้นขึ้นชื่ออย่างมากในเรื่องของประสบการณ์การใช้งาน และ UltiMaker Factor 4 ยกระดับประสบการณ์การใช้งานไปอีกขั้น การตั้งค่าหรือการ Calibrate ต่าง ๆ สามารถทำได้อัตโนมัติผ่านเครื่อง ตั้งแต่การทำความสะอาด Nozzle ที่ออกแบบให้มีตะกร้าคายเศษและซิลิโคนสำหรับทำความสะอาดเมื่ออุ่นหัวพิมพ์เสร็จโดยอัตโนมัติ การปรับระดับของฐานพิมพ์อัตโนมัติที่แม่นยำ การสำรวจชิ้นส่วนผ่านกล้องที่ติดตั้งภายในเครื่อง หรือคำแนะนำในแต่ละขั้นตอนสำหรับการซ่อมบำรุงต่าง ๆ ผ่านหน้าจอ ในขณะที่ซอฟต์แวร์อย่าง UltiMaker Cura ในงาน Slicing ชิ้นส่วนซึ่งมีผู้ใช้มากกว่า 1 ล้านคนทั่วโลก และมีงานสั่งพิมพ์มากกว่า 2 ล้านครั้งต่อสัปดาห์ในฐานะซอฟต์แวร์แบบเปิดให้ใช้งานได้กับหลากหลายแบรนด์ โดย UltiMaker Cura มาพร้อมกับความสามารถในการปรับแต่งที่หลากหลาย มีทั้ง Preset การใช้งานสำหรับงานวิศวกรรมและงานทั่วไป มีการออกแบบหน้าจอการใช้งานที่แตกต่างไปตามประสบการณ์ผู้ใช้ เช่น มือใหม่ ผู้มีประสบการณ์ และผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะช่วยให้เกิดการปรับแต่งได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้งานกับเครื่องพิมพ์ 3 มิติจาก UltiMaker เอง

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการใช้งาน UltiMaker Factor 4 นั้นจะสร้างความแตกต่างให้กับงานที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการผลิตเครื่องมือที่ต้องการสำหรับกิจกรรมในโรงงาน การผลิตชิ้นส่วนต้นแบบ หรือการผลิตชิ้นงานที่มีความต้องการเป็นพิเศษได้เป็นอย่างดี ด้วยการออกแบบที่คำนึงถึงความต้องการใช้งานในภาคอุตสาหกรรม สภาพแวดล้อมของโรงงาน และประสบการณ์ของผู้ใช้ ทำให้การใช้งาน UltiMaker Factor 4 นั้นไม่ได้เป็นแค่เพียงเครื่องพิมพ์ 3 มิติเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นการใช้โซลูชันที่มาพร้อมกับระบบนิเวศที่มีการสนับสนุนอย่างครบวงจร ตั้งแต่วัสดุ เทคโนโลยีในการบริหารจัดการ ไปจนถึงการฝึกอบรมทักษะการใช้งานเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ เมื่อซื้อเครื่องจาก Metro Systems อีกด้วย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 

Metro Systems Corporation Public Company Limited

โทร: 02-0894145
Email: sales-des@metrosystems.co.th
Line: @metrodes