IDA Project
IDA Project
thai transformer industry innovation

หม้อแปลงไฟฟ้า: อุตสาหกรรม ‘ขุมพลัง’ ที่แข็งแกร่งด้วยนวัตกรรม

Date Post
14.10.2025
Post Views

กล่องเหล็กบนเสาไฟ: ความสำคัญที่คนไทยอาจมองข้าม

หลายคนอาจคุ้นเคยกับเจ้ากล่องเหล็กที่ติดตั้งอยู่ตามเสาไฟฟ้าหรือข้างทาง ซึ่งนั่นก็คือ หม้อแปลงไฟฟ้า นั่นเอง อุปกรณ์ที่เราเห็นจนชินตานี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบไฟฟ้าของทั้งประเทศ หากไม่มีหม้อแปลงไฟฟ้า ก็จะไม่มีไฟฟ้าใช้ เพราะมันมีหน้าที่สำคัญในการ เปลี่ยนโวลต์จากแรงดันไฟฟ้าแรงสูงมาเป็นไฟฟ้าแรงต่ำ เพื่อให้สามารถนำมาใช้ในภาคอุตสาหกรรม, ภาคครัวเรือน, และกิจกรรมอื่น ๆ ได้ ดังนั้น หม้อแปลงจึงเป็นส่วนสำคัญที่ต้องเกี่ยวข้องกับไฟฟ้าอยู่ตลอดเวลา

วิวัฒนาการสู่มาตรฐานโลกและการส่งออก 30 ประเทศ

ในอดีต การผลิตหม้อแปลงของไทยยังไม่ได้มาตรฐานเท่าที่ควร ทำให้เกิดปัญหาถูกฟ้าผ่า หรือคุณภาพไม่ดี แต่หลังจากที่มีการนำเทคโนโลยีจากต่างประเทศมาใช้ ผู้ผลิตไทยก็สามารถยกระดับมาตรฐานการผลิตหม้อแปลงได้ทัดเทียมกับทุกมาตรฐานระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานของยุโรป (IEC), มาตรฐานอเมริกัน (ANSI), มาตรฐานญี่ปุ่น, หรือแม้แต่มาตรฐานไทย

พัฒนาการสำคัญของหม้อแปลงไฟฟ้าจึงอยู่ที่ มาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพที่สูงขึ้นมาก การพัฒนาอย่างต่อเนื่องนี้ทำให้ผู้ผลิตไทยมีความแข็งแกร่งจนสามารถ ส่งออกหม้อแปลงไฟฟ้าไปขายยังต่างประเทศได้กว่า 30 ประเทศทั่วโลก

สองประเภทหลัก: หม้อน้ำมันสำหรับ Outdoor และหม้อแห้งสำหรับตึกสูง

หม้อแปลงไฟฟ้ามีการออกแบบที่แตกต่างกันไปตามเทคนิคการออกแบบ, ระยะเวลาการใช้งาน, และขนาด โดยสามารถแบ่งประเภทหลัก ๆ ตามลักษณะการใช้งานได้สองแบบ:

  • หม้อแปลงแบบใช้น้ำมัน (Oil Immerge): เป็นหม้อแปลงที่ใช้ Mineral Oil เป็นฉนวนเพื่อระบายความร้อน หม้อแปลงแบบนี้ถูกใช้ทั่วไปในโรงงานอุตสาหกรรมและเป็นแบบที่ติดตั้งภายนอกอาคาร (Outdoor) ผู้ผลิตไทยสามารถผลิตได้ทุกขนาดตั้งแต่เล็กสุด 10 KVA จนถึง 25,000 KVA และสามารถทำขนาดใหญ่ถึง 30,000 KVA ได้ด้วย หม้อแปลงแบบนี้จำเป็นต้องมีการเชื่อมที่แน่นหนาและห้ามมีการซึมของน้ำมันแม้กระทั่งรูเท่าตา มด
  • หม้อแปลงแบบแห้ง (Dry Type/Cast Resin): หม้อแปลงชนิดนี้ใช้ เรซิน เป็นฉนวนแทนน้ำมัน หม้อแปลงแบบแห้งนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ใน ตึกสูงทั้งหมด เนื่องจากทางการไฟฟ้าไม่อนุญาตให้ใช้หม้อแปลงน้ำมันในอาคารสูง เพราะกังวลว่าหากเกิดไฟไหม้ น้ำมันอาจติดไฟได้ง่าย ในอดีต ไทยต้องสั่งซื้อหม้อแปลงแบบแห้งจากสเปนและอิตาลี แต่ปัจจุบัน ผู้ผลิตไทยสามารถผลิตหม้อแปลงแบบ Cast Resin ได้เองในประเทศ ซึ่งส่งผลให้ ราคาถูกกว่า คุณภาพดีกว่า และส่งของได้เร็วกว่า มาก หากสั่งจากต่างประเทศอาจใช้เวลา 7-8 เดือน แต่ถ้าสั่งจากผู้ผลิตในไทย อาจใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน

การผลิตที่ซับซ้อน หัวใจคือการทดสอบ 100%

การผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าส่วนใหญ่เป็นการผลิตแบบ Make to Order หรือผลิตตามความต้องการเฉพาะของผู้ใช้งานประมาณ 70% ขั้นตอนการผลิตมีความละเอียดอ่อนและซับซ้อนมาก:

  • การออกแบบ: วิศวกรจะทำการออกแบบ โดยปัจจุบันอาจมีแบบที่อยู่ในฝ่ายวิศวกรรมเป็นหมื่น ๆ แบบ
  • การตัดเหล็กและพันคอยล์: เริ่มจากการตัดเหล็กสำหรับทำแกนหม้อแปลง ตามด้วยการ พันคอยล์ ซึ่งมีทั้งคอยล์แรงสูงและแรงต่ำ ผู้ผลิตมีการนำเข้าเครื่องพันคอยล์ที่มีเทคโนโลยีสูงจากสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งทำให้การพันคอยล์แน่น, แข็งแรง, และทำได้เร็วกว่าเครื่องปกติถึง 2.5 เท่า
  • การประกอบไส้หม้อแปลง: นำเหล็กแกนและคอยล์ที่พันแล้วมาประกอบเข้าด้วยกัน ไส้ในของหม้อแปลงเหล่านี้ต้องประกอบในพื้นที่ปราศจากฝุ่น และต้องมีการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เพราะละอองสีจากส่วนประกอบตัวถังอาจทำให้การควบคุมคุณภาพลดลงได้ ไส้หม้อแปลงที่ดูแข็งแรงทนทานนั้น แท้จริงแล้วต้องถูกประกอบในสภาพแวดล้อมที่สะอาด
  • การทดสอบคุณภาพ 100%: ชิ้นงานที่ประกอบแล้วทั้งหมดจะถูกนำไปทดสอบทางไฟฟ้าในห้องทดสอบ โดยมีการทดสอบทุกเครื่องและทุกชิ้น 100% การทดสอบมาตรฐานทั่วไปเรียกว่า การทดสอบความสูญเสีย นอกจากนี้ ยังมีการทดสอบพิเศษ เช่น Partial Discharge Test เพื่อตรวจสอบความบกพร่องของฉนวน ว่ามีฟองอากาศหรือรอยแตกร้าวของฉนวนหรือไม่ ซึ่งมีผู้ผลิตเพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่มีเครื่องทดสอบนี้ด้วยตนเอง

Key Takeaway

ปัจจุบัน เทรนด์ของหม้อแปลงกำลังมุ่งหน้าสู่ พลังงานสะอาด โดยเน้นการ ลดคาร์บอน ด้วยการลดความสูญเสียที่เกิดขึ้นในหม้อแปลง ผู้ประกอบการจึงต้องนำเทคโนโลยีและเครื่องจักรใหม่ ๆ เข้ามาเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

แม้หม้อแปลงจะดูน่ากลัวและอาจเกิดเหตุระเบิดได้ แต่สาเหตุหลักมักมาจากปัจจัยภายนอกและปัญหาจากการใช้งานหนัก สาเหตุที่หม้อแปลงระเบิดมีหลากหลาย เช่น ฟ้าผ่า, การใช้กระแสเกิน, น้ำมันมีปัญหา, หรือแม้แต่ สัตว์ เช่น นก, งู, หรือกระรอก เข้าไปทำให้เกิดการลัดวงจร ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่า หากมีการ บำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ และถูกวิธี หม้อแปลงก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด

นอกจากนี้ ยังมีการทดสอบที่เรียกว่า DGA (Dissolved Gas Analysis Test) ซึ่งเป็นการนำน้ำมันในหม้อแปลงมาทดสอบหาสิ่งผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นภายใน ซึ่งเปรียบเสมือนการตรวจสุขภาพโดยการตรวจเลือดเพื่อหาจุดที่ผิดปกติในร่างกายที่ยังไม่แสดงอาการ การทดสอบนี้แนะนำให้ทำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

ข้อได้เปรียบของไทย: สเปคเฉพาะ, บริการหลังการขาย และ MiT

หม้อแปลงที่ผลิตโดยผู้ประกอบการไทยมีความสามารถในการแข่งขันสูง เนื่องจากมีข้อได้เปรียบหลายด้าน:

  • เข้าใจสเปคภาครัฐ: ผู้ผลิตไทยทราบถึงกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง และ สเปคเฉพาะ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, และการไฟฟ้านครหลวง
  • การผลิตแบบยืดหยุ่น: สามารถผลิตตามความต้องการเฉพาะของโรงงานแต่ละแห่งได้ ซึ่งแตกต่างจากหม้อแปลงนำเข้าที่ส่วนมากจะเป็นระบบไฟมาตรฐาน
  • บริการหลังการขาย: มีวิศวกรคอยดูแลลูกค้าตั้งแต่การเลือกขนาด, วิธีการติดตั้ง, ไปจนถึงบริการหลังการขาย นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้ง ศูนย์บริการ ครอบคลุมหลายแห่ง และมี อะไหล่สำรอง (Spare Part) รองรับ ทำให้การเปลี่ยนอะไหล่ใช้เวลาไม่นาน ไม่ต้องรอของจากต่างประเทศ
  • การรับรอง MiT: ผู้ผลิตไทยได้รับสัญลักษณ์ Made in Thailand (MiT) จากสภาอุตสาหกรรม ซึ่งหมายถึงการมี Local Content ตามที่กำหนด ใบรับรองนี้ช่วยให้สามารถแข่งขันด้านราคาได้อย่างคุ้มค่ากับคุณภาพ

          ด้วยเทคโนโลยีที่เป็นของไทยเองทั้งหมด และการบริการที่เหนือกว่า ทำให้หม้อแปลงไฟฟ้าที่ผลิตโดยคนไทยไม่เพียงแต่สามารถต่อสู้กับชาติอื่นได้ แต่ในบางมุมยังทำได้เหนือกว่าด้วยซ้ำ


Source : อุตสา หาทำ ตอนที่ 19 “หม้อแปลงไฟฟ้าไทย แข็งแกร่งแค่ไหน ?”

Logo-Company
Logo-Company
Logo-Company
logo-company
Teera Kittiteerapornchai
Data is head. Content is heart. My mission is to create the 'Intelligent Industrial Media Platform' which is powered by Data x Contents. Teera Kittiteerapornchai Contents Director & CEO of GREENWORLD