Thursday, March 28Modern Manufacturing
×

การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเดือน11ปี63ลดลง

กรมธุรกิจพลังงาน  เผย สถานการณ์การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงรอบ 11 เดือน ของปี 2563 ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 12.7

การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเดือน11ปี63ลดลง

นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวถึง ภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันรอบ 11 เดือนของปี 2563 (มกราคม – พฤศจิกายน) ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 12.7 โดยกลุ่มเบนซิน ลดลงร้อยละ 1.8 กลุ่มดีเซล ลดลงร้อยละ 3.3 น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) ลดลง ร้อยละ 61.2 น้ำมันเตา ลดลงร้อยละ 13.6 น้ำมันก๊าด ลดลงร้อยละ 14.0 LPG ลดลงร้อยละ 14.3 และ NGV ลดลงร้อยละ 28.8 โดยสาเหตุสำคัญยังคงมาจากสถานการณ์ COVID-19 ซึ่งส่งผลต่อพฤติกรรมการเดินทางของประชาชน

การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน เฉลี่ยอยู่ที่ 31.5 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 1.8 โดยความต้องการใช้ลดลงมากในช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคมที่มีการ Lockdown และความต้องการใช้เริ่มกลับมาอยู่ในระดับปกติตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยประชาชนหันมาใช้ รถส่วนตัวเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้รถสาธารณะ สำหรับการใช้น้ำมันเบนซินลดลงมาอยู่ที่ 0.8 ล้านลิตร/วัน (ลดลง ร้อยละ 17.1) และกลุ่มแก๊สโซฮอล์ปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 30.7 ล้านลิตร/วัน (ลดลง ร้อยละ 1.3) เมื่อพิจารณาแยกชนิดน้ำมัน พบว่า แก๊สโซฮอล์ อี85 มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 0.9 ล้านลิตร/วัน (ลดลงร้อยละ 29.4) รองลงมาเป็นแก๊สโซฮอล์ 91 มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 8.2 ล้านลิตร/วัน (ลดลงร้อยละ 13.9) ขณะที่แก๊สโซฮอล์อี 20 มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 6.5 ล้านลิตร/วัน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.2) และแก๊สโซฮอล์ 95 มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 15.1 ล้านลิตร/วัน(เพิ่มขึ้น ร้อยละ 9.3)

การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ 65.1 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.3 โดยการใช้ลดลงมากในเดือนเมษายนที่มีการ Lockdown และปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับปกติตั้งแต่เดือนพฤษภาคม สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7มีปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 43.9 ล้านลิตร/วัน (ลดลง ร้อยละ 27.0) น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 15.5 ล้านลิตร/วัน (เริ่มจำหน่ายตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2562) และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 3.7 ล้านลิตร/วัน เนื่องจากนโยบายส่งเสริมของภาครัฐ

การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 7.5 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 61.2

เนื่องด้วยสถานการณ์ COVID-19 ส่งผลให้การเดินทางด้วยเที่ยวบินระหว่างประเทศและภายในประเทศลดลง และปัจจุบันยอดการใช้ยังไม่กลับมาสู่ภาวะปกติ โดยการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) ในเดือนพฤศจิกายน คิดเป็นเพียงร้อยละ 30 ของการใช้ในระดับปกติ

การใช้ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 15.3 ล้านกก./วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 14.3 โดยปริมาณการใช้ในภาคขนส่งลดลงมากที่สุด โดยมีปริมาณการใช้อยู่ที่ 2.0 ล้านกก./วัน (ลดลง ร้อยละ 27.3) รองลงมาเป็นภาคปิโตรเคมี ซึ่งมีปริมาณการใช้อยู่ที่ 6.1 ล้านกก./วัน (ลดลงร้อยละ 18.2) ถัดมาเป็นภาคอุตสาหกรรมมีปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 1.7 ล้านกก./วัน (ลดลงร้อยละ 8.1) และภาคครัวเรือนมีปริมาณการใช้ลดลงน้อยที่สุดโดยการใช้อยู่ที่ 5.5 ล้านกก./วัน (ลดลงร้อยละ 4.9)

การใช้ NGV เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 3.9 ล้านกก./วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 28.8 สอดคล้องกับจำนวน รถ NGV ที่ลดลง

การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง เฉลี่ยอยู่ที่ 888,893 บาร์เรล/วัน ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ลดลงร้อยละ 7.3) โดย การนำเข้าน้ำมันดิบลดลงมาอยู่ที่ 852,111 บาร์เรล/วัน (ลดลงร้อยละ 0.5) คิดเป็นมูลค่า 37,471 ล้านบาท/เดือน ในขณะที่การนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) ลดลงมาอยู่ที่ 36,782 บาร์เรล/วัน (ลดลง ร้อยละ 64.0) คิดเป็นมูลค่านำเข้ารวม 1,685 ล้านบาท/เดือน

การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPGโดยปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 184,806 บาร์เรล/วัน (เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.3) ทดแทนอุปสงค์ในประเทศที่ลดลง คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 8,186 ล้านบาท/เดือน (ลดลงร้อยละ 25.6) โดยมูลค่าลดลงสวนทางกับปริมาณการส่งออกที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันที่ลดลงมาก

แนวโน้มการใช้น้ำมันในปี 2564 คาดว่าการใช้กลุ่มเบนซิน และดีเซลจะสูงกว่าปี 2563 โดยอยู่ที่ 31 – 34 ล้านลิตร/วัน และ 65-69

ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ ใกล้เคียงกับการใช้ในปี 2562 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่คาดว่าจะสามารถควบคุมได้ การขยายตัวของเศรษฐกิจ (โดยสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2564 จะขยายตัวร้อยละ 3.4-4.5) ความต้องการใช้รถส่วนตัวแทนรถสาธารณะ ประกอบกับราคาน้ำมันที่คาดว่าจะอยู่ในระดับไม่สูงมากนัก(ทีม PRISM Expert ของ กลุ่ม ปตท. คาดว่าในปี 2564 ราคาน้ำมันดิบดูไบจะอยู่ที่ 45-55 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และ EIA ของสหรัฐอเมริกาคาดว่าราคา WTI จะเฉลี่ยอยู่ที่ 46 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล) 

อย่างไรก็ตาม หากจำเป็นต้องมี การ Lockdown หรือปิดสถานที่บางแห่งเช่นเดียวกับช่วงไตรมาส 2 ของปี 2563 ปริมาณการใช้น้ำมันอาจลดลงมาต่ำกว่าปกติอีก สำหรับการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นจากปี 2563 มาอยู่ที่ 8-11 ล้านลิตร/วัน อย่างไรก็ตาม คาดว่าความต้องการใช้จะยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดย บมจ. ท่าอากาศยานไทยคาดว่าการจราจรทางอากาศจะกลับมาอยู่ในระดับก่อน COVID-19 ในปี 2566 ขณะที่ปริมาณการใช้ LPG และ NGV คาดว่าจะยังคงลดลง เนื่องจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ

Nichaphan W.
Marketing
READ MORE
×