Friday, March 29Modern Manufacturing
×

เลือกคอมพิวเตอร์โรงงานยุค 4.0 ที่ใช่ สู้ศึกใหญ่หลังวิกฤต

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำงานในโลกธุรกิจสมัยใหม่นั้นต้องมีคอมพิวเตอร์เป็นส่วนประกอบไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะในระบบการทำธุรกิจด้านอุตสาหกรรมสมัยใหม่ที่คอมพิวเตอร์นั้นเป็นหัวใจสำคัญ เช่น การทำอุตสาหกรรมแบบยุค 4.0 หรือการมาถึงของ Digital Disruption ซึ่งการใช้งาน PC สำหรับสำนักงาน ที่พักอาศัย เพื่อความบันเทิง หรืองานอุตสาหกรรมนั้นล้วนมีความต้องการที่แตกต่างกัน แต่จะเลือก PC ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณนั้นต้องทำอย่างไรดี?

เลือกคอมพิวเตอร์โรงงานยุค 4.0 ที่ใช่ สู้ศึกใหญ่หลังวิกฤต

จุดเด่นสำคัญของคอมพิวเตอร์ Desktop ในการใช้งานในโรงงาน

PC หรือ Personal Computer นั้นเป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน มีทั้งแบบ Desktop (ตั้งโต๊ะ) และแบบพกพา เช่น Notebook หรือ Smartphone เป็นต้น ซึ่งอุปกรณ์ทั้งสองกลุ่มนี้สามารถพบได้ในการทำงานโรงงานทั้งสิ้น

เมื่อพูดถึงการทำงานในโรงงานหลายคนอาจคิดถึง Workshop ขนาดใหญ่ หลายคนอาจคิดถึงที่มืด ๆ พื้นที่แคบ ๆ อับชื้นบ้าง หรือเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยเครื่องจักรเครื่องมือมากมายที่มาพร้อมกับอากาศร้อน ๆ สิ่งเหล่านี้เป็นสภาพแวดล้อมที่สามารถพบเจอได้ทั้งหมดในการทำงานของโรงงาน ขึ้นกับว่าจะเป็นโรงงานแบบไหน

ถ้าเป็นโรงงานหลอมโลหะต้องเจอกับความร้อนอย่างมาก ถ้าเป็นโรงงานอาหารต้องเจอกับความชื้นหรือการปนเปื้อน ถ้าดีหน่อยโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์หรือประกอบชิ้นส่วนยานยนต์ก็จะเป็นสภาพแวดล้อมที่ไม่สุดโต่งมากนัก นั่นหมายความว่า PC หรือคอมพิวเตอร์ที่ต้องใช้ภายในสภาพแวดล้อมเหล่านี้ต้องมีความทนทานเป็นสำคัญ!

‘คอมพิวเตอร์สำหรับโรงงานต้องมีความทนทาน และสามารถทำงานต่อเนื่องได้อย่างราบรื่น’

แม้ว่าความทนทานจะเป็นเรื่องที่สำคัญลำดับต้น ๆ ของคุณสมบัติสำหรับคอมพิวเตอร์ในโรงงานอุตสาหกรรม แต่ยังมีประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องและสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน และคุณสมบัติหลักที่ต้องพิจารณามี ดังนี้

  • ความทนทาน เมื่อต้องเจอกับสภาพแวดล้อมอันโหดร้ายของโรงงาน คอมพิวเตอร์ที่ใช้ต้องพร้อมเจอกับฝุ่นควัน ความร้อน การกระแทกต่าง ๆ สภาวะความเป็นกรด-ด่าง ความชื้น คอมพิวเตอร์ต้องทำงานในสภาพแวดล้อมเหล่านี้ได้ต่อเนื่องและยาวนานโดยปราศจากปัญหา
  • การประมวลผล การใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมนั้น หลัก ๆ จะไม่ใช่การประมวลผลที่หนักหน่วงแต่จะเป็นการทำงานต่อเนื่องที่ต้องการความเสถียร หลายครั้งการทำงานในยุค 4.0 จะเป็นการส่งต่อ Package ข้อมูลขนาดเล็กจำนวนมหาศาลขึ้น Cloud เพื่อทำการประมวลหลักเสียด้วยซ้ำ เน้นการทำงานที่ซ้ำ ๆ ตามรูปแบบที่ถูกกำหนดมาตายตัวและรายงานสถานการณ์เป็นหลัก
  • หน่วยความจำระยะสั้น (RAM) ต้องมีให้พอเพียงกับปริมาณความต้องการในการทำงาน หากเป็นอุปกรณ์อัจฉริยะขนาดเล็ก การมี RAM ที่ไม่สูงนักเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ แต่หากเป็น Workstation ที่ต้องรองรับข้อมูลที่หลากหลายจำนวนมาก RAM ที่มีต้องพอเพียงที่จะจัดการกับเรื่องต่าง ๆ เหล่านั้นอย่างรวดเร็ว
  • หน่วยความจำระยะยาว (ROM/Storage) ควรเลือกใช้หน่วยความจำระยะยาวที่มีความทนทานและมีการเขียน/อ่านข้อมูลที่ว่องไว หากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยง HDD เนื่องจากมีขนาดใหญ่และมีการทำงานด้วยการเขียนแบบจานแม่เหล็กซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับพื้นที่โรงงาน เนื่องจากมีความอ่อนไหวสูงกว่าหน่วยความจำแบบอื่น ๆ อาจใช้หน่วยความจำแบบ SSD หรือ M2 ก็ได้เนื่องจากมีความแข็งแรงและมีสถาปัตยกรรมโครงสร้างที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าในพื้นที่วิกฤติอย่างโรงงาน
  • การระบายความร้อน ลืมเรื่องการระบายความร้อนด้วยพัดลมขนาดใหญ่ไปได้เลยสำหรับพื้นที่โรงงานส่วนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสายการผลิต เนื่องจากการระบายความร้อนให้หมุนเวียนด้วยพัดลมขนาดใหญ่นั้นจะเป็นตัวดูดฝุ่นและสิ่งสกปรกได้เป็นอย่างดี ในขณะที่การใช้ระบบการระบายความร้อนด้วยของเหลวหรือน้ำอาจดูเป็นทางเลือกที่น่าสนใจแต่ก็ยังมีความเสี่ยงในการรั่วไหล นอกจากนี้ยังเหมาะกับงานที่ใช้ศักยภาพการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ทั้งเครื่องอย่างหนักหน่วงซึ่งไม่ใช่รูปแบบการทำงานหลักของการผลิตเลย นั่นเป็นการทำงานของสายการตัดต่อหรือเล่นเกมส์เสียมากกว่า ดังนั้นสถาปัตยกรรมระบายความได้อย่างดีในสภาพแวดล้อมงานอุตสาหกรรมจะช่วยให้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้อย่างยาวนานและมีเสถียรภาพ
  • พลังงานที่ใช้ เมื่อต้นทุนเป็นสิ่งสำคัญที่เกิดขึ้นและทบยอดทวีคูณขึ้นตามเวลา คอมพิวเตอร์ที่ใช้จำเป็นต้องมีการใช้พลังงานที่เหมาะสมกัยความต้องการ
  • คุณสมบัติในการเชื่อมต่อ การทำงานในยุค 4.0 นั้นการเชื่อมต่อได้เป็นสิ่งที่สำคัญที่ห้ามหลงลืมเป็นอันขาด ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อแบบ Local หรือการเชื่อมต่อเข้ากับระบบเครือข่ายขนาดใหญ่ สำหรับสภาพแวดล้อมของโรงงานนั้นการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายแบบไร้สายจะมีความสะดวกมากกว่าในการติดตั้งและใช้งาน แต่ให้ระวังในประเด็นของคุณภาพสัญญาณเนื่องจากการทำงานในพื้นที่ที่มีเครื่องจักรหนาแน่นนั้นสามารถส่งผลกระทบต่อสัญญาณได้เช่นกัน
  • ขนาดของอุปกรณ์ พื้นที่ของโรงงานนั้นมีจำกัด ดังนั้นขนาดจึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ แม้ว่าคอมพิวเตอร์ที่ใช้จะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามความต้องการ แต่หากนำเครื่องคอมพิวเตอร์ Desktop ขนาดใหญ่มาวางในโรงงานนอกจากจะเสียพื้นที่แล้วยังสร้างความไม่คล่องตัวในพื้นที่ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายได้อีกด้วยในกรณีที่เป็นสายการผลิตซึ่งมีแรงงานผ่านไปมาบ่อยครั้ง

จะเห็นได้ว่าความต้องการสำหรับคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในพื้นที่การผลิตหรือโรงงานอุตสาหกรรมนั้นมีลักษณะเฉพาะตัวแตกต่างจากคอมพิวเตอร์ในงานอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Notebook หรือ Desktop ก็ตาม แน่นอนว่าถ้าจะใช้ Notebook ก็เป็นไปได้ในกรณีที่ต้องทำงานที่มีการเคลื่อนย้ายหรือมีการเปลี่ยนแปลงในการทำงานบ่อย แตกต่างจาก Desktop ที่จะต้องประจำสถานีเพื่อทำงานที่ถูกกำหนดไว้อย่างต่อเนื่องมากกว่า

การใช้งานคอมพิวเตอร์ในยุคอุตสาหกรรม 4.0 หรือช่วงเวลาแห่ง Digitalization สำหรับโรงงานนั้นเป็นเรื่องใหม่สำหรับสภาพแวดล้อมในโรงงานส่วนมากของประเทศไทย เพราะนอกเหนือจากคุณสมบัติต่าง ๆ ที่เป็นพื้นฐานแล้วอุปกรณ์ยังต้องรองรับการทำงานในฐานะอุปกรณ์ IoT ชิ้นหนึ่งที่จะต้องป้อนข้อมูลเข้าสู่ระบบออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งนั่นหมายรวมถึงระบบความปลอดภัยที่ต้องมากขึ้น และสถาปัตยกรรมระดับโครงสร้างที่ต้องมีการออกแบบมาโดยคำนึงถึงภาระหน้าที่การทำงานตั้งแต่ต้นน้ำไปจนจบถึงปลายน้ำ

รู้จัก ThinkCentre M90n-1 Nano Series ตัวเลือกที่ต้องพิจารณาสำหรับโรงงาน

เมื่อพูดถึงคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในสภาพแวดล้อมของโรงงานอุตสาหกรรมแล้วก็ต้องนึกถึงคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่ดูเหมือนกล่องสี่เหลี่ยม ๆ ขนาดไม่ใหญ่มาก ซึ่งมีอยู่มากมายหลายยี่ห้อหลายราคาในตลาดขึ้นอยู่กับความต้องการ แต่หนึ่งในคุณสมบัติที่อยากจะแนะนำให้รู้จักในวันนี้ คือ คอมพิวเตอร์ที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานทางการทหาร (Military Standard) ซึ่งมีความทนทานมากเป็นพิเศษแตกต่างจากคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานกันทั่วไป

ThinkCentre M90n-1 Nano และ ThinkCentre M90n-1 Nano IoT คอมพิวเตอร์แบบ Desktop ขนาดเล็กที่บางครั้งก็อยากจะเรียกว่าขนาดพกพาเพราะมันเล็กเสียจนสะดวกต่อการเคลื่อนย้าย แม้จะไม่มีแบตเตอรี่ในตัวแบบ Notebook ที่ทำงานได้โดยไม่ต้องเสียบปลั๊กแต่ก็มีคุณสมบัติการทำงานที่แตกต่างกัน โดยมาตรฐานการทดสอบทางการทหารที่ได้รับ คือ MIL-STD-810H มีคุณสมบัติสำคัญ ดังนี้

  • ทนทานต่อความกดอากาศต่ำ
  • ทนทานต่ออุณหภูมิสูงและต่ำ
  • มีการป้องกันสำหรับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างฉับพลัน
  • ทนทานต่อความชื้น
  • ทนทานต่อฝุ่นและทราย
  • ทนทานต่อการกระแทกต่าง ๆ
  • ทนทานต่อรังสีสุริยะ

แน่นอนว่าคุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ ThinkCentre M90n-1 Nano Series เหมาะสมต่อการทำงานในสภาพแวดล้อมของงานอุตสาหกรรมหรือการผลิต แต่คุณสมบัติด้านความทนทานนี้เป็นเพียงส่วนแรกเท่านั้น ยังไม่รวมถึงศักยภาพในการทำงานอื่นที่สำคัญ ซึ่งทั้งสองรุ่นนั้นมีความแตกต่างกันอยู่บ้างในเรื่องของ Spec และการใช้งาน โดยทั้งสองรุ่นมีคุณสมบัติร่วมกัน ดังนี้

  • ผ่านการทดสอบมาตรฐานทางการทหาร
  • หน่วยความจำแบบ SSD ขนาด 512 GB
  • ขนาดที่เล็กกะทัดรัด
  • การใช้ชิ้นส่วนประมวลผลจาก Intel รุ่นที่ 8 vPro™
  • USB Type C
  • TPM 2.0
  • Kensington Lock Slot

ThinkCentre M90n-1 Nano

เลือกคอมพิวเตอร์โรงงานยุค 4.0 ที่ใช่ สู้ศึกใหญ่หลังวิกฤต

คอมพิวเตอร์ Desktop ที่เหมาะสำหรับการทำงานออกคำสั่งต่าง ๆ ในโรงงานด้วย Intel® Core™ i7-8665U รุ่นที่ 8 ซึ่งมีความเสถียรสูงในการทำงาน ทั้งยังประหยัดพลังงานได้กว่า 30% เมื่อเทียบกับการทำงานของ Desktop ทั่วไปในโรงงาน มีหน่วยความจำ DDR4 รองรับความจุสูงสุดถึง 16GB และ M.2 SSD แบบสองสล็อต สามารถเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลได้ มีจำนวนพอร์ทสำหรับการเชื่อมต่อด้วย USB 3.1 4 ช่อง และ USB C 2 ช่อง

ThinkCentre M90n-1 Nano IoT

เลือกคอมพิวเตอร์โรงงานยุค 4.0 ที่ใช่ สู้ศึกใหญ่หลังวิกฤต

Desktop ที่ถูกออกแบบมาเพื่อส่งต่อข้อมูลผ่าน IoT อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา มาพร้อมกับตัวประมวลผล Intel® Core™ i3-8145U รุ่นที่ 8 ที่ประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งการออกแบบพิเศษที่ทำให้ไม่ต้องใช้พัดลมแต่สามารถรองรับการทำงานได้ภายใต้อุณหภูมิ 0 – 50 องศาเซลเซียส มีการออกแบบให้รองรับการสั่นสะเทือนได้มากเป็นพิเศษ รองรับรูปแบบการเชื่อมต่อที่หลากหลาย มีความปลอดภัย IoT Gateway ซึ่งช่วยในการประมวลผลและป้องกันความปลอดภัยสำหรับอุปกรณ์ IoT ที่ตอบสนองต่อการใช้งานแบบ Real-time ผู้ใช้งานสามารถระบุที่ตั้งของเครื่อง เปิด-ปิด ซ่อมแซม และล็อคระบบในเครื่องได้จากระยะไกลเมื่อเครื่องเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่าย ทำให้ผู้ใช้งานสามารถบำรุงรักษาระบบได้ทั้งเชิงรุก-เชิงรับ และใช้งานระบบการจัดการจากศูนย์กลางเพื่อเพิ่มความเสถียรและประหยัดค่าใช้จ่าย

แม้จะมีศักยภาพที่ครบครันแต่ ThinkCentre M90n-1 Nano Series นั้นมีราคาที่เข้าถึงได้เริ่มต้นเพียง 13,900 บาทเท่านั้น ทำให้โรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่มีคุณสมบัติเฉพาะทางเช่นนี้สามารถลงทุนได้อย่างง่ายดาย เรียกได้ว่ามีความคุ้มค่าสูงเมื่อพิจารณาถึงความพร้อมของคุณสมบัติในการใช้งานที่ทนทานและมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาจุกจิกที่เกิดจากการใช้งานคอมพิวเตอร์ภายใต้สภาวะแวดล้อมของงานอุตสาหกรรม เพิ่มความสามารถในการทำงานยุค 4.0 ให้กับโรงงานของคุณได้ด้วยความเชื่อมั่นจากคุณภาพภายใต้แบรนด์ Lenovo


ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ThinkCentre M90n-1 Nano Series เพื่อใช้ในโรงงาน โปรดกรอกแบบฟอร์ม

No Fields Found.
Thos
"Judge a man by his questions rather than his answers"
Voltaire
READ MORE
×