6 คุณสมบัติสำคัญที่ทำให้โรงงานนิยมใช้ใบเลื่อย Bi-metal

Date Post
15.11.2021
Post Views

อุปกรณ์อย่างใบเลื่อยนั้นเป็นสิ่งที่จะต้องมีไว้พร้อมใช้ในโรงงานทุกแห่ง เพราะใบเลื่อยนั้นสามารถใช้ได้ทั้งกับงานการผลิต ขึ้นรูปวัสดุ ตัดแต่งต่าง ๆ ไปจนถึงการใช้ในงานในส่วนซ่อมบำรุง ซึ่งวัสดุแต่ละชนิดรวมถึงเครื่องมือแต่ละแบบก็ต้องการประเภทใบเลื่อยที่ใช้งานแตกต่างกันออกไป ซึ่งใบเลื่อยที่มีคุณภาพจะสร้างความปลอดภัยให้กับการใช้งานได้มากกว่า มีอายุการใช้งานที่ยืนยาว และได้คุณภาพงานตัดที่น่าประทับใจ ส่งมอบคุณค่าให้กับการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างความคุ้มค่าให้กับธุรกิจ

ในการขึ้นรูปชิ้นงาน การ DIY งานช่าง งานซ่อมบำรุงต่าง ๆ นั้น อุปกรณ์สำหรับการตัดชิ้นงานเป็นส่วนสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการตัดเหล็ก ตัดท่อ ตัดไม้ ตัดพลาสติก หรือวัตถุอื่นใดก็ตามที่ต้องการใช้งาน ซึ่งใบเลื่อยถือเป็นอุปกรณ์ที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในกิจกรรมเหล่านี้ ตั้งแต่โรงงานกิจการขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ และใบเลื่อยที่มีการใช้งานมากที่สุด คือ ใบเลื่อยแบบโลหะผสม หรือ Bi-metal Band Saw Blade นั่นเอง

ใบเลื่อยแบบ Bi-metal คืออะไร?

ใบเลื่อยแบบ Bi-metal ที่นิยมใช้ตัดวัสดุต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโลหะคาร์บอน, โลหะที่ใช้กับโครงสร้าง, สเตนเลสสตีล และงานที่ต้องใช้ตัดโลหะผสมต่าง ๆ เป็นต้น โดยใบเลื่อยนั้นจะประกอบไปด้วยโลหะที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันตั้งแต่สองชนิดขึ้นไป นำมาเชื่อมรวมกันจนเกิดเป็นชั้นของโลหะที่มีคุณสมบัติสนับสนุนในการทำงานที่แตกต่างกัน โดยโลหะที่ทำหน้าที่เป็นสันใบเลื่อยนั้นจะเน้นไปที่ความยืดหยุ่นทนทานต่อแรงกระทำต่าง ๆ ในขณะที่คมเลื่อยหรือซี่ฟันเลื่อยนั้นเป็นส่วนที่มีความแข็งแรงและความคมสูง เพื่อทำหน้าที่ในการตัดวัสดุให้แยกออกจากกัน

6 คุณสมบัติเด่นในการใช้งานใบเลื่อย Bi-metal

เนื่องจากใบเลื่อยแบบ Bi-metal นั้นมีการใช้งานอย่างกว้างขวาง ทำให้ในตลาดสินค้านั้นมีราคาและคุณภาพที่หลากหลาย แต่ไม่ว่าจะมีความแตกต่างอย่างไรคุณสมบัติที่ดีและมีความคุ้มค่าในการใช้งาน มีดังนี้

  1. มีความทนทานสูงในการรับมือกับงานที่ใช้แรง (Fatigue) 
  2. ปลายคมเลื่อยต้องมีลักษณะที่เหมาะกับการใช้งานด้วยความเร็วสูง โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้งานกับโลหะที่มีความแข็งแรงทนทาน
  3. ใบเลื่อยที่มีความตึงสูงจึงส่งผลให้สามารถตัดชิ้นงานได้ตรงและเรียบร้อยกว่าใบมีดชนิดอื่น ๆ 
  4. ตัวใบเลื่อยต้องสามารถทนต่ออุณหภูมิที่สูงได้ เนื่องจากในขณะใช้งานตัดจะเกิดการเสียดสีระหว่างใบเลื่อยกับชิ้นงานทำให้เกิดความร้อน  
  5. สามารถตัดโลหะได้หลายชนิดรวมถึงพวกโลหะผสมได้เป็นอย่างดี เช่น โลหะคาร์บอน, พวกสเตนเลสตีล, อะลูมินัม, ทองเหลือง 
  6. สามารถใช้งานได้กับวัสดุหลากหลายรูปทรง รวมถึงการตัดชิ้นงานที่มีโครงสร้างที่หลากหลาย เช่น ท่อต่าง ๆ เหล็กเอชบีม เหล็กกล่อง เพลาตัน เป็นต้น

คุณสมบัติของใบเลื่อย Bi-metal ที่สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายนั้นทำให้สามารถใช้ในส่วนงานซ่อมบำรุงได้เป็นอย่างดี และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าใบเลื่อยแบบคาร์บอน ซึ่งนอกเหนือจากอายุการใช้งานแล้ว ความคมหรือประสิทธิภาพในการใช้งานยังอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจอีกด้วย

ด้วยราคาที่ไม่สูงและสามารถใช้งานได้หลากหลาย ทำให้ใบเลื่อยแบบ Bi-metal นั้นได้รับความนิยมและมีการใช้งานอย่างแพร่หลาย ตัวเลือกของใบเลื่อย Bi-metal ในตลาดนั้น จึงมีให้เลือกใช้งานหลากหลายแบรนด์ เมื่อใบเลื่อยเป็นเสมือนสินค้าสิ้นเปลือง ผู้ผลิตหรือโรงงานที่ใช้งานใบเลื่อยอาจไม่ได้ให้ความสำคัญในด้านคุณภาพมากไปกว่าราคา ซึ่งอาจส่งผลให้ชิ้นงานที่ถูกตัดนั้นเกิดความเสียหาย ผิวตัดไม่เรียบร้อย หรือเกิดการตัดที่กินเนื้อวัสดุเกินขอบเขตที่ยอมรับได้ ดังนั้นการเลือกใช้ใบเลื่อย Bi-metal ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในการผลิต และมีการพัฒนาศักยภาพของใบเลื่อยอย่างต่อเนื่องจะสามารถสร้างความคุ้มค่าให้กับการทำงานได้มากกว่าแค่การเลือกซื้อใบเลื่อยที่ราคาถูกแต่ก่อให้เกิดต้นทุนในด้านอื่น ๆเพิ่มมาแทน หรือควรหันมาพิจารณาถึงต้นทุนของการตัด (Cost Per Cut) มากกว่าราคาของใบเลื่อย เพราะจะช่วยให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลทั้งในด้านตัวเงินและการทำงานไปพร้อมๆ กัน 

Hakansson ผู้ผลิตใบเลื่อย Bi-metal สำหรับอุตสาหกรรมมือโปร

การเลือกใช้ใบเลื่อยที่ถูกพัฒนามาอย่างดี มีความเข้าใจในการใช้งาน และมีมาตรฐานต่าง ๆ คอยควบคุมจะทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าการใช้งานใบเลื่อยเหล่านี้จะสร้างความคุ้มค่าให้กับการตัด, กระบวนการที่เกี่ยวข้อง, ความสิ้นเปลืองของตัวใบเลื่อย ตลอดจนสนับสนุนให้เกิดความสะดวกรวดเร็วในการทำงานได้ ซึ่งหนึ่งในแบรนด์ผู้ผลิตใบเลื่อยที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์อันยาวนานที่อยากแนะนำให้ผู้ประกอบการรู้จักในวันนี้ คือ แบรนด์ Hakansson

แบรนด์ Hakansson นั้นเป็นแบรนด์ผู้ผลิตใบเลื่อยคุณภาพสูง ส่งตรงจากประเทศสวีเดน มีประวัติการทำธุรกิจยาวนานเริ่มต้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1890 โดยมีการพัฒนาใบเลื่อยรูปแบบต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การพัฒนาเหล่านี้ Hakansson ได้ให้ความสำคัญกับมาตรฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มข้น ซึ่งมาตรฐานที่ได้รับ ได้แก่ 

  • ISO 9001 มาตรฐานที่ให้ความสำคัญด้านคุณภาพ เช่น การใช้งานเซนเซอร์ออปติคัลเพื่อตรวจสอบฟันแต่ละซี่ของใบเลื่อย ซึ่งการมอนิเตอร์ใบเลื่อยเหล่านี้มีความละเอียดที่ลงลึกถึงระดับ 3 ไมครอน
  • ISO 14001 มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นการควบคุมให้เกิดการใช้น้ำและพลังงานอย่างเหมาะสมในปริมาณที่น้อยลง เพื่อลดความสูญเปล่าที่เกิดขึ้น ซึ่งสามารถช่วยประหยัดต้นทุนในการทำธุรกิจได้

ใบเลื่อยของ Hakansson นั้นสามารถใช้ได้ในงานตัดโลหะ ตัดไม้ ไปจนถึงการใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร เช่น การตัดปลาแช่แข็ง, การตัดเนื้อแช่แข็ง หรือกระดูกเป็นต้น ในกรณีของใบเลื่อยแบบ Bi-metal นั้น Hakansson ก็มีรุ่นย่อยที่มีขนาดและคุณสมบัติที่หลากหลายให้เลือกใช้งาน โดยซีรีย์ของใบเลื่อย Bi-metal ที่น่าสนใจ ได้แก่

  • M42 ALLPOWER™ ใบเลื่อยรุ่นอเนกประสงค์ที่สามารถใช้งานได้หลากหลายตั้งแต่เวิร์คชอปไปจนถึงใช้ในงานอุตสาหกรรม มีความถี่ของซี่ฟัน/นิ้ว หลากหลายรุ่นตามความต้องการใช้งาน
  • RAPID CT30 ใบเลื่อยที่มีคมเลื่อยเป็น Carbide ซึ่งพัฒนามาเพื่อตัดโลหะที่ไม่มีส่วนผสมของเหล็ก (Non-Ferrous) โดยเฉพาะอะลูมิเนียม สามารถทนทานต่อแรงเครียดที่เกิดจากการตัดด้วยความเร็วและฟีดสูงได้ดี มีอายุการใช้งานยืนยาว
  • M51 PERFORMER X™ ใบเลื่อย Bi-metal รุ่นพรีเมียม เหมาะสำหรับการตัดวัสดุที่มีความแข็งสูง มีมุมองศาฟันเลื่อยพิเศษ – 16˚ และมีฟันเลื่อยแบบ M51 HSS จึงมีความสามารถทนทานต่อความร้อน การสึกหรอ และแรงกระแทกที่เกิดขึ้นเมื่อตัดชิ้นงานได้เป็นอย่างดี 

ผู้ใช้งานใบเลื่อย Bi-metal จาก Hakansson สามารถวางใจได้ว่าคุณภาพของใบเลื่อยที่ได้รับนั้นอยู่ในระดับพรีเมียม มีตัวเลือกรุ่นให้ใช้งานหลากหลายครอบคลุมความต้องการ คุณภาพในการตัดชิ้นงานจะมีความเรียบร้อย ใช้เวลาในการตัดอย่างเหมาะสม ทั้งยังมีอายุการใช้งานที่คุ้มค่ากับการลงทุนอย่างแน่นอน

 สำหรับผู้ที่สนใจใบเลื่อย Bi-metal แบรนด์ Hakansson สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท แปซิฟิก เมอร์คิวรี่ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายใบเลื่อยสายพานคุณภาพสูงจากต่างประเทศ  และเครื่องเลื่อยสายพานตัดเหล็กระดับสากล มีให้เลือกใช้ทั้งแบบแนวตั้งและแนวนอน พร้อมทีมงานช่างมืออาชีพที่คอยให้บริการทั่วประเทศไทย 

ข้อมูลสำหรับติดต่อ:

บริษัท แปซิฟิก เมอร์คิวรี่ จำกัด

โทรศัพท์: 061-576-1182
Line ID: @pacificmercury
Email: [email protected]
Website: http://www.pacificmercury.com/

เนื้อหาที่น่าสนใจ:
เครื่องเลื่อยสายพานแนวตั้งและแนวนอน ความแตกต่างและการใช้งาน

Logo-Company
logo-company
Thossathip Soonsarthorn
"Judge a man by his questions rather than his answers" Voltaire