EY บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบและให้คำปรึกษาเปิดเผยการวิเคราะห์ข้อมูลสถานการณ์อุตสาหกรรมยานยนต์ระดับสากล สะท้อนให้เห็นว่าผู้ผลิตยานยนต์จากเอเชียนั้นเริ่มทิ้งระยะห่างจากผู้ผลิตเยอรมันที่ตามหลังมามากขึ้นเรื่อย ๆ
การประเมินนี้เกิดขึ้นจากการประเมินแบรนด์ชั้นนำระดับโลกกว่า 20 แบรนด์ สะท้อนให้เห็นว่าผู้ผลิตยานยนตจากเอเชียนั้นทิ้งระยะในการแข่งขันกับผู้ผลิตจากเยอรมนีไม่น้อย ในปัจจุบันผู้ผลิตยานยนต์จากเยอรมนีนั้นต้องเผชิญหน้ากับยอดขายและกำไรที่ลดลงในไตรมาสแรก ในขณะที่ผู้แข่งขันในตลาดหน้าใหม่อย่างจีนได้พื้นที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ยอดขายรวมจากแบรนด์เยอรมนี 3 แบรนด์นั้นลดลง 2.3% โดยมีเพียง Volkswagen เท่านั้นที่มียอดขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม BMW และ Mercedes นั้นมียอดที่ลดลงอย่างชัดเจน ซึ่งกำไรรวมถึงหมดลดลงประมาณ 33% จากการวิเคราะห์ ในส่วนของยานยนต์จากสหรัฐอเมริกาก็เป็ฯไปในทิศทางเดียวกันที่การลดลง 2.9%
แน่นอนว่าผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดในการแข่งขันนี้คงหนีไม่พ้นผู้ผลิตจากจีนที่ยอดขายเพิ่มขึ้น 15% และกำไรกระโดดไปที่ 66% ซึ่ง BYD และ Geely เป็นผู้เล่นหลัก แต่หากหันกลับมาพิจารณาในกลุ่มยานยนต์ประเทศอื่น ๆ ในเอเชียก็พบว่าผู้ผลิตยานยนต์จากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ยังคงแข่งขันได้ดีกว่าผู้ผลิตจากยุโรปและอเมริกา ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว 6 แบรนด์ด้านยานยนต์ที่มีกำไรมากที่สุดเป็นผู้ผลิตจากเอเชียเสีย 5 แบรนด์ มีเพียง BMW ที่ขึ้นมาอยู่ลำดับที่ 3 ได้ด้วยกำไรสุทธิที่ 9.3%
สถานการณ์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ในปัจจุบันอาจนับได้ว่าอยู่ในสภาวะที่มีความไม่แน่นอนสูง เป็นผลจากเทรนด์ด้านความยั่งยืนที่ทำให้ผู้บริโภคและนโยบายต่าง ๆ ผลักดันการเปลี่ยนผ่านจากเครื่องยนต์สันดาปภายในไปเป็นยานยนต์ไฟฟ้า ในขณะเดียวกันประเด็นของภาษีทรัมป์ 2.0 ยิ่งเป็นการเร่งให้เกิดผลกระทบด้าน Supply Chain ในระดับโลก ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ต้องเกิดการปรับตัวอย่างต่อเนื่องและไม่อาจใช้โมเดลธุรกิจแบบเดิม ๆ ได้อีกต่อไป
ที่มาข่าว:
all about industries
