สองค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น ปรับแผนตัดงบลงทุนในโครงการรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งโรงงานผลิต EV และแบตเตอรี่ Honda คาดสัดส่วนขาย EV ในปี 2030 ไปไม่ถึง 30% ตามเป้าหมายเดิม พร้อมมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยี Hybrid ยุคใหม่
Honda – Nissan แถลงข่าวหลังปิดปีงบประมาณ 2024 (เม.ย.67-มี.ค.68) โดยค่ายแรกรายได้พุ่ง 4.94 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.2% เมื่อเทียบกับปี 2023 ส่วนค่ายหลังยังขาดทุนกว่า 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งตามแผนฟื้นฟูกิจการของ Nissan ยังต้องปิดโรงงาน และปลดพนักงานเพิ่มเติมในหลายประเทศ
ก่อนหน้านี้ Honda – Nissan มีการเจรจาเพื่อควบรวมกิจการ แต่สุดท้ายดีลนี้ไม่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามบริษัทผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 2 และ 3 ของญี่ปุ่น ยังขยับแผนงานด้านยานยนต์ไฟฟ้าไปทิศทางเดียวกันคือ พัฒนาขุมพลังไฮบริดให้ถึงที่สุด ซึ่งจะเป็นรถที่สร้างยอดขายเป็นหลักในกลุ่มรถยนต์นั่ง ส่วนรถพลังงานไฟฟ้า 100% เน้นลงทุนและใช้ทรัพยากรจากพันธมิตรในจีน
อย่างไรก็ตาม Honda เพิ่งประกาศปรับแผนงานและเป้าหมายในระดับโลกของยานยนต์ไฟฟ้า EV โดยนายโทชิฮิโระ มิเบะ ผู้อำนวยการ ประธานกรรมการบริหาร และตัวแทนเจ้าหน้าที่บริหาร Honda Motor เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ยังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดนิ่ง ผนวกกับความไม่แน่นอนทางธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชะลอตัวของตลาดยานยนต์ไฟฟ้า (EV) จากหลายปัจจัย ดังนั้น เป้าหมายสัดส่วนยอดขาย EV ทั่วโลกของ Honda 30% ในปี 2030 อาจต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้
สำหรับแผนการลงทุนในกลยุทธ์ด้าน EV ที่ประกาศไว้เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งมีมูลค่า 10 ล้านล้านเยน Honda ได้ปรับลดวงเงินลงทุนลง 3 ล้านล้านเยน (ประมาณ 6.8 แสนล้านบาท) เหลือ 7 ล้านล้านเยน (ประมาณ 1.59 ล้านล้านบาท) ภายในปีงบประมาณ 2031 เป็นผลจากการตัดสินใจเลื่อนโครงการสร้าง value chain สำหรับ EV แบบครบวงจรในประเทศแคนาดา รวมถึงการยืดเวลาในการสร้างโรงงานที่จะผลิต EV เฉพาะออกไปก่อน
Honda มีแผนเปิดตัวรถไฮบริด (HEV) ยุคใหม่รวม 13 รุ่นทั่วโลก ภายในระยะเวลา 4 ปี นับตั้งแต่ปี 2027 เพื่อขยายกลุ่มยานยนต์ Hybrid ให้ครอบคลุมและตอบรับกับความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“การลงทุนที่เกี่ยวข้องกับ EV ลดลง 3 ล้านล้านเยน โดยฮอนด้า คาดว่าจะเพิ่มการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจยานยนต์ไฮบริด (HEV) เพียงเล็กน้อย ซึ่งในส่วนของผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น ฮอนด้าจะยังคงรักษาเป้าหมายที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ และมุ่งมั่นให้ได้ผลกำไรให้มากกว่า 1.6 ล้านล้านเยน (ประมาณ 3.6 แสนล้านบาท)” นายมิเบะ กล่าว
Nissan ยอมรับว่า ที่ผ่านมาวางแผนงานผิดด้านยานยนต์ไฟฟ้า Hybrid ในสหรัฐอเมริกา จึงต้องกลับมาทบทวนแผนใหม่ ซึ่งรวมถึงกลยุทธ์ต่าง ๆ ในตลาดใหญ่อย่างจีน ล่าสุด ยกเลิกแผนลงทุนสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ EV มูลค่ากว่า 3.6 หมื่นล้านบาท บนเกาะคิวชู ขณะเดียวกันยังมีข่าวว่า Nissan เตรียมปิดโรงงานเก่าแก่ที่ Oppama และ Shonan ในประเทศญี่ปุ่น อีกด้วย
สำหรับประเทศไทย Honda และ Nissan ขยายการผลิตและทำตลาดรถไฮบริด e:HEV และ e-Power ในยานยนต์รุ่นต่าง ๆ ส่วนยานยนต์ไฟฟ้า 100% จะเป็นการนำเข้ามาจากจีน ซึ่ง Honda เริ่มแล้วกับ e:N1 ส่วน ์Nissan ต้องรอปี 2026
ที่มาข่าว:
ฐานเศรษฐกิจ