ครม. เห็นชอบ มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการแปลงเป็นดิจิทัล หนุน SMEs ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล บริหารจัดการธุรกิจ รายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาท หักรายจ่ายได้ 2 เท่า ในช่วง 3 ปี
นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรมีนโยบายส่งเสริมให้ SMEs ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือในการดำเนินงานและการบริหารจัดการธุรกิจ จึงได้เสนอร่างพระราชกฤษฎีกา ออกมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการแปลงเป็นดิจิทัล (Digital Transformation) ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ต่อคณะรัฐมนตรี โดยให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล มีทุนที่ชำระแล้วในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการในรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 30 ล้านบาท สามารถหักรายจ่ายได้ 2 เท่า
สำหรับค่าซื้อหรือค่าจ้างทำหรือค่าใช้บริการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ฮาร์ดแวร์ อุปกรณ์อัจฉริยะ หรือบริการด้านดิจิทัลที่ได้ขึ้นทะเบียน ในบัญชีบริการดิจิทัลของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล แต่ไม่รวมถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ เฉพาะในส่วนที่ไม่เกิน 300,000 บาท จ่ายไปตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการมาตรการภาษีนี้ (วันที่ 24 มิถุนายน 2568) ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2570
อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวเพิ่มเติมว่า “มาตรการภาษีนี้จะทำให้ SMEs มีศักยภาพในการดำเนินกิจการและขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น รวมทั้งผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมดิจิทัลของไทยมีการพัฒนาสินค้าและบริการด้านดิจิทัลที่มีคุณภาพ อันจะส่งผลให้ตลาดสินค้าและบริการดิจิทัลของไทยเติบโตเพิ่มขึ้นตามมา”
หากพิจารณาในมุมของอุตสาหกรรมแล้วการสนับสนุนที่เกิดขึ้นจะเป็นโอกาสอย่างดียิ่งในการลงทุน Pilot Project สำหรับโรงงานที่ต้องการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลหรือระบบอัตโนมัติขนาดเล็ก เช่น Cobot ระดับเริ่มต้นอย่าง Dobot หรือ IIoT ในการเริ่มต้นเก็บข้อมูล รวมถึง Ecosystem ที่เกี่ยวข้อง เช่น ระบบเครือข่าย ตลอดจน Cloud ต่าง ๆ นับเป็นจุดเริ่มต้นการเพิ่มความคล่องตัวในการแข่งขันยุคใหม่ที่พลาดไม่ได้สำหรับอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดเล็กที่กำลังมองหาโอกาสใหม่ ๆ
ที่มาข่าว:
สำนักข่าวไทย









