NPE 2024

NPE 2024 งานแสดงสินค้าที่รวมนวัตกรรมพลาสติกจากทั่วโลก

Date Post
25.04.2024
Post Views

งานแสดงสินค้าพลาสติก NPE 2024 จะจัดขึ้นในวันที่ 6 – 10 พฤษภาคม 2024 ที่เมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา จัดขึ้นโดยสมาคมอุตสาหกรรมพลาสติก (Plastics Industry Association หรือ PLASTICS) เป็นหนึ่งในงานพลาสติกที่ใหญ่ที่สุดและตั้งตารอมากที่สุด โดยดึงดูดผู้เข้าร่วมชมงานและผู้จัดแสดงสินค้าจากทั่วโลก

NPE2024 จะจัดแสดงนวัตกรรมที่หลากหลายทั่วทั้งอุตสาหกรรมพลาสติก

(ที่มา: Plastics Industry Association)

NPE 2024 จะจัดขึ้นที่ Orange County Convention Center ในเมืองออร์แลนโด ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยครอบคลุมพื้นที่ 1.1 ล้านตารางฟุต คาดว่าจะดึงดูดผู้เข้าร่วมงานได้มากกว่า 55,000 คน จาก 110 ประเทศที่เป็นตัวแทนของอุตสาหกรรมพลาสติกทั่วโลก ตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงไปจนถึงนักศึกษา ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญจากภาคส่วนต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ ก่อสร้าง สินค้าอุปโภคบริโภค เป็นต้น

งาน NPE 2024 จะจัดแสดงนวัตกรรมที่หลากหลายทั่วทั้งอุตสาหกรรมพลาสติก ไฮไลต์ของงาน ได้แก่ วิทยาการหุ่นยนต์อัตโนมัติที่ทันสมัย  ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการพิมพ์ 3D และ 4D ตลอดจนการพัฒนาพอลิเมอร์อุตสาหกรรมและส่วนประกอบแม่พิมพ์ล่าสุด โดยมีผู้จัดแสดงสินค้าภายในงานมากกว่า 2,000 บริษัท รวมถึงผู้จัดแสดงสินค้าที่มาเป็นครั้งแรกถึง 355 ราย 

ภายในงานนี้แบ่งออกเป็น 6 โซนเทคโนโลยี เพื่อรับประกันได้ว่าผู้เข้าร่วมงานสามารถเข้าชมงานได้อย่างตรงเป้าหมาย

  • โซนขวด (Bottle) เทคโนโลยีการบรรจุขวดล่าสุด ตั้งแต่นวัตกรรมป้องกันการซึมผ่าน (Barrier) ไปจนถึงเครื่องมือแม่พิมพ์เป่าขึ้นรูปขวดพลาสติก
  • โซนรีไซเคิลและความยั่งยืน (Recycling & Sustainability) โซนนี้จะจัดแสดงเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่มีเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพิ่มการใช้วัสดุรีไซเคิล และส่งเสริมทรัพยากรหมุนเวียน
  • โซนวิทยาศาสตร์วัสดุ (Material Science) เป็นโซนเกี่ยวกับสารเติมแต่ง สารสี เรซิน และพอลิเมอร์
  • โซนการผลิตขั้นสูง (Advanced Manufacturing) พื้นที่นี้จะเน้นความก้าวหน้าด้านวัสดุทางการแพทย์และความปลอดภัยของยานยนต์
  • โซนแม่พิมพ์ (Moldmaking) เป็นพื้นที่จัดแสดงอนาคตของการออกแบบและผลิตแม่พิมพ์ รวมถึงเทคนิคและเครื่องมือที่คิดค้นขึ้นมาใหม่
  • โซนบรรจุภัณฑ์ (Packaging) จัดแสดงเกี่ยวกับระบบอัตโนมัติ การพิมพ์ และการออกแบบบรรจุภัณฑ์แบบแข็งและยืดหยุ่น 

โปรแกรมไฮไลต์อื่น ๆ 

นอกจากงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับพลาสติกดังกล่าวแล้ว ยังมีหัวข้อต่าง ๆ จากวิทยากรมากกว่า 100 ท่าน ที่จะมานำเสนอโปรแกรมที่ครอบคลุมเกี่ยวกับนวัตกรรม ความยั่งยืน และความร่วมมือของอุตสาหกรรม ซึ่งโปรแกรมใหม่สำหรับปีนี้ คือ ศูนย์กลางการหมุนเวียน (Circularity Hub) ที่จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเศรษฐกิจหมุนเวียนของพลาสติก

นอกจากนี้ สมาคมอุตสาหกรรมพลาสติกยังได้เชิญ Michael Heinz, Chairman และ CEO ของ BASF Corporation เป็น Keynote Speaker โดยจะกล่าวถึงหัวข้อต่าง ๆ รวมถึงความท้าทายที่อุตสาหกรรมต้องเผชิญ ความสำคัญของการทำงานร่วมกันตลอดห่วงโซ่คุณค่า และอนาคตของความยั่งยืน โดยมีหัวข้อประเด็นสำคัญ “การเดินทางของพลาสติก คือ ถนนสู่อนาคตที่ยั่งยืน” (“Our Plastics Journey: The Road to a Sustainable Future”) ในวันพุธที่ 8 พฤษภาคม เวลา 8.00 น. ที่ Chapin Theatre ณ Orange County Convention Center

พลาสติกชีวภาพและความยั่งยืน

NPE 2024 ยังเป็นเวทีกลางสำหรับผู้จัดแสดงพลาสติกชีวภาพมากกว่า 45 ราย ซึ่งเป็นการวมตัวกันที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา บริษัทชั้นนำต่าง ๆ จะจัดแสดงสินค้าเกี่ยวกับพอลิเมอร์พลาสติกชีวภาพและสารเติมแต่งโดยเน้นที่โซลูชันความยั่งยืน 

Patrick Krieger, Vice President of Sustainability ของสมาคมอุตสาหกรรมพลาสติก (PLASTICS) เปิดเผยว่า การจัดแสดงงานมุ่งเน้นการดำเนินการเกี่ยวกับวัตถุดิบตั้งต้นที่หมุนเวียนได้ และการผลิตที่มีประสิทธิภาพพลังงานเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้เข้าร่วมงานนำแนวทางปฏิบัติอุตสาหกรรมที่ยั่งยืนไปใช้

NPE 2024 ส่งเสริมการเจรจาและความร่วมมือในระดับนานาชาติ

งานแสดงสินค้า NPE 2024 เป็นการส่งเสริมการเจรจาระหว่างประเทศและความร่วมมือกับผู้จัดแสดงสินค้าจาก 34 ประเทศ และกว่า 360 รายที่เป็นผู้จัดแสดงในครั้งแรก นอกจากจะเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์แล้ว ยังส่งเสริมนวัตกรรมทางเทคโนโลยี สร้างการเรียนรู้ เครือข่าย และค้นพบเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในวงการอุตสาหกรรมพลาสติกด้วย

บทความอ้างอิง: https://www.etmm-online.com

Logo-Company
Logo-Company
Logo-Company
logo-company
Kasiwoot T.
อดีตวิศวกรโรงงาน (Industrial Engineer) บริษัทผลิตฮาร์ดดิสก์ ที่ผันตัวมาทำงานด้านการขายและการตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคและส่งออก มีประสบการณ์อยู่ในช่วงการเปลี่ยนถ่ายของโรงงานชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์จากการใช้แรงงานคนแบบดั้งเดิม (Labor Intensive) เป็นการผลิตระบบอัตโนมัติด้วยเครื่องจักรทั้งหมด 24 ชม. (Full automation)