Friday, April 26Modern Manufacturing
×

สสว. จับมือ ส.อ.ท. เชื่อมระบบฐานข้อมูล SME Big Data

สสว. จับมือ ส.อ.ท. MOU เชื่อมระบบฐานข้อมูล SME Big Data/ Master Data เพื่อให้เอสเอ็มอีใช้เป็นแนวทางในการคาดการณ์ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

สสว. จับมือ ส.อ.ท. เชื่อมระบบฐานข้อมูล SME Big Data

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวภายหลังร่วมลงนามในพิธีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการบูรณาการข้อมูลในระบบ SME Big Data เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ระหว่าง สสว. กับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยว่า การลงนามความร่วมมือการบูรณาการข้อมูลในระบบ SME Big Data จึงถือเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐ และภาคเอกชนที่จะพัฒนาและต่อยอดระบบฐานข้อมูล SME Big Data พัฒนาระบบบริการด้านข้อมูล หรือ Data service ร่วมกัน เพื่อเป็นเครื่องมือในการช่วยส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจ อาทิ ระบบประเมินสมรรถนะธุรกิจ (Benchmark) ระบบข้อมูลเตือนภัยทางธุรกิจ (Data warning) ข้อมูลพยากรณ์ภาวะอุตสาหกรรม (Data Prediction) โดยเฉพาะข้อมูลจาก DASHBOARD 

สสว. จับมือ ส.อ.ท. เชื่อมระบบฐานข้อมูล SME Big Data

ซึ่ง สสว. ได้ริเริ่มและจัดทำ ซึ่งสามารถสืบค้นได้ที่ www.sme.go.th โดยข้อมูลเหล่านี้ จะเป็นข้อมูลที่ทำให้เอสเอสอีสามารถมองไปข้างหน้าได้ โดยการนำข้อมูลต่างๆ มาวิเคราะห์ เพื่อให้มองเห็นภาพ และคาดการณ์ต่างๆ สำหรับการดำเนินธุรกิจ ซึ่งข้อมูลมีย้อนหลังถึง 10 ปี ที่ผู้ประกอบการสามารถดูข้อมูล DASHBOARD ขณะนี้ เป็นข้อมูลถึงเดือนเมษายน 2564 และภายในสัปดาห์หน้า ก็จะเป็นข้อมูลที่แสดงถึง พฤษภาคม 2564

โดนใจฝ่ายจัดซื้อ ค้นหาสินค้าอุตสาหกรรม 600,000 รายการ ผ่าน Purchasing Manager | RS Components

“เรามีข้อมูลตั้งแต่ปี 2553 หรือย้อนหลังได้ถึง 10 ปี เพราะฉะนั้น หน่วยธุรกิจต้องเป็นผู้คาดการณ์จากข้อมูล เช่น เลือกกลุ่มการผลิต เลือกโปรไฟล์ และเซ็กเมนต์ที่ตนเองสนใจ ซึ่งข้อมูลใน DASHBOARD จะเป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนที่ ผู้ประกอบการ เห็นถึงสถานการณ์ปัจจุบัน และสามารถนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนดำเนินธุรกิจในอนาคตได้”

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ถือเป็นฐานรากที่สำคัญของประเทศ โดยมีเอสเอ็มอีเป็นสัดส่วนมากถึงร้อยละ 99.54 ของวิสาหกิจทั้งประเทศ หรือมีจำนวนมากกว่า 3.13 ล้านราย มีการจ้างงานกว่า 12.71 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 71.69 ของการจ้างงานทั้งหมดของประเทศ มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ที่เกิดจาก SMEs ประมาณร้อยละ 34.7 ของ GDP ทั้งประเทศในไตรมาสที่ 1/2564 ดังนั้นการส่งเสริมให้เอสเอ็มอีเข้มแข็งจึงเป็นกลไกที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคต

ที่ผ่านมาสภาอุตสาหกรรมฯ ได้ร่วมมือกับ สสว. ในการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการในทุกมิติ อาทิ การยกระดับผลิตภาพ เทคโนโลยี และนวัตกรรม การส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ส่งเสริมการเข้าถึงตลาด การพัฒนาศักยภาพแรงงาน และการพัฒนา Startup เป็นต้น โดยมีเป้าหมายร่วมกันเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของเอสเอ็มอีไทย ให้สามารถเติบโตและแข่งขันได้ในระดับสากล

ปัจจุบันข้อมูล Big data ได้เข้ามามีบทบาทและมีอิทธิพลต่อการดำเนินธุรกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้หน่วยงานหรือองค์การทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ต่างพยายามที่จะปรับเปลี่ยนแผนการดำเนินงานและกลยุทธ์ในการบริหารองค์กร โดยการนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจให้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า คาดการณ์แนวโน้มของธุรกิจ การเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ลดต้นทุน การพัฒนาสินค้าหรือบริการใหม่ๆ 

รวมทั้ง เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจ Big Data จึงเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่จะมาตอบโจทย์ความต้องการของภาคธุรกิจ และเป็นตัวช่วยสำคัญในการเร่งเครื่องภาคเอกชนให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น

 ดังนั้น การลงนามความร่วมมือการบูรณาการข้อมูลในระบบ  SME Big Data จึงถือเป็นก้าวที่สำคัญระหว่างภาครัฐและเอกชน ในการเชื่อมโยงและพัฒนาฐานข้อมูล Big Data ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมของประเทศในรูปแบบการรวมศูนย์ข้อมูล หรือ Data Centric ให้ครอบคลุมทั้งในมิติรายประเภทธุรกิจ (Sector-specific)  เชิงพื้นที่ (Area-specific) และเชิงประเด็น (Issue-based) รวมทั้ง การบูรณาการความร่วมมือในการวิเคราะห์ (Data Analytic) และการคาดการณ์ทิศทางธุรกิจและอุตสาหกรรมในอนาคต (Prediction) เพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs สามารถนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการวิเคราะห์วางแผนต่อยอดทางธุรกิจ และเตรียมความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้

Nichaphan W.
Marketing
READ MORE
×