Friday, April 19Modern Manufacturing
×

“สุริยะ” สั่งเติมพลัง SMEs ไทย 4 หมื่นล้านบาท

“สุริยะ” สั่งเติมพลัง SMEsไทย เดินหน้าธุรกิจหลังวิกฤตโควิด-19 มอบ ธพว. อัดฉีดสินเชื่อ 4 หมื่นล้านบาท ปูพรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั่วประเทศ

“สุริยะ” สั่งเติมพลัง SMEs ไทย 4 หมื่นล้านบาท

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวในงาน “เติมพลัง SMEsไทย ก้าวไปด้วยกัน” ว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19  ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างรุนแรง ทั้งทางตรงและทางอ้อม  อย่างไรก็ตาม เวลานี้สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายดีขึ้นโดยลำดับ กระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank จึงได้มอบหมายให้ ธพว. เร่งช่วยเหลือฟื้นฟูธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเพิ่มเติมจากที่ ธพว. ได้ดำเนินมาแล้ว  โดยเดินหน้าเติมทุนสินเชื่อเงื่อนไขพิเศษ เพื่อให้เอสเอ็มอีทุกกลุ่มธุรกิจทั่วประเทศ มีเงินทุนไปหมุนเวียน เสริมสภาพคล่อง จ้างงาน และฟื้นฟูธุรกิจให้กลับคืนมาสามารถดำเนินการได้ดีอีกครั้ง คาดจะอนุมัติสินเชื่อได้กว่า 40,000 ล้านบาท ช่วยเอสเอ็มอีได้ประมาณ 24,000 กิจการ ส่งผลดีต่อไปยังระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ  เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้สู่ท้องถิ่น ช่วยรักษาการจ้างงานประมาณ  120,000 ราย สร้างมูลค่าหมุนเวียนทางเศรษฐกิจประมาณ 90,000 ล้านบาท

“สุริยะ” สั่งเติมพลัง SMEs ไทย 4 หมื่นล้านบาท

สำหรับสินเชื่อของ ธพว.  ประกอบด้วย สินเชื่อวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสภาพคล่อง สำรองเป็นค่าใช้จ่าย   ได้แก่ สินเชื่อรายเล็ก  Extra Cash  สำหรับผู้ประกอบการนิติบุคคลธุรกิจการท่องเที่ยว ได้แก่ ธุรกิจทัวร์ ธุรกิจสปา ธุรกิจขนส่งที่เกี่ยวเนื่อง (รถทัวร์ รถบัส รถตู้ รถแท็กซี่ เรือนำเที่ยว รถเช่า)  บริษัทนำเที่ยว โรงแรม ห้องพัก และร้านอาหาร วงเงินกู้สูงสุด 3 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย 2 ปีแรก 3% ต่อปี และไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน    สินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น  3%ต่อปี  3 ปีแรก  และสินเชื่อ soft loan ธปท.   อัตราดอกเบี้ย 2%ต่อปี    อีกทั้ง ยังมีสินเชื่อวัตถุประสงค์เพื่อลงทุน ขยาย ปรับปรุงกิจการ ได้แก่ สินเชื่อเสริมสภาพคล่อง SME D Happy อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 4.375% ต่อปี และสินเชื่อ SMART SMEs  อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 5% ต่อปี  แถมยังรับรีไฟแนนซ์ (Refinance)  

นอกจากนั้น มอบหมายให้ ธพว. เติมทุนจากกระทรวงอุตสาหกรรมให้แก่ลูกค้าในโครงการสินเชื่อประชารัฐ แบ่งเป็น “โครงการสินเชื่อกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ” (สินเชื่อประชารัฐ)   และ “โครงการฟื้นฟูและเสริมศักยภาพวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสำหรับ SMEsคนตัวเล็ก” (สินเชื่อ SMEs คนตัวเล็ก)  คิดอัตราดอกเบี้ย 1% ต่อปี      และร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ดำเนินการสินเชื่อ “SMEs One”   คิดอัตราดอกเบี้ย 1% ต่อปี ปลอดชำระคืนเงินต้นสูงสุด 12 เดือน

ด้าน นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม  ในฐานะประธานกรรมการ  ธพว. เผยว่า ธนาคารจะกระจายการสนับสนุนเอสเอ็มอีทั่วประเทศครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจ ด้วยการใช้ออฟไลน์ควบคู่ออนไลน์  จับมือกับหน่วยงานพันธมิตรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนสถาบันการศึกษาต่างๆ  เพื่อผลักดันเอสเอ็มอีทั่วประเทศให้เข้าถึงความช่วยเหลือทางการเงินของ ธพว. มากที่สุด

ทั้งนี้   ที่ผ่านมา ธพว.  ดำเนินมาตรการเยียวยาช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ภายใต้ชื่อมาตรการ “ลด-พัก-ขยาย-ผ่อน-เพิ่ม”  โดย  ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2563 มีเอสเอ็มอีไทยเข้าสู่มาตรการแล้ว  9,458 ราย คิดเป็นมูลค่ารวม 14,924.63 ล้านบาท แบ่งเป็น กลุ่มได้รับผลกระทบทางตรง 4,892 ราย คิดเป็นมูลค่า 7,082 ล้านบาท และกลุ่มได้รับผลกระทบทางอ้อม 4,566 ราย คิดเป็นมูลค่า 7,842.63 ล้านบาท  อีกทั้ง ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึง 15 พ.ค.2563 ธพว. ได้เติมทุนช่วยเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไปแล้ว จำนวน 3,329 ราย วงเงินรวม 6,231.31 ล้านบาท

นอกจากนั้น  ธพว. ยังช่วยเหลือลูกค้าลดภาระค่าใช้จ่าย   ตามนโยบายธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)  โดยชะลอการชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยอัตโนมัติ สูงสุด 6 เดือน  ให้ลูกค้าทุกรายที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน  100 ล้านบาท   โดยมีลูกค้า ธพว. ได้รับการชะลอการชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยอัตโนมัติจำนวน 43,215 ราย คิดเป็นมูลค่ารวม 66,479 ล้านบาท  ซึ่งแม้มาตรการนี้ จะส่งผลให้ ธพว. สูญเสียรายได้เดือนละกว่า 2,100 ล้านบาท เป็นเวลา 6 เดือน แต่ธนาคารก็ยินดี เพราะได้มีส่วนช่วยเหลือลูกค้าและส่งเงินกลับคืนเข้าหมุนเวียนสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 12,600 ล้านบาท  

ขณะเดียวกัน ธพว.  ดำเนินมาตรการพักชำระหนี้เงินต้น สูงสุด 12 เดือน ให้แก่ผู้ประกอบการกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ กลุ่มเป้าหมายประมาณ 10,000 ราย ภาระหนี้รวม 11,800 ล้านบาท  นับตั้งแต่เปิดรับคำขอเข้าร่วมโครงการ เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา นับถึงวันที่ 26 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา มีลูกค้ากองทุนประชารัฐเข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 2,961 ราย วงเงินประมาณ 5,516 ล้านบาท 

นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ  ธพว. กล่าวเสริมว่า  แนวทางการช่วยเหลือฟื้นฟูเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19  นอกจากด้านการเงินแล้ว  ธนาคารยังมุ่งเติมความรู้ควบคู่ไปด้วยเสมอ เพื่อจะเสริมภูมิคุ้มกันธุรกิจ  ช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถปรับตัวก้าวฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไปได้ รวมถึง ยังเป็นการเพิ่มศักยภาพให้ธุรกิจแข็งแกร่งกว่าเดิมที่เคยเป็นมา  ช่วยให้ในอนาคตธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน ได้แก่ “วัคซีนเติมความรู้”  อบรมออนไลน์ ด้วยหลักสูตรเรียนรู้ด้วยตัวเองที่เว็บไซต์ wdev.smebank.co.th  ซึ่งแบ่งเป็น  4 ห้องเรียน กว่า 40 หลักสูตร ได้แก่ 1.ห้องเรียนการตลาด เช่น การโปรโมทสินค้าโซเชียลมีเดีย การทำตลาด E-Commerce  เป็นต้น 2.ห้องเรียนด้านบริหารจัดการ เช่น การเขียนแผนธุรกิจ  การลงทุนแฟรนไชส์   3.ห้องเรียนด้านบัญชีและการเงิน เช่น การทำงบการเงิน การทำบัญชีอย่างง่าย และ 4.ห้องเรียนด้านการผลิต/กระบวนการ/มาตรฐาน   เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์  มาตรฐานการผลิตสินค้าอาหาร เป็นต้น  ( ณ 23 พ.ค. 2563   ผู้เข้าใช้บริการ 3,086 ราย)   “วัคซีนเพิ่มรายได้” ช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีขายสินค้าในตลาดนัดออนไลน์ สร้างโอกาสจับคู่ธุรกิจ ด้วยเฟซบุ๊กกรุ๊ป “ฝากร้านฟรี SME D Bank”  ในแฟนเพจ powersmethai  (ณ 23 พ.ค. 2563   ผู้เข้าใช้บริการ 6,605 ราย)        และ “วัคซีนขยายตลาด” ดันสินค้าขยายตลาดผ่านแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ชื่อดัง เช่น Shopee, LAZADA, Thailandpostmart.com, Alibaba, LINE, JD Central เป็นต้น  (ณ 23 พ.ค. 2563   ผู้เข้าใช้บริการ 3,153 ราย)

โครงการ One Hero One Community  สร้างผู้ประกอบการ hero ใน 77จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนโดยจ้างนักศึกษาจบใหม่หรือแรงงานที่กลับบ้านเกิดให้มีงานทำโดยอบรมให้เป็นผู้ประสานกับวิสาหกิจชุมชนในการยกระดับสินค้าและบริการเป้าหมาย 1,000 สินค้า 1,000 ชุมชนทั่วประเทศ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ 15-20%

นอกจากนั้น  ธพว.ยังดำเนินกิจกรรมช่วยเหลือดูแลสังคมไทย ด้วยการเปิด “ตู้ปันสุข ธพว.” ตั้งตู้รับบริจาคข้าวสาร อาหารแห้ง และของที่ใช้ในชีวิตประจำวัน จำนวน 2 ตู้  ด้านหน้าอาคาร SME Bank Tower สำนักงานใหญ่  เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน  อีกทั้ง ส่งมอบอุปกรณ์  เช่น น้ำดื่ม   หน้ากากผ้า  Face shield และเจลแอลกอฮอล์ เป็นต้น ให้แก่กรุงเทพมหานคร (กทม.) และหน่วยงานต่างๆ  เพื่อใช้เป็นเสบียง รวมถึงใช้ป้องกันและลดความเสี่ยงให้กับเจ้าหน้าที่ กทม. ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอาสาสมัครจากมูลนิธิต่างๆ

Nichaphan W.
Marketing
READ MORE
×