Tuesday, March 21Modern Manufacturing
×

Apple ประกาศลดการปล่อยคาร์บอนทั้ง Supply chain ภายในปี 2030

Apple ประกาศลดการปล่อยคาร์บอนทั้ง Supply chain ภายในปี 2030

ปัจจุบันที่ผู้บริโภคและผู้ประกอบการหลายแห่งเริ่มให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยคาร์บอนกันมากขึ้นเรื่อย ๆ นั้น ทำให้บริษัทผู้ผลิตเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Apple เองก็ได้เดินหน้าประกาศนโยบายลดการปล่อยคาร์บอนให้เป็นศูนย์แล้วเช่นกัน

Apple ประกาศลดการปล่อยคาร์บอนทั้ง Supply chain ภายในปี 2030

Apple ได้ประกาศขยายการลงทุนในด้านพลังงานสะอาดและการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม พร้อมร่วมมือกับซัพพลายเออร์ในการลดการปล่อยคาร์บอนให้เป็นศูนย์ในการผลิตอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับ Apple ภายในปี 2030

Apple ปรับ Global supply chain ลดการปล่อยคาร์บอนในการผลิต

Apple ได้เริ่มเรียกร้องให้ผู้ผลิตใน Supply chain ของตนทั่วโลกเริ่มดำเนินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงและเดินหน้าเข้าสู่การเลือกใช้พลังงานสะอาด เช่นการใช้พลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนแบบ 100% ในการผลิต

Tim Cook, CEO ของ Apple ยังได้กล่าวว่า  “การต่อสู้กับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมถือเป็นหนึ่งในเรื่องที่ Apple ให้ความสำคัญอย่างเร่งด่วนที่สุด และในสถานการณ์ปัจจุบันก็ได้เวลาลงมือทำแล้ว”

Apple ยังได้ระบุ 3 เป้าหมายหลักเพื่อมุ่งเข้าสู่การปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ไปทั่วทั้ง Global supply chain ของ Apple ภายในปี 2030 ไว้ดังนี้ :

  1. ตั้งเป้าให้ซัพพลายเออร์กว่า 200 รายขึ้นไปมีการเปลี่ยนไปใช้งานพลังงานสะอาดเช่น พลังงานลมหรือพลังงานแสงอาทิตย์ในการผลิตอุปกรณ์ของ Apple
  1. ลงทุนเพิ่มการใช้งานพลังงานหมุนเวียนกว่า 3,000 GWh ต่อปี เพื่อรองรับการใช้งานพลังงานไฟฟ้ากับอุปกรณ์ของ Apple ทั่วทั้งทวีปยุโรป
  1. วางแผนลดการปล่อยคาร์บอนกว่า 1 ล้านเมตริกตันออกสู่ชั้นบรรยากาศภายในปี 2025 ผ่านกองทุนเพื่อการฟื้นฟูธรรมชาติ Apple’s restore fund ของบริษัท
Apple ประกาศลดการปล่อยคาร์บอนทั้ง Supply chain ภายในปี 2030
ที่มาภาพ : Xavier Wendling on Unsplash

ลดการปล่อยคาร์บอนอย่างต่อเนื่อง ใส่ใจผลกระทบสิ่งแวดล้อม

ปัจจุบัน Apple สามารถลดการปล่อยคาร์บอนลงได้แล้วกว่า 40% นับตั้งแต่ปี 2015 และยังคงเดินหน้าเปลี่ยนมาใช้งานแหล่งพลังงานสะอาดมากขึ้น และลดการปล่อยคาร์บอนทั้งของ Apple เองและของซัพพลายเออร์ทั่วโลกลงตามนโยบายการเปลี่ยนแปลงที่ตั้งไว้ภายในปี 2030

การปรับตัวของ Apple ในครั้งนี้ถือเป็นการแสดงออกถึงความใส่ใจในผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อม ที่ทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการหลายแห่งเริ่มให้ความสนใจมากขึ้นทุกปี ทั้งยังสอดคล้องต่อนโยบายขององค์การสหประชาชาติที่มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาอย่างยั่งยืนอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นตัวอย่างที่น่าชื่นชมให้แก่ผู้ประกอบการแหล่งอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดีครับ

Jirapat R.
"To see the world, things dangerous to come to, to see behind walls, draw closer, to find each other, and to feel. That is the purpose of life."
- The Secret Life of Walter Mitty
READ MORE
×